ศาลฯ ยืน ยกฟ้องชูวิทย์ พันค้าประเวณี

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้อง"ชูวิทย์"พันค้าประเวณี


ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ข้อห้าค้าประเวณี โดยการเปิดให้การบริการสถานอาบอบนวดเครือเดวิสกรุ๊ป เนื่องจากหลักฐานไม่สมฟ้อง

(19เม.ย.) ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด เทอร์เม่ ผู้ประกอบการสถานบริการอาบ อบ นวด ฮอนโนลูลู ย่านพระรามเก้า และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เจ้าของสถานอาบอบนวด เครือเดวิสกรุ๊ป ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นธุระ จัดหา ล่อไป หรือ พาไปเด็กหญิงซึ่งอายุเกินกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการค้าประเวณี

โดยเด็กหญิงยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นเจ้าของสถานบริการให้มีการค้าประเวณี โดยเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2545


คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์ข้อเท็จจริงแล้ว รับฟังได้เป็นที่ยุติว่า


จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือหุ้น

จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตให้ประกอบสถานบริการอาบน้ำ ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาหญิงผู้เสียหาย 3 คน เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวาง แล้วชี้ให้จับกุม แต่ในชั้นพิจารณาคดีศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน ที่โจทก์-จำเลยนำสืบแล้ว เห็นว่าพยานโจทก์ไม่แสดงให้เห็นว่า จำเลยทั้งสองรู้เห็นกับการปลอมบัตรประชาชนของผู้เสียหาย

b>และผู้เสียหายเบิกความว่ามีคนทำให้แล้วมาสมัครงานที่สถานบริการทั้งสองแห่ง ดังนั้นหากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จะไม่สามารถรู้ได้ว่า บัตรประชาชนของผู้เสียหายเป็นบัตรปลอม และพยานโจทก์ไม่ได้เบิกความว่า หลังจากรับผู้เสียหายทั้ง 3 ทำงานแล้ว จำเลยทั้งสอง เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีอย่างไร

โดยพยานโจทก์ตอบข้อซักค้านของทนายจำเลยว่า สถานบริการห้ามไม่ให้มีเพศสัมพันธ์กับแขก หากลูกค้าต้องการมีเพศสัมพันธ์ ให้ตกลงกันเอง และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ จะเป็นภาระของเด็กเอง


เมื่อพิจารณากรณีที่ผู้เสียหายหลบหนีจากสถานบริการอาบอบนวดฮอนโนลูลู


ที่อ้างว่า มีการบังคับให้ร่วมประเวณีนั้น น่าจะเป็นการเบิกความที่เป็นความขัดแย้งเรื่องค่าบริการ ที่ผู้เสียหายไม่ได้รับจากนายสมชายมากกว่า เพราะในตอนสมัครงานสถานบริการ จะกำหนดรายได้ไว้แล้วว่า จะได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่

ซึ่งสถานบริการจ่ายเงินส่วนแบ่งของผู้เสียหาย ให้กับนายสมชายไปแล้ว กรณีจึงเห็นว่า สถานบริการไม่มีส่วนรู้เห็น เรื่องเงินค่าค้าประเวณี

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้เสียหายทั้งสามทำงานที่สถานบริการอาบอบนวดแห่งหนึ่งมานานถึง 6 เดือน ก็ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี กับผู้ประกอบการและสถานบริการ แต่มาแจ้งความกับจำเลยทั้งสอง

ซึ่งเป็นผู้ประกอบการสถานบริการอาบอบนวดฮอนโนลูลู ที่ผู้เสียหายทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น พยานโจทก์มีข้อพิรุธสงสัย จึงเห็นควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ประชุมหารือและตรวจพยานหลักฐานที่นำสืบในศาลชั้นต้นแล้ว เห็นว่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลย โดยยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยทั้งสองนั้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืน



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์