ธีรยุทธ ขอดูคสช. 3 เดือนแล้วค่อยวิจารณ์



"ธีรยุทธ" ขอดูคสช. 3 เดือนแล้วค่อยวิจารณ์ - ฟุ้งพร้อมต้านเผด็จการทหาร แต่ขอเสนอปฏิรูปประเทศก่อน 

เวลา 11.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีงานเสวนาชุด "เหลียวหลังแลหน้า 8 ทศวรรษ อภิวัฒน์สังคมไทย" เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี แห่งการสถานปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีอาจารย์ นักศึกษาทั้งศิษย์เก่าและปัจจุบัน ตลอดจนถึงประชาชนทั่วไปเข้าร่วมฟังการเสวนาหลายร้อยคน 

 นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “เหลียวหลังแลหน้าการอภิวัฒน์สังคมไทย” ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า จะยังไม่พูดถึงการทำงานของ คสช.ที่ผ่านมา เหมือนอย่างที่หลายคนคาดหวังว่าตนจะพูด ซึ่งสาเหตุที่ยังไม่พูดวันนี้ ก็ไม่ได้เพราะว่ากลัวกฎอัยการศึกแต่อย่างใด แต่ตั้งใจว่าหลักจากนี้ 2-3 เดือน ตนถึงจะประเมินผลงานคสช.เพราะเขาขอเวลาทำงานก่อน ซึ่งก็จะชี้ให้เห็นการทำงานของคสช.ในแต่ละด้าน  

 นายธีรยุทธ กล่าวว่า แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 แต่สิทธิอำนาจและเสรีภาพก็ไม่ได้ถูกกระจายลงไปถึงชาวบ้าน คนไทยไม่ได้รับ ทั้งการอบรบบ่มเพาะวัฒนธรรมประชาธิปไตยในโรงเรียน ครอบครัวไม่โอกาสดำเนินวิถีชิวิตในแบบที่รู้สึกเคารพสิทธิเสรีตัวเองและผู้อื่น ระบอบราชการและระบบยุติธรรม ยังยึดติดอยู่กับระบอบอุปถัมภ์ ขาดประสิทธิภาพที่จะส่งเสริมให้ประชาชน ดำรงชีวิตแบบรับผิดชอบต่อตัวเองได้ คนไทยจึงไม่ได้มองสิทธิเสรีภาพ ความรับผิดชอบเป็นแก่นของชีวิต ประชาธิปไตยไทยที่ผ่านมา จึงเป็นเพียงการเลือกตั้งเพื่อคัดสรรผู้ที่กอบโกย จากประเทศได้มากกว่ากันให้ขึ้นมาปกครองบ้านเมือง

 “ผมคัดค้านเผด็จการที่คอร์รัปขั่นโกงกินและผมก็เคยคัดค้านเผด็จการทหารในอดีตที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเพื่อตัวเองและพวกพ้องหากในปัจจุบันมีการกระทำเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ผมก็จะต่อสู้คัดค้าน แต่ในช่วงขณะนี้ ผมขอเรียกร้องต่อสู่ให้มีการปฏิรูป หรืออภิวัฒน์ เป้าหมายของประเทศจึงต้องเป็นการอภิวัฒน์ ซึ่งหมายถึง การทำให้ประเทศและประชาชนดีขึ้น โดยการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจอย่างจริงจังเพื่อประชาชนดังนี้ 

1.ประชาชนจะดูแลปกครองท้องถิ่น

 2.มีอำนาจจัดการทรัพยากรท้องถิ่นตนมากขึ้น 

3.มีอำนาจกำหนดอัตลักษณ์คือ การเข้าใจ เคารพประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ซึ่งกันและกันของท้องถิ่นต่างๆ" นายธีรยุทธ กล่าวและว่า
            
 นายธีรยุทธ กล่าวอีกว่า การปฏิรูปเชิงโครงสร้างประเทศครั้งใหญ่ของประเทศเคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้น เมื่อเศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างมาก ในยุคโลกาภิวัฒน์ กลุ่มทุนและนักการเมืองได้เป็นตัวละครหลักที่มีฐานอำนาจ และการเงินมหาศาล เป็นที่มาของวิกฤตสังคมการเมืองไทย ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งภาวะเช่นนี้มีปัจจัยหลักจากการพัฒนาที่ไม่สมบูรณ์และไม่ครบทุกด้าน ทำให้เกิดการใช้อำนาจนอนระบบของเจ้าหน้าที่รัฐ อันเป็นแหล่งเกิดพื้นที่อำนาจรัฐที่ถูกใช้ประโยชน์เป็นส่วนตัวขยายใหญ่ขึ้น ขณะที่คนไทยไม่รู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิอำนาจและเสรีภาพอย่างแท้จริง และการที่อำนาจดูแลทรัพยากรกิจการต่างๆในท้องถิ่น ไม่ถูกกระจายไปสู่ชาวบ้าน ชาวบ้านเกรงกลัวอิทธิพล ทำให้ไม่เกิดกลไก ในการกำกับดูแล ตรวจสอบปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น 

 "วิกฤตประเทศไทยล้ำลึก ซึ่งเรามีคำถามใหญ่ แต่ยังไม่มีคำตอบชัดเจนในส่วนนี้ คือ อำนาจรัฐทหาร ข้าราชการบางส่วน จะเป็นผู้แก้ให้อำนาจส่วนที่เสื่อมถูกยึดเป็นของบุคคลนี้ให้ดีขึ้น หรือประชาชนสังคมจะเป็นผู้แก้ หรือ ร่วมกันแก้ ซึ่งหนทางอนาคต รัฐไทยคงถูกปรับตัวให้แข็งแรงขึ้น แต่ผมมองว่า รัฐในโลกยุคปัจจบันจะแข็งแรงอย่างแท้จริง จะต้องไม่ใช้ระบบราชการแข็งแรงอย่างเดียว แต่จะต้องมีกลไกสังคมคอยช่วยตรวจสอบถ่วงดุลและส่งเสริมภาครัฐ จึงจำเป็นมีภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งประชาชนมีทั้งสิทธิ อำนาจ ความรับผิดชอบอย่างแข็งขันด้วย ภาพรวมจึงควรเป็นรัฐแข็งแรง สังคมเข้มแข็ง ประชาชนมีอำนาจ" นายธีรยุทธกล่าว
           
 นายธีรยุทธ ทิ้งท้ายว่า จะปฏิรูปประเทศไทยได้ ควรต้องมีการส่งเสริมให้ประชาชนมีอำนวจ มีส่วนร่วม มีภาคประชาชนที่เข้มแข็ง มีสิทธิและมีเสรีภาพอย่างรับผิดชอบ บางครั้งการพูดเรื่องเสรีภาพเป็นเรื่องละเอียดอ่อน 

จึงอยากฝากเน้นย้ำว่า  สิทธิอำนาจและเสรีภาพจะต้องมีความรับผิดชอบด้วย อย่างไรก็ตาม การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาของภาคประชาชน ภาคประชาสังคมจำเป็นมาก การทำรัฐให้เข้มแข็งอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบของการแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศอย่างยั่งยืน

ธีรยุทธ ขอดูคสช. 3 เดือนแล้วค่อยวิจารณ์


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์