กกต.นำแนวคิดถกปู ยันไม่มีข้อต่อรอง-ไร้ผลประโยชน์

29 เม.ย.57 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

เปิดเผยภายหลังการเข้าพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อหาทางออกให้กับประเทศว่า เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง และเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง โดยมีความคิดเห็นว่า การจัดการเลือกตั้งที่จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นการเลือกตั้งที่ประสบความสำเร็จ เป็นการเลือกตั้งที่เสรี สุจริต เที่ยงธรรม ควรที่จะเป็นเป้าหมาย ดังนั้น สิ่งที่กำลังเดินหน้าในขณะนี้ก็คือ พยายามที่จะหาคำตอบ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างที่เคยเสนอไว้ และเป็นที่ยอมรับของประชาชน

นอกจากนี้ได้มีการนำเสนอในบางเรื่องที่เห็นว่า เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป ที่ กกต. มีอำนาจและอยู่ในวิสัยในการออกกฎระเบียบต่างๆ

เพื่อสร้างความมั่นใจ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้มากขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ที่ได้มีการแลกเปลี่ยนกันก็คือ บรรยากาศของบ้านเมืองที่จะทำให้การเลือกตั้งประสบความสำเร็จด้วยความยากลำบาก ถ้ารัฐบาลโดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีอยากจะเปิดโอกาสให้ทำงาน ก็น่าจะได้นำความเห็นและความห่วงใยจาก กกต. ประกอบการพิจารณาด้วย

“ขอเสนอของผมเป้าหมายสุดท้ายปลายทางก็คือ การปฏิรูป แต่การปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ตามรัฐธรรมนูญ มีกฎหมายรองรับ ผมก็เชื่อว่า เป้าหมายตรงนี้มันไม่น่าจะขัดกับใครทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ผมเข้าใจดีว่า ทุกฝ่ายห่วงใยว่า ข้อเสนอจะมีปัญหา มีจุดอ่อนก็เป็นความเห็นที่สามารถเสนอได้ แต่ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไร ที่จะปิดหรือกำจัดทางออกของประเทศ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้หารือให้ชะลอการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
 
การที่จะมีพระราชกฤษฎีกา โดยไม่มีการสร้างความมั่นใจ ว่าจะมีการเลือกตั้งที่เรียบร้อย คิดว่าประเทศจะไม้หลุดจากความขัดแย้ง และการเลือกตั้งจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ ถ้าเลือกตั้งเร็วแล้วขัดแย้งกันต่อ แต่เลือกตั้งช้าแล้วมีคำตอบ ตนมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกให้เลือกตั้งช้าแต่เรียบร้อย

ถ้าฝ่ายต่างๆ ตอบรับข้อเสนอพรรคประชาธิปัตย์ ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องตอบรับ

หลังจากที่เดินสายพบปะกับพรรคการเมืองต่างๆ เสร็จแล้วนั้น ก็จะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดที่คาดว่า จะเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนข้อเสนอที่ออกมานั้น จะให้ถูกใจทุกฝ่ายไม่ใช่กระบวนการที่ง่าย แต่ขอให้รัฐบาลอย่าปิดโอกาส โดยให้นำข้อเสนอต่างๆ ไปพิจารณาด้วย ซึ่งเสนอตามกรอบและทำให้ภาวะของบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติให้มากที่สุด ยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้ไม่มีการเจรจาต่อรองอะไรทั้งสิ้น และการเจรจาแต่ละครั้งทำอย่างเปิดเผย

ส่วนการหารือกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยนั้น เห็นว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอยู่ในวิสัยเดียวกัน อย่างไรก็ตามตนระมัดระวังกับฝ่ายตรงข้าม เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของตนมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ทำให้ต้องพิจารณารูปแบบที่ทำให้คนทุกฝ่ายสบายใจ