วิธีแก้สนุ๊กถ้าทักษิณเล่นเกมยุบสภา

วิธีแก้สนุ๊กถ้าทักษิณเล่นเกมยุบสภา - update

โดย จิตตนาถ ลิ้มทองกุล 24 กุมภาพันธ์ 2549 13:44 น.

ยังไม่ทันที่คอลัมน์นี้จะส่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันฉบับวันนี้(วันเสาร์ที่ 25 ก.พ. 2549)ด้วยการฟันธงว่าอย่างไรเสียนายกทักษิณต้องชิงยุบสภาก่อนอย่างแน่นอน ทั้งๆที่เพิ่งส่งไปลงในเว็ปต์ไซต์ล่วงหน้าเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 24 ก.พ. 2549ในที่สุดแล้วนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ประกาศยุบสภาหลังจากกระแสข่าวลือที่เริ่มกระพืออย่างรุนแรงขณะที่เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระตำหนักจิตรลดาเมื่อช่วงบ่ายแก่ๆวันเดียวกัน

แม้ว่าตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะพยายามเล่นปาหี่ทางการเมืองเพื่อที่จะกลบกระแสให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนหลงทางมาโดยตลอด แต่กลับไม่สร้างความแปลกใจให้กับบรรดาคนรู้ทันทั้งหลายเพราะส่วนใหญ่ก็รู้ทางมวยของนายกทักษิณกันดีอยู่แล้วว่าต้องหักคอทิ้งไพ่ยุบสภาอย่างแน่นอน เพราะนั่นเป็นวิถีทางลงจากเก้าอี้นายกที่เซพที่สุดแล้วสำหรับตนเองและยังอาจสามารถใช้เหลี่ยมทางการเมืองกลับมาเป็นใหญ่ได้อีกครั้ง

นับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดหลังจากการเดินสายเช็คเรตติ้งดอดเข้าพบป๋าเปรม รวมถึง การเข้าหารือกับพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เพื่อตอกย้ำการตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพราะมองแล้วไม่เห็นทางเหลือรอดของตัวเองแม้แต่ลมหายใจหากไม่ตัดสินใจชิงลงมือก่อนวันอาทิตย์ที่26 ก.พ. 2549 ที่ประชาชนชาวไทยจากทุกสารทิศนัดรวมพลกันขับไล่เพื่อเอาประเทศไทยของเราคืนมา

แน่นอนว่ากรณีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรย่อมต้องรักษาการเป็นนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม และย่อมต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิตในสองเรื่องภายในวาระที่เหลืออยู่ เรื่องแรกอันเป็นเรื่องด่วนที่สุดคือรีบจัดแจงโยกย้ายสินทรัพย์ของตัวเองทั้งหมดไปในที่ๆปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น หมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น,สิงคโปร์ หรือที่ไหนก็ตามแต่ เพราะนี่คือทุนรอนสุดท้ายหากต้องโดนอับเปหิจากประเทศไทยของเรา

การชิงยุบสภาในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการล้มกระดานเอาตัวรอดแบบหน้าด้านๆเพื่อลดแรงกดดันทางการเมืองแล้ว อีกนัยหนึ่งคือการเล่นเกมพิทักษ์ผลประโยชน์73,000ล้านของตนอย่างสุดฤทธิ์จากกรณีขายหุ้นชินคอร์ปให้กับเทมาเส็กที่มีการคาดเดาได้ว่าอาจมีสิทธิ์ถูกรัฐบาลสิงค์โปร์ยกเลิกบังคับให้ตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์ซื้อคืนไปหากมีการเคลื่อนไหวจากประชาชนที่รุนแรงและนำไปสู่ความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สิงคโปร์ ดังที่ประเทศไทยเคยได้รับบทเรียนมาแล้วจากการที่สถานทูตไทยถูกเผาในกัมพูชา จากการที่กลุ่มทุนธุรกิจและการเมืองของเข้าไปฮุปสัมทานในกัมพูชาอย่างไม่เกรงใจเจ้าของประเทศภายใต้ผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้นำกัมพูชา แม้ว่านายกทักษิณจะมีฤทธิ์เรียกลมเรียกฝนไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์เท่าเดิม แต่สิงคโปร์ก็ย่อมมองออกมาโอกาสทางการเมืองของทักษิณยังไม่หมดเสียทีเดียว

เรื่องที่สองดำเนินการทุกวิถีทางในการที่จะทำให้พรรคไทยรักไทยสามารถชนะการเลือกตั้งและทำให้ตัวเองกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกรอบ และจะเป็นการปฏิบัติการที่โฉดที่สุดที่ทักษิณและ ส.ส.ในสังกัดจะลงมือ ยืนยันว่าจะไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมไหนทั้งนั้นเพราะว่าเป็นการต่อสู้แบบถวายชีวิตไม่ต่างอะไรกับหมาจนตรอกที่ทำได้ทุกอย่างขอเพียงที่จะต่อลมหายใจทางการเมือง รักษาอำนาจของตนเอาไว้ให้นานที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแก้กฎหมาย การวางกำลังคน การใช้งบประมาณรัฐอย่างมหาศาลไปหาเสียงที่จะหนักยิ่งกว่ากรณีอาจสามารถโมเดลหลายเท่านัก

เราต้องยอมรับกันว่า แม้จะอยู่ในภาวะขาลงขนาดไหน แต่ทักษิณและพรรคไทยรักไทยก็ยังคงเป็นกลุ่มที่มีทุนทางการเมืองสูงที่สุดและเป็นผู้กุมอำนาจทางระบบราชการรวมถึงบรรดาองค์กรอิสระต่างๆอย่างค่อนข้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เมื่อบวกกับการยุบสภาแบบหักคอแล้วบรรดา ส.ส.ในสังกัดย่อมไม่อาจสละเรือหนีได้ซึ่งถือเป็นการบังคับให้ต้องมาตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดด้วยกัน

สิ่งที่เราควรต้องตระหนักกันก็คือเราจะยอมให้คนโกงที่มีผลประโยชน์ทางการเมืองทับซ้อนและหมดคุณสมบัติในการบริหารประเทศและพรรคพวกมาเป็นผู้ควบคุมระบบการเลือกตั้งที่ควรจะดำรงไว้ซึ่งความขาวสะอาดได้อย่างไร รวมทั้งเราจะยอมให้องค์กรอิสระที่เป็นร่างทรงของคนโกงคนนั้นเป็นผู้ตรวจสอบการเลือกตั้งได้อย่างไร ยกตัวอย่างง่ายๆจากตัวอย่างพฤติกรรมที่ผ่านมาของ ก.ล.ต. หรือ ศาลรัฐธรรมนูญ นั้นเชื่อว่าคงจะสามารถรับประกันความเป็นง่อยรัปประทานขององค์กรอิสระได้อย่างไร้ข้อกังขาอยู่แล้ว

ไม่ว่าพันธมิตรกู้ชาติจะขวางอย่างไร ตามหลักรัฐศาตร์หลักวิชาการแล้วทักษิณจะถือว่าพ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่กรณีซุกหุ้นแล้วหรือไม่ ตามกติกามารยาทและจริยธรรมทางการเมืองแล้วทักษิณมีสิทธิ์ยุบสภาหรือไม่ ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ต้องยอมรับกันว่าในที่สุดธนูก็พุ่งออกไปจากคันศรเป็นที่เรียบร้อย ยุทธศาสตร์ที่เร่งด่วนที่สุดของพันธมิตรประชาธิปไตยและประชาชนชาวไทยผู้รักชาติวันนี้จึงอยู่ที่การไล่บี้ทักษิณให้อยู่หมัดในการชุมนุมขับไล่ที่จะเกิดขึ้นวันอาทิตย์ที่26 กุมภาพันธ์ 2549 ที่กำลังจะมาถึง ในขณะที่ยุทธศาสตร์ฝ่ายทักษิณคือการเรียกคะแนนสงสารและอ้างกติกาทางการเมืองเพื่อความชอบธรรมในการเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรักษาการต่อไปและถือเป็นการวางสนุ๊กทางการเมืองของนายกทักษิณที่สร้างความเหนื่อยล้าให้กับประชาชนชาวไทยผู้รักชาติไม่น้อย

อย่างไรก็ตามถ้าทักษิณยังสามารถดิ้นเฮือกสุดท้ายรักษาที่มั่นสุดท้ายของตัวเองตรงนี้ได้อย่างเหนียวแน่น วิธีการแก้สนุ๊กกลับที่ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกันไล่ลงลำธารตามเอาใบข่อยไปขอดเกล็ดปลาไหลหน้าเหลี่ยมคือการขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานเป็นการด่วน อย่าปล่อยให้คนที่หมดความชอบธรรมในความเป็นนายกรัฐมนตรีลอยนวลหรือใช้แผนสำรองโดยการส่งนอมินีเข้ามาบริหารบ้านเมืองแทนดังเช่นที่เคยส่งนอมินีมาปล้นคนไทยเงียบๆไปแล้วหลายครั้ง

ตัวเลือกที่หลายสำนักเก็งเอาไว้ย่อมเป็นคนใกล้ชิดทักษิณที่น่าจะมีภาพลักษณ์ประนีประนอมกับประชาชนได้ไม่ว่าจะเป็น พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ,โภคิน ภลกุล , จาตุรน ฉายแสง ดอกเตอร์สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, ดอกเตอร์สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ โดยที่จริงแล้วต้องถือว่าผู้ที่ต้องถูกเว้นวรรคคนแรกคือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นความชอบธรรมในการส่งตัวแทนของตนเองย่อมต้องหมดไปด้วย

การขอนายกพระราชทานเพื่อสร้างสมดุลทางการเมืองแม้จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งแต่ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญที่มีผลต่อเนื่องของกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นตามมา หากยุทธศาสตร์นี้สามารถพัฒนาไปถึงการขอพระราชทานรัฐบาลชั่วคราวรวมถึงคณะกรรมการองค์กรอิสระชั่วคราวโดยเฉพาะ กกต. ที่มีความสำคัณยิ่งกับมาตรฐานการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมได้จะทำให้กระบวนการแทรกแซงทางการเมืองของทักษิณและพรรคไทยรักไทยเป็นไปได้ยากขึ้น และนำดุลยภาพกลับมาสู่สังคมไทยให้มีการทบทวนกันใหม่ในจากการเลือกตั้งที่จะมีผลตามมา

ถึงเวลานั้นแล้วถ้าทักษิณและไทยรักไทยเป็นทองแท้ที่ย่อมไม่กลัวไฟหลอมจะได้รับชัยชนะกลับมาบริหารบ้านเมืองอีกรอบเชื่อว่าประชาชนชาวไทยน่าจะยินยอมรับชะตากรรมกันแต่โดยดี ว่าแต่ว่าจะมีวันนั้นหรือเปล่า

ถ้าไม่อยากให้การต่อสู้เพื่อปลดแอกประเทศไทยต้องยืดเยื้อไปถึงขั้นนั้น ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ถ้าจะไล่ต้องไล่ให้จน จะบี้ต้องบี้ให้แบน จะฟันต้องฟันให้ขาด ถ้าทักษิณเปรียบเสมือนคนที่จะโดนรุกฆาตในเกมหมากรุกแล้วชิงล้มกระดานแบบหน้าด้านๆเพื่อขอเล่นเกมใหม่สิ่งที่ควรทำที่สุดอันดับแรกคือเอากระดานฟาดหัวพวกขี้แพ้เหลี่ยมจัดแบบนี้เพื่อเป็นการสั่งสอนให้รู้จักมารยาทของผู้เล่นที่ดีจากนั้นก็ไล่ลงเวทีไปให้หมดเรื่องหมดราว ดีกว่าเสียเวลาจะมาตั้งกระดานใหม่กับพวกเล่นขี้โกง สันดานเสีย สู้ เอาเวลาเอาสมองไปปรับกติกาใหม่ให้มีความยุติธรรมและโกงยากขึ้นพร้อมหากรรมการใหม่หาผู้เล่นใหม่ที่มีน้ำใจนักกีฬาเล่นอยู่ในกรอบดีกว่า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์