11 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ได้เป็นแขกรับเชิญร่วมพูดคุยในรายการ ต้องถาม ทางสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ ต่อกรณีการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา รวมถึงกรณีการยื่นถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รู้สึกลำบากใจเพราะการถอดถอนเป็นการลงโทษทางการเมือง และกำลังเป็นการลงโทษทางการเมืองกับนักการเมืองที่มีที่มาตามรัฐธรรมนูญปี 50 แต่เรากำลังจะเอากลุ่มบุคคล ที่ไม่ได้มาตามรัฐธรรมนูญปี 50 มาพิจารณาเรื่องนี้ แต่ถ้ามองในแง่พฤติกรรมก็บอกได้ว่าหากพฤติกรรมอย่างนี้ไม่มีบทลงโทษทางการเมืองเลย มันก็เป็นการส่งสัญญาณที่ผิด และอาจจะเป็นตัวอย่าง หากสิ่งที่ทาง สนช. กำลังออกแบบมาใหม่ แล้วยังมีประธานที่ยังทำหน้าที่ใกล้ชิดผ่านตนเองได้อีก ก็บอกได้เลยว่า ถึงจะออกแบบการเมืองอย่างไรก็ตาม เราก็จะไม่มีวันได้การเมืองที่สุจริต
ได้เป็นแขกรับเชิญร่วมพูดคุยในรายการ ต้องถาม ทางสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ ต่อกรณีการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา รวมถึงกรณีการยื่นถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รู้สึกลำบากใจเพราะการถอดถอนเป็นการลงโทษทางการเมือง และกำลังเป็นการลงโทษทางการเมืองกับนักการเมืองที่มีที่มาตามรัฐธรรมนูญปี 50 แต่เรากำลังจะเอากลุ่มบุคคล ที่ไม่ได้มาตามรัฐธรรมนูญปี 50 มาพิจารณาเรื่องนี้ แต่ถ้ามองในแง่พฤติกรรมก็บอกได้ว่าหากพฤติกรรมอย่างนี้ไม่มีบทลงโทษทางการเมืองเลย มันก็เป็นการส่งสัญญาณที่ผิด และอาจจะเป็นตัวอย่าง หากสิ่งที่ทาง สนช. กำลังออกแบบมาใหม่ แล้วยังมีประธานที่ยังทำหน้าที่ใกล้ชิดผ่านตนเองได้อีก ก็บอกได้เลยว่า ถึงจะออกแบบการเมืองอย่างไรก็ตาม เราก็จะไม่มีวันได้การเมืองที่สุจริต
พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่าตนเป็นเจ้าหลักการ เพราะถ้าตอบคำถาม ณ สถานการณ์หนึ่งแล้วถูกใจคน
แต่เราจะไม่มีทางคำตอบที่จะตอบเหตุการณ์ต่อไปในอนาคตหรือย้อนกลับไปเทียบเคียงกับอดีตได้ ถ้าเราไม่มองหลักการทางการเมืองเลย แล้วว่ากันไปเรื่อยๆ อะไรจะเกิดขึ้น เชื่อเลยว่ากระบวนการถอดถอนหลังจากนี้สมมติว่าสำเร็จ และสมมติว่าชอบด้วยกฎหมาย คิดว่าฝ่ายที่ถูกถอดถอนจะหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโจมตีไปอีกไม่จบไม่สิ้นหรือไม่ ซึ่งถ้าตนจำเป็นต้องเขียนรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็อาจจะต้องเขียนทางออกทางที่ 3 ซึ่งอาจจะต้องรอสภาที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาจัดการ
แต่เราจะไม่มีทางคำตอบที่จะตอบเหตุการณ์ต่อไปในอนาคตหรือย้อนกลับไปเทียบเคียงกับอดีตได้ ถ้าเราไม่มองหลักการทางการเมืองเลย แล้วว่ากันไปเรื่อยๆ อะไรจะเกิดขึ้น เชื่อเลยว่ากระบวนการถอดถอนหลังจากนี้สมมติว่าสำเร็จ และสมมติว่าชอบด้วยกฎหมาย คิดว่าฝ่ายที่ถูกถอดถอนจะหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นโจมตีไปอีกไม่จบไม่สิ้นหรือไม่ ซึ่งถ้าตนจำเป็นต้องเขียนรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็อาจจะต้องเขียนทางออกทางที่ 3 ซึ่งอาจจะต้องรอสภาที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาจัดการ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
