มาร์คชมนโยบายรบ.ครอบคลุมทกด้าน ทำได้เป็นเรื่องดี

"มาร์ค"ชมนโยบายรบ.ครอบคลุมทกด้าน ทำได้เป็นเรื่องดี ชี้แก้กม.-ปราบทุจริตให้เสร็จใน1ปี

เมื่อวันที่ 11 กันยายน เวลา 10.15 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป.

กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า เป็นนโยบายที่เขียนค่อนชัดครอบคลุมเกือบทุกเรื่อง และไม่ใช่นโยบายเฉพาะปีนี้ โดยมีความต้องการที่จะให้มีภาพว่า ระยะกลาง ระยะยาวจะเป็นอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าเป็นภาระที่หนักมากที่จะสามารถทำได้ตามที่กำหนดไว้ แม้หลายเรื่องก็เขียนไว้ชัด เช่น ภาษีมรดก ภาษีทรัพย์สินและที่ดิน ปัญหาการลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงนโยบายป้องกันการทุจริต ถ้าทั้งหมดทำได้สำเร็จถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่บางเรื่องตนไม่แน่ใจว่า เมื่อเจอปัญหาจริงแล้วจะเป็นอย่างไร เช่น ปัญหาสินค้าเกษตร เพราะที่เขียนไว้เป็นเพียงหลักการ ว่าอยากลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพ

 แต่กรณีที่ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำจริงๆยังไม่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร ซึ่งตนเป็นห่วงเรื่องนี้เพราะภาวะเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของเกษตรกรค่อนข้างมาก ส่วนนโยบายอื่นๆจะเกี่ยวข้องกับการปฏิรูป เพราะในตัวนโยบายระบุว่า จะต้องทำงานคู่ขนานไปกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่จะต้องเร่งทำให้สำเร็จภายใน 1 ปีนั้น คงเป็นเรื่องข้อกฎหมาย
 
และหากกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องกับ สปช. ที่ต้องดูว่าทิศทางของ สปช.เป็นอย่างไร แต่ขณะนี้ก็เห็นว่ามีการเสนอกฎหมายเข้าไปใน สนช.ค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการปรับปรุงการขนส่งต่างๆ โดยในนโยบายมีการเขียนว่า คงไม่รอ สปช. ซึ่งรัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนว่าจะมีแนวทางอย่างไร เพราะการเดินหน้าบางเรื่อง เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริตก็สามารถเดินต่อได้ โดยไม่ต้องรอ สปช. แต่บางเรื่อง เช่น การแยกท่อก๊าซเป็นบริษัท ก็ไม่ควรเร่งรัด เพราะจะเป็นการชี้นำการปฏิรูปด้านพลังงาน

“ผมหวังว่าการอภิปรายใน สนช.สมาชิกสนช.จะต้องทำหน้าที่ในการซักถาม เพื่อให้มีความกระจ่างว่า ตกลงแล้วส่วนที่จะแบ่งระหว่างงานที่เสร็จช่วงระยะเวลา 1 ปีกว่า กับงานที่เห็นได้ว่าจะทำไม่เสร็จภายใน 1 ปี แต่ได้มีการวางแนวทางเอาไว้ รวมทั้งการทำงานกับ สปช. จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ ทั้งนี้เห็นว่าสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี คือ 1. การทำกติกาทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไปเกี่ยวข้องกับ สปช. และคณะกรรมาธิการยกร่าง แต่เรื่องนี้นี้ถ้าไม่เสร็จ คงไม่ได้ เพราะถ้าไม่เสร็จการเข้าสู่โรดแม๊ประยะที่ 3 ก็เกิดขึ้นไม่ได้ และ 2.ความคาดหวังของประชาชนในปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นและปัญหาในระบบราชการ ที่เบี่ยงเบนไปจากระบบคุณธรรม ที่ประชาชนต้องการเห็นการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม นอกจากนั้นคือปัญหาเร่งด่วนที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ผมว่าสิ่งเหล่านี้ถ้าทำได้ภายใน 1 ปี ก็น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลประกาศไว้” หัวหน้า ปชป. กล่าว

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ระบุนโยบายที่ทำออกมานั้นไม่ใช่ของพรรคการเมืองที่ต้องคำนึงถึงประชานิยม
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มองได้หลายมุม ในแง่หนึ่งคือการบอกว่า กำลังจะให้สังคมแก้ปัญหาประชานิยมที่ผ่านมา แต่ในอีกแง่หนึ่งอยากยืนยันว่า การที่พรรคการเมืองไปหาเสียง ก็ตอบสนองความต้องการของประชาชน ส่วนนโยบายของแต่ละพรรคก็มีความแตกต่างกันไป แต่ไม่ใช่นโยบายพรรคการเมืองทั้งหมดที่เป็นลักษณะประชานิยม ดังนั้นอยากให้ระมัดระวังว่า เมื่อหลีกเลี่ยงประชานิยมก็ดีแล้ว แต่อย่าไปไกลถึงขั้นไม่ตอบสนองประชาชน