ปู ยันไม่ทุจริตจำนำข้าว

วันที่ 8 ก.ย. ที่ประตู 1 สนามบินสุวรรณภูมิ  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์

ถึงกรณี การตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ขึ้นมาพิจารณาคดีร่วมกันพิจารณาภายใน 14 วัน กรณีการทุจริตโครงการจำนำข้าว  ว่า ได้รับทราบข้อมูลจากทนาย ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างขอให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่า  ไม่ได้ทำการทุจริต เราขอให้ว่า ไปตามพยานหลักฐาน และไม่อยากให้สังคมต่าง ๆ ออกมาชี้นำเรื่องดังกล่าว เพราะจะเป็นการชี้นำกระบวนการยุติธรรม ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและพยานหลักฐานจะดีกว่า เพราะขณะนี้คดีก็ยังไม่สิ้นสุด ขอให้ทุกอย่างสิ้นสุดก่อนดีกว่า ส่วนจะมีการใช้อำนาจพิเศษมาดำเนินการหรือแทรกแซงเรื่องดังกล่าวในชั้นอัยการหรือไม่นั้น ตนเชื่อมั่นว่าผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมจะยึดหลักกฎหมาย ยึดพยานหลักฐาน และคงไม่ให้ใครมาชี้นำให้ความยุติธรรมที่ควรจะมีอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันให้บิดเบือนไป เพื่อให้ความยุติธรรมคงอยู่และช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งทั้งหมดต่อไป

เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงไม่ต้องฝาก เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ก็มีความชำนาญ รู้หลาย ๆ เรื่อง และมีความสามารถอยู่แล้ว คงต้องให้เวลา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ คงปฏิบัติตามภารกิจและเป็นไปตามโรดแม็พที่สัญญาไว้กับประชาชน.

น.ส.ยิ่งลักษณ์  ยังได้กล่าวยืนยันถึงกระแสข่าว ด.ช. ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เตรียมไปศึกษาต่อต่างประเทศ ว่า 

ลูกชายยังศึกษาอยู่ที่ไทย และยังไม่คิดที่จะย้ายไปไหน ทั้งนี้ยังไม่ได้วางแผนให้ ด.ช.ศุภเสกข์ไปเรียนต่อต่างประเทศ ยังอยากให้อยู่ที่เมืองไทยก่อน เพราะตนเองก็มีลูกคนเดียว คิดถึงลูก และในยามนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ใกล้ชิดและมีเวลาให้รับส่งบุตรชายและมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น