ผลงาน2เดือนเข้าเป้าคสช.ตีปี๊บ!สลายสีเสื้อ-ได้รธน.

ผลงาน2เดือนเข้าเป้าคสช.ตีปี๊บ!สลายสีเสื้อ-ได้รธน.

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

ได้แถลงผลงานภายหลังการเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาโดยจัดทำเป็นรายการพิเศษใช้ชื่อว่า “สรุปผลงานในรอบ 2 เดือน” ออกอากากาศทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยทั้งระบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความยาวประมาณ 40 นาที

ทั้งนี้หาของรายการแบ่งเป็นภาพรวมของการดำเนินการขับเคลื่อนประเทศ (โรดแมป)ที่กำหนดไว้ 3 ระยะ

ซึ่งขณะนี้ดำเนินการอยู่ในช่วงระยะที่ 2 ที่เข้าสู่การจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว โดยมีทั้งหมด 17 หน้า ประกอบด้วย 48 มาตรา

สำหรับเนื้อหาการแถลงผลงานครั้งนี้ ทางคสช. ได้ระบุถึงความคืบหน้าในการขับเคลื่อนงานด้านต่างๆ อย่างเร่งด่วน
 
โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มงานใหญ่คือ 1.กลุ่มงานบริหารราชการแผ่นดิน 2. กลุ่มงานรักษาความสงบเรียบร้อย และ3. กลุ่มงานสร้างความปรองดอง และการปฏิรูป พร้อมกับย้ำถึงความสำเร็จของแต่ละกลุ่มงานสามารถปฏิบัติงานได้สัมฤทธิ์ผลตามเป้าที่คสช.ได้ประกาศไว้

โดยในส่วนงานความมั่นคงนั้น มีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหน้า
 
สามารถป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ การเล่นการพนัน การติดตามทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย การแก้ปัญหาการทุจริต การแพร่ระบาดของยาเสพติด ปัญห่แรงงาน และอาวุธสงคราม ตลอดจนสร้างความเข้าใจสถานการณ์กับนานาชาติเป็นที่น่าพอใจ

ด้านฝ่ายเศรษฐกิจ โดย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นหัวหน้า ได้เร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
 
การแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตร ยางพารา โดยเฉพาะแก้ปัญหาโครงการจำนำข้าวเปลือกประจำปี 56/75 ได้สำเร็จ รวมทั้งการแต่งตั้“คณะกรรมการนโยบาย และบริหารจัดการข้าว” ที่มีหัวหน้า คสช.เป็นประธานกรรมการได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข้าวให้เป็นไปอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ยังมีการฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน คสช.

ได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกและคณะกรรมการขับเคลื่อนความพร้อมเข้าสู่อาเซียน รวมทั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือBOI ซึ่งได้อนุมัติโครงการไปแล้วเกือบ 100 โครงการ มูลค่าการลงทุนเกือบ 200,000 ล้านบาท


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์