เต้น ย้ำไม่ได้มโนโผนายกฯคนกลาง

 เต้น  ย้ำไม่ได้มโนโผนายกฯคนกลาง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการ นปช. กล่าวว่า ยืนยันว่า รายชื่อโผนายกฯคนกลางที่ตนนำมาเปิดเผย ไม่ได้เป็นข้อมูลที่มโนขึ้นเอง แต่เป็นการหยิบเอาข้อมูลจากหลายฝ่ายมาวิเคราะห์ แยกแยะ และชั่งน้ำหนัก จนเหลือแต่คนที่เห็นว่าน่าจะใช่ ซึ่งจากการติดตามการปราศรัยของนายสุเทพ เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่พบว่านายสุเทพพูดถึงโผนายกฯ ที่ตนเปิดเผยแต่อย่างใด 


ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่นายสุเทพจะไม่ทราบข่าวที่ตนแถลง แต่ตนเชื่อว่านายสุเทพจงใจที่จะไม่พูดถึง จึงทำให้เชื่อว่าในบรรดารายชื่อต่าง ๆ ที่ตนเสนอไป ตรงกับนายกฯคนกลางที่กลุ่มนายสุเทพวางตัวไว้ใช่หรือไม่

นายณัฐวุฒิ กล่าาว่า ส่วนที่หลายคนพูดว่า การเปิดเผยรายชื่อเป็นการทำลายความชอบธรรมของนายกฯคนใหม่นั้น ตนไปทำลายอะไร เพราะทันทีที่เปิดตัวนายกฯคนกลางออกมา ก็ไม่มีความชอบธรรมอะไรแล้ว ซึ่งตั้งแต่วันที่ 26 -28 มี.ค.ตนจะรวบรวมรายชื่อคณะรัฐมนตรี สมาชิกสภา และผู้ที่จะได้ดำรงตำแหน่งต่างๆ มาเปิดเผยบนเวที โดยจะเรียงลำดับเป็นหมวดหมู่มานำเสนอว่าแต่ละประเด็นเป็นอย่างไร

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ รีบออกมาโต้ว่า ไม่ใช่นายกฯคนกลาง เพราะอยู่ข้างอีกฝ่ายนั้น ตนก็ไม่ได้บอกว่านายอภิสิทธิ์จะกลายเป็นนายกฯเถื่อน แต่ยกชื่อนายอภิสิทธิ์มาอธิบายให้เข้าใจว่า นอกจากตัวเก็ง ตัวสอดแทรก และม้ามืดแล้วนั้น ยังมีตัวกระเสือกกระสนอย่างนายอภิสิทธิ์ ที่ไม่แคร์สายตาประชาชน ขอให้ได้นั่งเก้าอี้นายกฯเท่านั้นอยู่ เพราะให้ไปรับตำแหน่งในค่ายทหาร หรือฆ่าประชาชนเพื่อรักษาเก้าอี้นายกฯ ไว้ก็ทำ

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของแปซิฟิค คลับ ย่านสุขุมวิท ที่ตนพูดถึงว่าเป็นสถานที่พูดคุยกันของนายสุเทพ และนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี หนึ่งในรายชื่อที่อยู่ในโผนายกฯคนกลางนั้น พบว่าเป็นธุรกิจที่บริษัทแปซิฟิค เอ็กคลูซีฟ ซิตี้ คลับ จำกัด เข้าไปซื้อกิจการจากเจ้าของเดิม และมีการจดทะเบียนไปเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2555 ด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท ก่อนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 70 ล้านบาทในเดือนก.พ. 2556 และจากรายงานในบัญชีผู้ถือหุ้น พบว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ รายแรก คือ น.ส.น้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ บุตรสาวนายสุเทพ ถือหุ้น 36.42 เปอร์เซ็นต์  รายที่สอง นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ ถือหุ้น 17.14 เปอร์เซ็นต์ รายที่สาม น.ส.แขแสง เทือกสุบรรณ ถือหุ้น 10 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนั้นมีนายณัฐพล ทีปสุวรรณ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ถือหุ้นอีกรายละ 5 เปอร์เซ็นต์  จึงอนุมานได้ว่า กิจการแปซิฟิค คลับ อยู่ใต้ร่มอิทธิพลของนายสุเทพ และทำให้เข้าได้ว่าเหตุใดนายสุเทพ จึงเคยพูดบนเวทีอยู่ 2-3 ครั้งว่า หากนายสุเทพเป็นอะไรไป คนที่จะทำงานต่อจากนายสุเทพ คือ นายณัฐพล  ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมีสายสัมพันธ์เข้ามาถือหุ้นในธุรกิจร่วมกัน แทนที่จะเป็นนายถาวร เสนเนียม หรือนายวิทยา แก้วภารดัย แกนนำ กปปส. ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูงกว่า นอกจากนั้นยังมีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องโดยมีเครือข่ายธุรกิจโยงใยกัน ซึ่งเครือข่ายโยงใยเหล่านี้ ทำให้เห็นว่าขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อล้มรัฐบาลเพื่อไทย มีการรวบรวมสมัครพรรคพวกมานาน

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์