ดำรงค์เตรียมบุก คสช.แฉทุจริตโครงการสำรวจป่า

ดำรงค์เตรียมบุก คสช.แฉทุจริตโครงการสำรวจป่า

"ดำรงค์"แฉทุจริตโครงการสำรวจเขตป่า งบ 2.2 พันล้าน ชี้ไม่เคยลงพื้นที่สำรวจจริง แผนที่ใช้การไม่ได้ เตรียมบุกร้อง "คสช.-ดีเอสไอ" พรุ่งนี้ เหตุงบสูญเปล่า

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่า
 
ในฐานะอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดแถลงข่าวที่โรงแรมปริ๊นซ์ตัน ดินแดง ขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ตรวจสอบ โครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ หรือโครงการรีเชฟป่าของกระทรวงทรัพยากรฯ เพราะมีเงื่อนงำที่น่าสงสัยว่าจะเกิดการทุจริต และใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่า โดยในเรื่องนี้ ตนได้รับร้องเรียนมาจากเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่าการดำเนินการดังกล่าวที่มีความไม่ชอบมาพากล

นายดำรงค์ กล่าวว่า โครงการรีเชฟป่าเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

มีนายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็น รมว.ทรัพยากรฯ และนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช เป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ใช้งบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จำนวน 2,254 ล้านบาท  มีบริษัท อีเอสอาร์ไอ(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับจ้างทำโครงการ ลงนามทำสัญญาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.2552 ในสัญญาจ้างระหว่าง ทส.กับบริษัทดังกล่าว ระบุวัตถุประสงค์ โครงการ 3 อย่างคือ 1.เพื่อทำฐานข้อมูลแนวเขตที่ดินของรัฐประเภทต่าง ๆ 2.เพื่อทำฐานข้อมูลแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศปี พ.ศ.ต่าง ๆ และ 3.เพื่อศึกษารูปแบบ ออกแบบ จัดทำฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศภูมิประเทศในวงเงินงบประมาณจำนวน 2,254,000,000 บาท โดยต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 730 วัน แบ่งจ่ายเงินเป็น 10 งวด งวดแรก 5% งวดต่อมางวดละ 10% และงวดสุดท้าย 15%

นายดำรงค์ กล่าวต่อว่า ระหว่างการดำเนินงาน มีการเปลี่ยนแปลงตัวอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติหลายคน

เพราะอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติจะต้องทำหน้าที่เป็นประธานตรวจรับงาน ปรากฏว่าผ่านไป 3 อธิบดี สามารถเบิกจ่ายเงินได้เพียง 3 งวดเท่านั้น และเมื่อโครงการนี้ดำเนินการได้ 1 ปี กว่า ๆ นายศักดิ์สิทธิ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่ จ.น่าน นายสุวิทย์จึงแต่งตั้ง นายโชติ ตราชู ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ แทน และต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นอีก โดยมีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เข้ามาเป็น รมว.ทรัพยากรฯ และได้แต่งตั้งตนให้เป็นอธิบดี ซึ่งต้องเป็นประธานตรวจรับงานโครงการนี้ ซึ่งตนได้ตรวจดูสัญญา

พบว่า เหลือเวลาอีก 10 วัน จะสิ้นสุดโครงการนี้ แค่ยังค้างค่าใช้จ่ายกันอยู่อีก 7 งวด ก็เอะใจว่าเกิดอะไรขึ้น
 
จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์(สบอ.)ทั้ง 16 แห่ง ทั่วประเทศว่า ที่ผ่านมาโครงการนี้ ได้มีการลงพื้นที่รังวัด หรือตรวจสอบพื้นที่ ตามปกติของการทำแผนที่หรือไม่ ปรากฏว่าผู้อำนวยการสำนักทั้ง 16 แห่ง ตอบมาตรงกันว่า ไม่เคยลงพื้นที่ภาคสนามกันเลย มีแต่เรียกประชุมอยู่แต่ในสำนักงานเท่านั้น ตนจึงไม่ยอมตรวจรับ และทำหนังสือลาออกจากการเป็นประธานกรรมการ เพราะเห็นว่าโครงการนี้มีความไม่ชอบมาพากล  รวมทั้งได้ทำหนังสือร้องเรียนเรื่องนี้ไปยัง ป.ป.ช.ทางไปรษณีย์ แต่เรื่องก็เงียบหายไป

นายดำรงค์ กล่าวว่า ในฐานะที่ทำงานด้านการดูแลป่า ตนเห็นว่า งบประมาณ 2 พันกว่าล้านจะมีประโยชน์อย่างมาก

หากนำไปสร้างเป็นหน่วยพิทักษ์ป่าทั่วประเทศ ที่เวลานี้ยังขาดอยู่ถึง 500 หน่วย โดยเงินจำนวนดังกล่าวสามารถสร้างหน่วยพิทักษ์ป่า และว่าจ้างพนักงานพิทักษ์ป่าเพิ่มได้ถึง 200 หน่วย ในขณะที่เวลานี้ ไม่มีใครเอาแผนที่ที่ทำจากโครงการนี้ไปใช้เลย ถือว่าสูญงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยในวันที่ 4 ก.ค. เวลา 14.00 น. จะเข้าไปยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องนี้ด้วยตัวเองกับ คสช. และดีเอสไอ.




เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์