สุเทพ เทือกสุบรรณ ความสำเร็จของเดอะมาร์ค

คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน โดย การ์ตอง มติชน 5 พ.ค. 2557

ลีลาการเมืองเที่ยวนี้ของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นับว่าเหลือกินเหลือใช้

จากภาพที่ถูกโจมตีว่าเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ที่นำพาพรรคสนับสนุนอำนาจนอกระบบ ต่อต้านประชาธิปไตยเสียเอง

เพราะไม่เชื่อมั่นว่าจะชนะได้ในเวทีประชาธิปไตย จึงไปยอมเป็นกลไกของอำนาจนอกระบบหวังจะได้รับใช้เป็นหุ่นเชิดเข้ามาคุมอำนาจรัฐ

บทบาททั้งที่กระทำที่ออกเวทีเป่านกหวีดนำม็อบ หรือความคิดที่เคยเสนอทางออกนอกเส้นทางประชาธิปไตย วันนี้ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ทำเหมือนอดีตที่ผ่านมานั้น เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คนหมดสิ้น

สิ่งที่นำเสนอวันนี้เต็มไปด้วยวิชั่นนักประชาธิปไตยจ๋า

มั่นใจขนาดว่าทางออกของประเทศที่เสนอคราวนี้ แม้จะมีผู้ต่อต้าน แต่เสียงคัดค้านนั้นจะถูกมองว่าขาดเหตุผลที่จะต้องร่วมกันทำเพื่อชาติ

พูดง่ายคือ "จะเป็นข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้"

ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นไปเช่นนั้น เพราะเพียงแค่การเคลื่อนออกมา โดยที่ยังไม่มีความชัดเจนอะไรว่าแนวทางที่จะมาเปิดให้ประเทศออกจากวิกฤตคืออะไร เสียงสนับสนุนยังดังให้ขรม

ไม่ใช่เฉพาะจากฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ หรือเครือข่ายองค์กรที่ร่วมเคลื่อนไหวกันมาคึกโครมก่อนหน้านั้นเท่านั้น

กระทั่งฝ่ายที่ยึดมั่นประชาธิปไตยที่ไม่ค่อยสบอารมณ์กับเกมเมืองที่ประชาธิปัตย์ใช้เล่นกับประเทศก่อนหน้านั้น ยังแสดงออกในทางเห็นดีเห็นงามด้วยไม่น้อย

พรรคการเมืองตรงกันข้ามอย่างพรรคเพื่อไทย ชัดเจนว่าให้การสนับสนุน พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ โดยเฉพาะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พูดถึงการให้โอกาส "อภิสิทธิ์" ได้ทำงานอย่างเชิญชวนให้ทุกฝ่ายทุกคนเห็นด้วย

"พระเอกขี่ม้าขาว" มาอย่างโดดเด่น

แม้จะไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมของแนวทางอย่างที่บอก

ที่เห็นด้วยนั้น เพราะเมื่อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เปิดตัวออกมา ทุกคนทุกฝ่ายเริ่มมองเห็นความหวัง

ต้องไม่ลืมว่าทางต้นทางปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เกิดจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่แตกหน่อไปเป็น "กปปส." ไม่ยอมรับกติกาการปกครองในปัจจุบัน ต้องการแก้ "กติกาการเลือกตั้ง" เสียใหม่ โดยเรียกว่า "ปฏิรูปการเมือง"

โดยองค์กรต่างๆ เคลื่อนไหวให้การสนับสนุนอย่างสอดคล้อง เพื่อนำการเมืองกลับไปสู่การบัญชาการของคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นสิทธิที่เท่าเทียมกันของประชาชนเป็นอุปสรรค

หนทางที่จะคลี่คลายเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่เคลียร์กับพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาต่อต้านการเลือกตั้งอย่างเอาเป็นเอาตาย

ดังนั้นเมื่อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ออกมาแสดงบทบาทว่าจะนำประเทศกลับสู่กรอบประชาธิปไตย แม้ไม่บอกว่าจะทำอะไรก็เป็นความหวังอย่างสูงยิ่ง

ประเทศไทยมีทางออกทันที หาก "พรรคประชาธิปัตย์" เปิดทางให้ออก โดย "สุเทพ เทือกสุบรรณ" เห็นดีเห็นงามด้วย

เมื่อ "อภิสิทธิ์" ออกมาเล่นบทเปิดทางให้ประเทศ คืนความสุขสงบให้ประชาชนไทยเอง ย่อมเป็นความหวังที่เห็นชัดถึงความสำเร็จ

สำหรับ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" คนที่จะคุยกันรู้เรื่องที่สุด จะฉลองภารกิจร่วมกันได้ดีที่สุดคือ "อภิสิทธิ์"

"สุเทพ เทือกสุบรรณ" เป็นตัวตัดสินสำคัญว่า ประเทศชาติจะมีทางออกหรือไม่

เป็นความหวังของ "อภิสิทธิ์" ว่าเกมนี้จะบรรลุเป้าหมายหรือเปล่า