กล่าวถึงกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ เคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารอยู่ต่างประเทศว่า ขณะนี้มาตรการที่ดำเนินอยู่คือ ขอความเห็นใจจากต่างประเทศที่จะไม่สนับสนุน เพราะการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ เข้าข่ายยุยง ปลุกปั่น ไม่เป็นไปตามหลักที่ควรจะเป็น
ขณะนี้ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในประเทศมากกว่า ส่วนต่างประเทศยังให้หน่วยงานที่มีช่องทางอยู่ต่างประเทศ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม ผู้ช่วยทูตต่างๆ พยายามทำความเข้าใจ ยังไม่ได้ใช้ช่องทางกฎหมาย อีกทั้งขณะนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าวยังไม่อยู่ในลักษณะที่น่ากังวลเท่าใด แค่พยายามจะเคลื่อนไหวเท่านั้น ยังเชื่อว่ากลไกภาครัฐที่มีอยู่ยังสามารถทำความเข้าใจได้ ทั้งนี้เบื้องต้นการดำเนินการดังกล่าว เป็นเรื่องการละเมิดกฎหมายปกติ อาทิ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (2)
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (2) เป็นเรื่องของคดีอาญา เกี่ยวกับการยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดการกระด้างกระเดื่องในสังคมและนำไปสู่การต่อต้าน และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงเฉพาะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างไรก็ตามต่างประเทศเอง ก็ไม่น่าจะสะดวกใจที่จะให้ใครมาเคลื่อนไหว ที่เป็นการละเมิดกฎหมายในประเทศของเขาอยู่แล้ว
แต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่อย่างต่อเนื่อง หลายคนมีที่อยู่ชัดเจน โดยเฉพาะที่บ้านพักของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เราพิสูจน์ยาก จึงไม่อยากพูดอะไร เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ได้ เมื่อเขาแสดงเจตจำนงมาเป็นทางการแล้ว พูดผ่านผู้นำแล้ว เราก็ต้องให้ความสำคัญตรงนั้นก่อน อย่างไรก็ตามพวกที่อยู่ในต่างประเทศ จะใช้มาตรการทำความเข้าใจ เพราะไม่อยากให้มีการสนับสนุน ให้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะแบบนี้