ล้มแต่ได้..เลือกตั้ง.ชัวร์.!

ล้มแต่ได้เลือกตั้งชัวร์


เหนือการคาดหมาย ไม่ทันพ้นสงกรานต์ เปิดฉากลุยก่อนม็อบคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มาไวกว่าม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งท่าไล่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

"ม็อบขมิ้น" พรึบเลย

พระภิกษุ สามเณรตั้งแถวเดินขบวนใหญ่กดดันให้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่า "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ"

ไม่ใช่แค่พระ ยังมีมัคนายก

กลุ่มมัชฌิมาโดยนายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ประกาศชัดเจน กลุ่มมัชฌิมาเห็นควรบรรจุให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ


"ขณะนี้ทราบว่า มีพระจำนวนมากเริ่มเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าว


และหากไม่บรรจุว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ ก็จะเกิดปัญหา"

แห่พระ โหนจีวรลุย

นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีต รมว.ศึกษาธิการ เปิดตัวแสดงตนเข้าร่วมชุมนุมกับองค์กรเครือข่ายชาวพุทธแห่งประเทศไทย

เปิดเวทีม็อบกดดันหน้ารัฐสภา

แนวร่วมหนาแน่น

อย่าทำเป็นชะล่าใจไป ปมนี้ถือเป็นเรื่องที่อ่อนไหว ใกล้ตัวสุดสำหรับสังคมพุทธส่วนใหญ่แบบไทยๆ โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ ชาวบ้านต่างจังหวัด

ถ้าพูดถึงพระ เอ่ยถึงวัด เข้าใจง่ายกว่านายกรัฐมนตรีคนนอก คนใน

กระตุ้นความรู้สึกมีส่วนได้ส่วนเสียมากกว่าประเด็นการลดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบเขต ตัดตัวเลข ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

เร้าอารมณ์ยิ่งกว่าการระบุนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร


นี่แหละหัวเชื้อไวไฟสุดในการจุดชนวน ปลุกระดมล้มรัฐธรรมนูญ


และโดยสถานการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมที่ล่อแหลม คุมเกมยากอยู่แล้ว ม็อบพระ-เณร ยังออกมาผสมโรงกดดันรัฐธรรมนูญใหม่

ก็ยิ่งคุมเกมยากกันไปใหญ่

ถึงตรงนี้ก็ชักจะคล้อยตามการวิเคราะห์ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาอ่านหมากคาดการณ์

โอกาสจะมีการเลือกตั้งปลายปีตามที่นายกฯสุรยุทธ์ล็อกโปรแกรมไว้อยู่ที่ 50/50

โดยยกปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอน ทั้งคดียุบพรรค ถ้าออกมาในลักษณะที่มีผลกับนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง ก็เป็นไปได้ที่นักการเมืองกลุ่มนั้น

อาจก่อเหตุทางลบกับกลุ่มอำนาจปัจจุบัน

ไหนจะเรื่องที่อยู่ในกระบวนการของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทยอยชี้มูลความผิดคดีทุจริตคนของรัฐบาลที่แล้ว

น่าจะมีปฏิกิริยาโต้กลับอย่างรุนแรงจากกลุ่มอำนาจเก่า


รวมถึงกรณีของรัฐธรรมนูญใหม่ที่มีกระแสคัดค้าน อาจส่งผลถึงการลงประชามติ


แท้งก่อนคลอด

เท่าที่ฟังๆดู ในหมู่เซียนเลือกตั้งระนาบเดียวกัน หลายคน ก็อ่านเกมประเมินสถานการณ์ในทำนองเดียวกับนายจุรินทร์

เอาเป็นว่า นัดชี้ชะตาคดียุบพรรคในวันที่ 30 พฤษภาคม คงได้เห็นม็อบเชียร์พรรคไทยรักไทย ม็อบหนุนพรรคประชาธิปัตย์

แห่กันมามืดฟ้ามัวดิน

และตามเงื่อนไขเลย ก็ใกล้เวลาเข้าด้ายเข้าเข็มเต็มที อย่างไรเสีย คตส.ก็ต้องชงคดีอาญา ตั้งแท่นกล่าวโทษอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลเก่า ลากไปจ่อถึงคุกให้ได้

ล็อกคอไม่ให้กลับมาลงสนาม

จะมีมุมที่ไม่ตรงกับนายจุรินทร์ก็คิวของรัฐธรรมนูญใหม่ แม้เซียนเลือกตั้งอีกขั้วฟันธงเลยว่า ล้มแน่ๆ ไม่มีวันผ่านประชามติ


แต่ได้เลือกตั้งในปีนี้ชัวร์

เพียงแต่ต้องสู้กันภายใต้กติการัฐธรรมนูญฉบับ คมช.



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์