ผบ.สส.ขอบคุณ ฮุนเซนเข้าใจไทย

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพไทย

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้การต้อนรับพล.ต.เพอร์รี่ ลิม เชง โยว(Perry Lim Cheng Yeow) ผู้บัญชาการทหารบกสิงคโปร์ ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยการหารือครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกสิงคโปร์ ได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน มีความเข้าใจสถานการณ์ในไทย ซึ่งมีความสงบเรียบร้อยดี และได้ขอบคุณกองทัพไทยที่ให้การสนับสนุนความร่วมมือ ทางทหารแก่กองทัพสิงคโปร์มาอย่างต่อเนื่อง
 
สำหรับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารของทั้งสองประเทศยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ
 
ทั้งด้านการฝึก การศึกษา การแลกเปลี่ยนข่าวสาร การช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้กองทัพสิงคโปร์ พร้อมจะร่วมมือกับไทยในทุกด้านเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมีเสถียรภาพของทั้งสองประเทศ ตลอดจนการสร้างความร่วมมือในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป

จากนั้นในเวลา 15.00 น.พล.อ.ธนะศักด์ ได้ให้การต้อนรับพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของกัมพูชา

พร้อมคณะนายทหารระดับสูงของกัมพูชา ซึ่งมี พล.ท.ฮุน มาเนต รองผบ.ทบ. และผบ.หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล กระทรวงกลาโหมกัมพูชา บุตรชายของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร่วมคณะในครั้งนี้ด้วย โดยพล.อ.ธนะศักด์ ได้กล่าวกับพล.อ.เตีย บันห์ ว่า ขอขอบคุณที่มาเยือนในครั้งนี้ และขอบคุณที่กัมพูชาเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย ซึ่งการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีความแน่นแฟ้นเป็นอย่างดี และขอฝากความขอบคุณไปถึงสมเด็จฮุนเซน ที่มีทัศนะที่ดีต่อประเทศไทยมาโดยตลอดด้วย

ด้านพล.อ.เตีย บันห์ ได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานของทั้งสองประเทศ มีความเข้าใจในสถานการณ์ของไทย

และยินดีให้การสนับสนุน คสช.ด้วยความจริงใจ มีความมั่นใจในโรดแม็พของ คสช. ว่าเป็นสิ่งที่ดีและจะประสบผลสำเร็จ อีกทั้งกัมพูชาขอขอบคุณการแก้ปัญหาแรงงานชาวกัมพูชา และมีความเข้าใจการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวของไทย เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายของไทย โดยฝ่ายกัมพูชายินดีสนับสนุนการแก้ไขปัญหาแรงงานให้เป็นไปตามแนวทางที่ไทย กำหนด ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ร่วมกันแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้กัมพูชาพร้อมที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองประเทศ และการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป.