“ตู่”ขอตำรวจยึดหลักนิติธรรม

“ตู่”ขอตำรวจยึดหลักนิติธรรม

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นำคณะเข้าพบพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมอย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับคดีการจับกุมชายชุดดำ

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

พร้อมด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. นายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมอย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับคดีการจับกุมชายชุดดำ โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ30 นาที ด้าน นายจตุพร กล่าวว่า กลุ่ม นปช.มีจุดยืนชัดเจนมาตั้งแต่แรกว่า การตายของทหารและประชาชน ไม่ว่าคนร้ายจะเป็นชายชุดใดก็ตาม จะต้องถูกดำเนินคดีฐานฆ่าคนตายตามกฎหมาย และเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 53 จนถึงปัจจุบัน มีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพเกี่ยวกับการตายที่ผิดธรรมชาติ และมีเพียง 12 คดีที่ศาลได้ไต่สวนเสร็จแล้ว

พร้อมระบุว่าเป็นการตายที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

และมีอีกหลายคดีที่อยู่ในระหว่างการทำสำนวน ส่วน กรณีของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำสำนวนเสร็จสิ้น และอยู่ในชั้นพนักงานอัยการที่ต้องนำสำนวนมาไต่สวน ซึ่งทางกลุ่ม นปช. ยังติดใจและสงสัยต่อการแถลงข่าวกลุ่มชายชุดดำ เนื่องจากเห็นว่าทางตำรวจพยายามทำให้สังคมเข้าใจว่า กลุ่มชายชุดดำเป็นผู้ก่อเหตุทำให้ พล.อ.ร่มเกล้า อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) เสียชีวิต ขณะเข้าสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 53 และการแถลงข่าวพยายามทำให้สังคมเข้าใจว่าการชุมนุมเมื่อปี 53 เชื่อมโยงถึงปี 57 จึงเรียกร้องให้ตำรวจนำคดีผู้เสียชีวิตในปี 53 เข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยดีเอสไอ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

และยืนยันว่ากลุ่ม นปช.ยินดีให้ความร่วมมือในการสืบสวนคดีทางการเมืองให้เป็นไปตามหลักฐานและกฎหมาย โดยย้ำว่าการเคลื่อนไหวของ นปช.เป็นไปอย่างสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ

ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า วันนี้ นายจตุพร ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงตน
 
ให้ช่วยดูแลหรือดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆที่เป็นคดีความมั่นคง ให้อยู่บนพื้นที่ฐานหรือหลักนิติธรรมและความถูกต้อง ซึ่งตนได้ชี้แจงกับ นายจตุพร ว่า ตำรวจและพนักงานสอบสวนทุกคนได้ยึดหลักและแนวนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า การดำเนินคดีหรือดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับบุคคลต่างๆ และทุกฝ่าย ให้ทำด้วยความเสมอภาค ยึดถือหลักยุติธรรม ความถูกต้อง ไม่มีการให้ร้ายป้ายสี หรือกลั่นแกล้งอย่างเด็ดขาด โดยชี้แจงว่า คดีหลายคดีที่มีความเคลือบแคลงสงสัยกัน ขณะนี้คดีก็อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไออยู่แล้ว ซึ่งก็พ้นอำนาจการทำงานของตำรวจแล้ว สำหรับการดำเนินการคดีชายชุดดำ ไม่เคยพาดพิงถึงกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง และไม่เคยกล่าวว่ากลุ่มชายชุดดำเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า เพียงแต่จับกุมในข้อหาครอบครอบอาวุธสงครามเท่านั้น

อีกทั้งจุดเกิดเหตุก็อยู่คนละจุดกับที่ พล.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิต แต่ถ้าหากการสอบสวนขยายผลว่ามีความเชื่อมโยง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยเด็ดขาด
 
พร้อมยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่เคยคุกคามบีบคั้น หรือทำร้ายร่างกายผู้ถูกกล่าวหาให้รับสารภาพ และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย นอกจากนี้คดีทางการเมืองส่วนใหญ่จะเป็นความรับผิดชอบของดีเอสไอ รวมถึงคดีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53 ด้วย แต่คดีชายชุดดำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำ ไม่อยู่ในความรับชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่หากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนแล้วมีความเกี่ยวโยงกัน ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษสามารถเข้ามาตรวจสอบต่อได้ ทั้งนี้ นายจตุพร ก็พอใจในการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ.





เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์