แสนคนปักหลักสยามพารากอน - ทะลักถึงราชประสงค์แล้ว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 มีนาคม 2549 18:29 น.

คนเป็นแสนปักหลักยึดหน้าสยามพารากอน ขาโจ๋วัยรุ่นคึกคักร่วมเต้นเพลง คนหน้าเหลี่ยม มันกระจาย ด้าน จำลอง นำประกาศปฏิญาณ รถติด 2 วันเรื่องเล็กไม่มีแผ่นดินให้รถติดเรื่องใหญ่ ล่าสุดพลังมหาชนทะลักกว่าแสนคนแล้ว

วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า นับตั้งแต่เวลา 15.15.น. ที่พันธมิตรฯ ได้เคลื่อนขบวนจากหน้าสนามศุภชลาศัย โดยนำขบวนประชาชนจากทุกสาขาอาชีพร่วมเดินขบวนมายังสยามพารากอน โดยระหว่างทางได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำงาน นักเรียน นักศึกษาย่านสยามสแควร์เพื่อให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก

เวลา 15.30 น.เมื่อหัวขบวนเดินทางมาถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) มีประชาชนจำนวนหนึ่งได้มาแจกเอกสารโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 500 ชุด เมื่อผู้ชุมนุมได้รับและรู้ว่าเป็นเอกสารโจมตีก็ฉีกเอกสารนั้นทิ้งจนหมดสิ้น

ต่อมาเวลา 15.35 น. หัวขบวนเดินทางมาถึงแยกมาบุญครอง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากประชาชนสองข้างทาง โดยโบกมือให้กำลังใจบนสะพานลอย

เวลา 15.40 น. หัวขบวนกลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางมาถึงสถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีเหล่าบรรดาวัยรุ่นมาจับกลุ่มให้กำลังกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งนักศึกษาจากจุฬาฯ ด้วย อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนขบวนที่หน้าสนามศุภชลาศัย มีประมาณ 1 หมื่นคน ที่พอเดินขบวนมาถึงสถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์ ก็มีประมาณเข้ามาร่วมกว่า 2 หมื่นคน ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ

เวลา 15.50 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวบนขบวนรถว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้รับการต้อนรับจากชาวสยามสแควร์ ในระหว่างนั้นมีผู้ชุมนุมชูป้ายให้ พล.ต.จำลองอ่าน และพล.ต.จำลองบอกให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดอ่านตามว่า รถติด 2 วันเรื่องเล็ก ไม่มีแผ่นดินให้รถติดเรื่องใหญ่

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ได้เดินขบวนไปถนนสีลมมาก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี จนกระทั่งวันสองวันที่ผ่านมามีแม่ค้าจากซอยละลายทรัพย์ออกมาตะโกนไล่ทักษิณ และในวันนี้พันธมิตรฯ มาที่สยามพารากอน ต่อไปทักษิณมาที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว และจะไปไหนก็ไม่ได้ จะโดนโห่ไล่ทุกจังหวัด ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ไป

ต่อมาเวลา 16.00 น. น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ กล่าวบนรถขบวนเพื่อทักทายเหล่าวัยรุ่นในย่านสยามสแควร์ว่า ตอนจัดเมืองไทยรายสัปดาห์ใหม่ๆ ทั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่สวนลุมพินี เคยถูกเย้ยหยันว่าเป็นม็อบคนแก่ แต่พอเรามาย่านสยามสแควร์มีวัยรุ่นวัยโจ๋จำนวนมากให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น เราจะขอเปิดเพลง คนหน้าเหลี่ยม ให้วัยรุ่นได้เต้นรำกันให้กระจายไปเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้บรรดาเหล่าวัยรุ่นย่านสยามสแควร์ได้ส่งเสียงกรี๊ด พร้อมตะโกนทักษิณ...ออกไปๆๆ ตอบรับแกนนำที่ขึ้นปราศรัย และพอได้ยินเพลง คนหน้าเหลี่ยม ก็ออกมาเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน

เวลา 16.15 น. นายสำราญ รอดเพชร โฆษกประจำเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวถึงโปรแกรมเย็นวันนี้แก่ผู้ชุมนุมว่า วันนี้จะมีการแสดงงิ้วธรรมศาสตร์ มีนักดนตรีที่ชื่อฮิวโก้, คาราวาน, นักพูดจากสภาโจ๊ก นำโดยอุสมาน ลูกหยี-สมชาย หนองฮี นอกจากนี้ยังมี ดร.เสรี วงศ์มณฑา, นายการุณ ใสงาม ส.ว.บุรีรัมย์, นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กทม., นักวิชาการจากจุฬาฯเข้าร่วมเวทีปราศรัยบนเวทีในช่วงเย็นด้วย

เวลา 16.20 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชานเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวว่า นึกไม่ถึงว่าจะได้รับการต้อนรับมากมายขนาดนี้ ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ หากมีผู้ชุมนุมมากขึ้นจนถึงแสนคนจะขอขยายรั้วแผงกั้นไปจนถึงแยกราชประสงค์ในทันที ซึ่งได้รับการตอบรับให้ทำได้

พร้อมกันนี้ นายพิภพ กล่าวอีกว่า การชุมนุมในครั้งนี้จะแสดงให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนย่านสยามสแควร์ได้เห็นการชุมนุมแบบอารยะ สันติ อหิงสา และเต็มไปด้วยความเป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น ขอเรียกร้องผู้ชุมนุมอย่าไปแตะต้องตึกรามบ้านช่อง หรือป้ายโฆษณาบริเวณเป็นอันขาด

ขอให้ร้านค้าแถบสยามสแควร์เปิดร้านเพื่อต้อนรับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย เพราะเราจะแสดงให้เห็นว่าเรามาแถบนี้จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.30 น. ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศต่างแห่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ จนถึงขณะนี้มากกว่า 3 หมื่นคนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ของสยามพารากอนได้มาตั้งเต็นท์แจกจ่ายน้ำด้วย

เวลา 16.44 น. เวทีที่จะทำการปราศรัยได้ตั้งขึ้นเสร็จแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าบางส่วนก็เตรียมการถ่ายทอดสดทาง ASTV และเตรียมติดตั้งจอโปรเจกเตอร์เป็นระยะตามถนนเพื่อให้ผู้ชุมนุมได้ติดตามอย่างใกล้ชิด

ในเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อยทุกด้านบริเวณลานชุมนุมสยามพารากอน ได้มีการนำใบปลิวขนาด A4 สีน้ำเงินแจกจ่ายให้แก่ประชาชน โดยในใบปลิวได้ระบุว่า ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธตามวิถีประชาธิปไตยในกรอบของกฎหมาย ช่วยกันป้องกันผู้ไม่หวังดีต่อชาติ

โดยในใบปลิวมีรายละเอียด 6 ข้อด้วยกัน ได้แก่ 1.ไม่ควรกระทำการใดๆ ให้กระทบกระเทือนต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ควรเอาแพ้เอาชนะกัน มิเช่นนั้นแล้วผู้ที่แพ้อย่างแท้จริงคือประเทศไทย โดยน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเตือนคนไทยไม่ให้ทะเลาะกันไว้ใส่เกล้าใส่กระหม่อม 2.ต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายหรือเดือดร้อนแก่ประชาชน ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน 3.ระวังป้องกันไม่ให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการชุมนุม 4.ความรัก ความสามัคคี คือ ศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของคนไทยและประเทศไทย 5.ไม่ควรส่งเสริมหรือสนับสนุนวิธีการยั่วยุที่จะนำไปสู่ความรุนแรงทุกรูปแบบ 6.หากมีเหตุใดที่ไม่น่าไว้วางใจหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้ตัวท่าน ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดกำลังมาดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา

ลงชื่อ ด้วยรักห่วงใยและปรารถนาดีตำรวจของประชาชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล โทร.191 และ 1197

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมเวลา 18.00 น. มีผู้ชุมนุมมากกว่า 5 หมื่นคนแล้ว ทั้งมีการเคลื่อนขบวนมาสมทบจากจุฬาฯ อีกด้วย

ผู้ชุมนุมยังคงทยอยกันมาแน่นขนัด โดยเฉพาะบริเวณเวทีหลักซึ่งติดกันบริเวณห้างสรรพสินค้าสยามเซ็นเตอร์ และโรงภาพยนตร์ลิโด้ โดยเฉพาะโรงภาพยนตร์ลิโด้ได้กั้นแนวเขตบริเวณหน้าโรงหนังทำให้ช่องทางการเคลื่อนตัวติดขัดและผู้ชุมนุมมีทางเดินน้อย อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางผู้ชุมนุมขอเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของภาพยนตร์ดังกล่าวเพื่อให้เลื่อนแผงเหล็กถอยร่นเปิดทางให้มีการเคลื่อนตัวของผู้ชุมนุม ซึ่งผลการเจรจาก็สำเร็จ โดยได้ขยายแผงเหล็กอีก 10 เมตร ทำให้การเคลื่อนตัวคล่องขึ้น

สำหรับกิจกรรมบนเวทีคืนนี้ มีน่าสนใจหลายรายการ เริ่มจาก สถานีข่าว สยามพารากอน โดยอัญชลี ไพรีรักษ์ และยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที โดยมีการสัมภาษณ์นางพิมพ์พร หรือเจ๊ไก่ เจ้าของร้านในซอยละลายทรัพย์ที่กล้าตะโกนขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะรับประทานอาหารกลางวัน เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา

ตามด้วยรายการ รู้ทันทักษิณ โดย เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รายการ ยอวาทีการเมือง โดย สมชาย หนองฮี จากสภาโจ๊ก และงิ้วการเมือง โดยคณะงิ้วธรรมศาสตร์ ในเวลา 22.00 น.

ส่วน 5 แกนนำพันธมิตร ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะขึ้นเวทีประมาณ 21.30 น.

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ผู้แต่งเพลง คนหน้าเหลี่ยม จะเปิดตัวบนเวทีในคืนนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น.ว่า มีผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นเป็นแสนคนแล้วขณะนี้ได้ทะลักไปถึงบริเวณสี่แยกราชประสงค์แล้ว คาดว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. มีรายงานว่ามีคนขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาก่อกวนการชุมนุมที่ซอย 4 โดยการเร่งเครื่องเสียงดัจนกลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจ จึงเข้าไปขับไล่ มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวจึงขับหนีออกไปทางถนนพญาไท

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ว่า คนที่จะมาร่วมชุมนุมที่บริเวณสยามพารากอนในคืนนี้น่าจะมากกว่า 1 แสนคน โดยผู้ที่จะมาร่วมเท่าที่เห็น คือบุคลากรและกลุ่มนักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่างกลปทุมวัน ชุมนุมห้วยขวาง กลุ่มนิติศาสตร์เกษตร และกลุ่มพันธมิตรจากจังหวัดต่างๆ

ส่วนรูปแบบการชุมนุมที่บริเวณสยามพารากอนจะออกมาอย่างไรและต่อเนื่องหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องรอการประชุมในคืนนี้กันก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ ส่วนแนวทางการกดดัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เราจะกดดันอย่างต่อเนื่องทั้งก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง จนกว่าทักษิณจะลาออก ถ้ายังไม่ลาออกเราก็จะชุมนุมอย่างยืดเยื้อยาวนาน ซึ่งเราสามารถทำได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 มีนาคม 2549 17:11 น.

ชาวจุฬาฯ ทั้งอักษรศาสตร์ ครุศาสตร์ วิศวะ นิติศาสตร์และบัญชี เฉียด 5,000 คน ร่วมสร้างประวัติศาสตร์การเมือง รวมพลังสีชมพูยาตราทัพจากสี่เสาเทวาลัย ก่อนเคลื่อนขบวนผนึกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร่วมไล่ ทักษิณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 มี.ค.) บริเวณสี่เสาเทวาลัย หน้าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีคณาจารย์ นิสิตและศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคณะต่างๆ อาทิ อักษรศาสตร์ ครุศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ นิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี รวมทั้งศิษย์เก่าจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ นิเทศศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มเดินทางมารวมตัวกันตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น.โดยบางกลุ่มได้จัดเตรียมป้ายผ้า ป้ายต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีมาเดินรณรงค์ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีศิษย์เก่าบางคนได้จัดพิมพ์เพลงประจำมหาวิทยาลัย และเพลงที่ใช้ในกิจกรรมนักศึกษาในสมัย 14 ตุลา และ 6 ตุลา มาแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมชุมนุมและร่วมร้องเพลงกัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากศิษย์เก่าบางคนไม่ได้พบปะเพื่อนฝูงร่วมรุ่นมาเป็นเวลาหลายปี และได้มาพบกันในการชุมนุมครั้งนี้

ทั้งนี้ มีบางคนซึ่งเป็นเจ้าของกิจการก็ได้ปิดบริษัท และพาพนักงานมาร่วมชุมนุมด้วย ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ศิษย์เก่าจุฬาฯ ที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ต่างเป็นบุคคลในสังคมชั้นสูงของประเทศไทย บางคนเดินทางมาด้วยรถเบนซ์

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และศิษย์เก่าคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขึ้นปราศรัยทักทายชาวจุฬาฯ ว่าถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ชาวจุฬาฯ ได้ออกมารวมกัน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดจุฬาฯ ได้เป็นผู้พระราชทานรัฐวิสาหกิจ ระบบน้ำไฟให้กับประชาชนคนไทย แต่นายกรัฐมนตรีกลับนำไปขายให้กับต่างชาติ ตนในฐานะศิษย์เก่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ทุกคนมารวมตัวกันในครั้งนี้

จากนั้นอาจารย์ตรีดาว อภัยวงศ์ หนึ่งในชาวอักษรผู้ใฝ่หาจริยธรรมทางการเมืองได้ขึ้นกล่าวทักทายศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันพร้อมกับตรวจสอบว่ามีคณะใดมาร่วมในการชุมนุมบ้าง ปรากฏว่า เมื่อขานชื่อคณะใดก็ได้รับเสียงขานรับจากผู้ชุมนุมอย่างคึกคัก

ขณะที่นางสาวกชวรรณ ชัยบุตร เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ขึ้นปราศรัยทักทายในฐานะศิษย์ปัจจุบันและวิพากษ์วิจารณ์ระบอบทักษิณ โดยบริเวณตึกอักษรศาสตร์ยังมีศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันทยอยกันเข้ามารวมตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง อ.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ หรือ อาจารย์ย่า จากคณะนิเทศศาสตร์จุฬาก็ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย

ในเวลาประมาณ 17.30 น.กลุ่มแพทย์ พยาบาลจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย บุคลากรจุฬาลงกรณ์ แพทย์พยาบาลเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี ประมาณ 1,000 คน ได้เคลื่อนขบวนเข้ามาสมทบกับกลุ่มที่รวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าตึกอักษรศาสตร์ จุฬาฯ โดยได้รับการปรบมือต้อนรับจากศิษย์เก่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคักโดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้งบริเวณเต็มไปด้วยสีชมพู ได้ร่วมกันส่งเสียงขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ สลับกันการร้องเพลงเชียร์ของสถาบัน และบูม บาก้า ซึ่งเป็นเพลงบูมของจุฬาฯ ตลอดเวลา

จนกระทั่งเมื่อเวลา 17.45 น.ได้ตั้งแถวร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ประจำสถาบัน มหาจุฬาลงกรณ์ และร่วมกันบูมบาก้าจากนั้นเคลื่อนขบวนออกจากจุฬาฯ เข้าสู่ถนนอังรีดูนังต์ เพื่อเดินทางเข้าสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ หน้าสยามพารากอน โดยตลอดทางกลุ่มผู้ชุมนุมร้องเพลงประจำสถาบันสลับตะโกนขับไล่ ตลอดทาง และกล่าวเชิญชวนให้ประชาชนทั้งสองข้างทางเข้าร่วมแสดงพลังกับชาวจุฬาฯ ซึ่งมีกลุ่มบุคลากรจากจุฬาฯ เข้าสมทบกับผู้ชุมนุมตลอดเส้นทาง ทำให้ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมมีมากถึง 5,000 คน

ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนมาถึงจุดที่พันธมิตรฯรวมตัวอยู่ก็ได้ร้องเพลงเดินจุฬาฯ และเข้าสมทบกับกลุ่มพันธมิตรซึ่งได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 มีนาคม 2549 20:23 น.

วัยรุ่นร่วมใจไล่"ทักษิณ"เห็นพ้องขาดจริยธรรมสิ้นความเป็นผู้นำแล้ว วอนเสียสละเพื่อประเทศ

นางสาวบีท อายุ 17 ปี กล่าวว่า วันนี้มาเรียนพิเศษ และมาดูกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย รู้สึกดี และจากการสังเกตกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะเป็นระดับปัญญาชน นับเป็นเรื่องที่ดีที่ได้เห็นพลังกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งสามารถแสดงสิทธิตามระบบประชาธิปไตย ทั้งนี้จากข้อมูลที่ได้รับรู้จากกลุ่มผู้ใหญ่และครอบครัวพูดให้ฟัง ทำให้ตนรู้ว่าทักษิณเป็นคนขายชาติ และยังฝากทิ้งท้ายอยากบอกคุณทักษิณว่า ควรลาออกไปสักทีประเทศจะได้สงบสุข พร้อมทั้งยังบอกว่าชื่นชอบเอ็มวีหน้าเหลี่ยมอย่างมาก

นายต้น อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า วันนี้ได้มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มเพื่อนอีก 5 คน ซึ่งต่างก็มีความคิดเห็นเหมือนกัน คือ นายกฯ ทักษิณ ขาดจริยธรรม ไม่มีหลักของรัฐศาสตร์ มีแต่หลักนิติศาสตร์ จริงๆ แล้วคนทักษิณ ก็เป็นคนเก่ง ที่ทั้งทำงานเก่ง โกงก็เก่ง และใช้อำนาจรัฐแทรกแซงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งนี้ ตนเข้าไปดูข่าวและข้อมูลต่างๆในเวปไซต์ผู้จัดการออนไลท์บ่อย และฝากทิ้งท้ายว่า คุณทักษิณรู้อยู่แล้วว่าตนควรลาออก แต่อาจจะกลัวเรื่องยึดทรัพย์ หรือไล่บี้ต่างๆ

ด้านนางสาวฝ้าย อายุ 17 ปี นักศึกษาปวช.แห่งหนึ่ง และนางสาวต้า อายุ 19 ปี นักเรียนม. 6 กล่าวว่า ตนไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ไม่ชอบทักษิณ ทักษิณควรจะลาออกไปได้แล้ว เพราะอยู่นานอาจจะมีการนองเลือดได้ ทั้งนี้ ตนมาที่สยามฯ เพื่อมาร่วมชุมนุมโดยเฉพาะ ทั้งนี้ตนชอบเข้าเวปไซต์ผู้จัดการออนไลน์บ่อยครั้งและได้โหลดเอ็มวี หน้าเหลี่ยมด้วย และก็แจกเพื่อน พร้อมทั้งฝากทิ้งท้ายไว้ว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนุกมาก และจะมาร่วมอีกในโอกาสหน้า

ส่วนนายกฤษ อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และนายเป็ด อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องช่วยกันเพื่อประเทศชาติ ทักษิณควรออกไป เพราะให้ต่างชาติมาทำธุรกิจในประเทศไทยมากเกินไป ข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับรู้ส่วนใหญ่มาจากเอเอสทีวี และในช่วงที่ผ่านมาทักษิณ พยายามหนีไม่ตอบข้อมูลว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เป็นคนที่หน้าด้านที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประเทศไทยเหมือนประเทศอาเจนตินาที่ประเทศเศรษฐกิจล่มสลาย และทิ้งท้ายว่า อย่าคิดว่าเด็กๆ รู้ไม่ทักษิณ ควรเสียสละเพื่อประเทศบ้าง