“เรืองไกร” โวย ป.ป.ช.ยุติสอบทรัพย์สิน “สุเทพ”

“เรืองไกร” โวย “ป.ป.ช.” ยุติตรวจสอบทรัพย์สิน-หนี้สิน “สุเทพ” ชี้ยังมีเหตุสงสัยไม่แจ้งบัญชีกู้ยืมเงิน วอนทบทวนอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ตนได้ร้องขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เลขาธิการ กปปส.ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง กรณีการกู้เงินจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศ และการกู้เงินจากบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ว่าจงใจไม่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ หรือไม่ ผลปรากฏว่า ป.ป.ช. มีมติยุติการตรวจสอบ เนื่องจากไม่พบว่านายสุเทพปกปิดข้อเท็จจริงหรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จแต่อย่างใด

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ตนในฐานะผู้ร้องไม่รู้สึกแปลกใจกับหนังสือที่อ้างถึงดังกล่าว เพราะมีหลายคำร้องที่เคยมีผลออกมาเช่นนี้

 แต่ในกรณีนี้มิอาจจะยอมรับได้ เนื่องจากในหนังสือที่อ้างถึง ป.ป.ช.กล่าวเองว่าได้ตรวจสอบทั้งด้านทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งตนเชื่อเช่นกันว่านายสุเทพกู้เงินจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด จริงตามที่แสดงหนี้สินไว้แต่เนื่องจากหนี้สินทั้งสองรายการมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 300 ล้านบาท ไม่ใช่ 30,000 บาท ที่จะหายไปได้ง่าย ๆ ซึ่งตามหลักแล้วก็ควรจะเป็นการกู้ยืมมาเพื่อลงทุนในทรัพย์สินชนิดใดชนิดหนึ่งของนายสุเทพ เช่น สวนยาง สวนปาล์ม

“นายสุเทพ แจ้งบัญชีว่ามีรายได้จากสวนยางหรือสวนปาล์มปีละหลายสิบล้านบาท แต่ก็ไม่มีการแจ้งทรัพย์สินที่เป็นไม้ยืนต้นประเภทสวนยางหรือสวนปาล์ม ที่ควรเป็นตัวก่อให้เกิดรายได้ไว้แต่อย่างใด กรณีนี้จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินที่มาจากการกู้ยืมเงินใช่หรือไม่ จึงขอทักท้วงให้ ป.ป.ช.ไปพิจารณาทบทวนและดำเนินการตรวจสอบใหม่ หากไม่เข้าใจเรื่องการบัญชีก็ควรขอความเห็นจากผู้ที่มีความรู้ทางบัญชีมาอธิบายให้ด้วย” นายเรืองไกร กล่าว.