สั่งสกัดผู้ชุมนุมแฝงตัวเข้ากรุงรวมประชาชนหลังเที่ยวสงกรานต์

16 เมษายน 2550 14:21 น.

ป้าย"หยุดเคลื่อนไหวรอรัฐธรรมนูญ"ติดทั่วกทม. โฆษกมหาดไทย ยืนยันศูนย์พัฒนาการเมืองการปกครองฯ ไม่ได้หวังสลายหัวคะแนนของกลุ่มอำนาจเก่า พล.อ.สมเจตน์ ระบุมี 4 ปัจจัยส่งผลการเมืองเปลี่ยนแปลง กระตุ้นทุกส่วนราชการจับตาสถานการณ์ ทำความเข้าใจประชาชนก่อนวุ่นวาย

(16เม.ย.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมร่วมกันระหว่าง ตำรวจนครบาล กรุงเทพมหานคร ตำรวจ สันติบาล และกองทัพภาคที่ 1 เพื่อรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะออกมาเคลื่อนไหวหลังเทศกาลสงกรานต์

พล.ต.อ.วิเชียรระบุว่า จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมแฝงตัวเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ กับประชาชนที่กลับจากเที่ยวสงกรานต์ จึงประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยให้แต่ละจังหวัดตรวจสอบและสกัดกั้น ๆ ไม่ให้เข้ามา ในส่วนของตำรวจจะใช้มาตรการขอความร่วมมือจากประชาชนให้มากขึ้น รวมทั้งให้ช่วยสังเกตสิ่งแปลกปลอม หรือการเคลื่อนไหวของมวลชนที่ผิดสังเกต พร้อมยอมรับว่า หลังเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้ชุมนุมหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ

ด้านนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ชุมนุมกลุ่มใด มาขออนุญาตใช้พื้นที่สนามหลวงชุมนุม แต่หากมีการทำเรื่องขออนุญาตทุกกลุ่มต้องปฏิบัติไปตามเกณฑ์ของ กทม .เช่นไม่ปราศัยด้วยถ้อยคำหยาบคาย ไม่พาดพิงบุคคลอื่นให้เสียหาย และรื้อเวทีในเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 17 22 เม.ย.นี้ รัฐบาลได้ขอใช้พื้นที่สนามหลวงจัดงาน รวมพลังไทย เทิดไท้องค์ราชัน ดังนั้น ในระหว่างนี้ กทม. คงไม่สามารถอนุญาตให้ใช้พื้นที่ได้

หม่อมหลวงปนัดา ดิสกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะทำงานโครงการศูนย์พัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์ทรงเป็นประมุข (ศพป.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการดังกล่าว โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพหลัก และมีกรมการปกครองเป็นเลขานุการโครงการแล้ว กระทรวงได้เริ่มการฝึกอบรมครูแม่ไก่ ในแต่ละภาค ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นตัวกลางในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่

ศพป.จะฝึกอรมและให้คำแนะนำแก่ประชาชนให้เข้าใจการเลือกตั้งที่ถูกวิธี เลือกคนดีที่ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง โดยเฉพาะการแจกเงินให้กับชาวบ้าน จะต้องมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย จัดเวทีสาธารณะให้ประชาชนตระหนักมากขึ้น ทั้งนี้ ชนชั้นกลางถือเป็นกลุ่มสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นได้มาก โดยได้วางเป้าหมายไว้ว่าจะสร้างความเข้าใจให้มีทัศนคติที่ดีต่อการเลือกตั้งได้ 45 ล้านคนทั่วประเทศ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าว

โฆษกกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าโครงการนี้ไม่ได้เป็นการสลายกลุ่มหัวคะแนนของขั้วอำนาจเก่าตามพื้นที่ต่าง ๆ แต่ต้องการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักประชาธิปไตยที่ดีงามและถูกต้องให้กับประชาชน และต้องการสลายกลุ่มที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยอันสง่างามมากกว่า ซึ่งหัวคะแนนต้องเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย ถ้าไม่ต้องการให้การปฏิวัติเกิดขึ้นอีก

หม่อมหลวงปนัดา กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้รับการอนุมัติงบประมาณโครงการดังกล่าว จำนวน 390 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาบริหารให้เกิดประสิทธิภาพ และโปร่งใสมากที่สุด พร้อมกับมั่นใจว่า การฝึกอบรมและขับเคลื่อนในพื้นที่ของครูแม่ไก่ จะสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจได้ทันกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดว่า จะมีการเลือกตั้งภายในเดือนธันวาคมนี้ ในโอกาสเดียวกันนี้ชุดครูแม่ไก่จะให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควบคู่ไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีบุคคลนำป้ายผ้าซึ่งมีข้อความว่า "รักพ่อหลวงห่วงประเทศไทย อยากมีเลือกตั้งเร็วไว หยุดเคลื่อนไหวรอรัฐธรรมนูญ" ถูกไปขึงไว้ที่สะพานลอยตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคน เช่นที่วัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กทม.

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิคมช. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย FM.98 เม็กกะเฮิร์ต ถึงสถานการณ์การเมือง ว่า เห็นส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์การเมืองจากนี้ไปจะมี 4 ปัจจัยที่อาจทำให้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลง คือ 1.การร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนอาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างเพราะมีถึง 299 มาตรา ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขการลงประชามติ 2.การยุบพรรคการเมือง 3.การลงประชามติ 4.การตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลชุดที่แล้วเพื่อเบี่ยงเบนรัฐบาลให้ไปสนใจการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ แทนการแก้ปัญหาให้ประชาชน

ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำมาอ้างและก่อวิกฤติการณ์ต่างๆ ได้ สิ่งที่ตนพูดไปนั้น ไม่ได้ต้องการทำให้ประชาชนและนักลงทุนตกใจ แต่อยากให้สังคมเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่าหากเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ หรือเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่ง ก่อให้เกิดวิกฤติทางการเมือง วิกฤติใดสำคัญสุด พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ทุกเงื่อนไขมีความสอดคล้องกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าใครจะนำไปใช้ให้เกิดความไม่ปกติ ฉะนั้นทุกคนควรใคร่ครวญว่าสิ่งใดเกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือใครจงใจให้เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนั้น สถานการณ์ของประเทศอาจจะวุ่นวายทั้งปี พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตนจึงวิเคราะห์เพื่อชี้ว่ารัฐบาลและคมช.มีเป้าหมาย คือ นายกฯต้องการให้มีการเลือกตั้งเดือน ธ.ค. และกลุ่มที่ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย ถ้าทุกฝ่ายคิดว่าประชาธิปไตยแก้ปัญหาได้ก็ขอให้อดใจรอ และประคับประคองสถานการณ์ที่มีทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจ

เมื่อถามว่า ช่วงนี้รัฐบาลและคมช. มีโอกาส ที่จะถูกเขย่าจากฝ่ายสนับสนุนและต้านทักษิณ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ทุกหน่วยราชการต้องจับตาสถานการณ์ และทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น เพราะหากเกิดความวุ่นวาย การเลือกตั้งก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้

เมื่อถามว่า หากประเมินจากสถานการณ์สามารถควบคุมได้หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ขอตอบด้วยความรับผิดชอบแบบกำปั้นทุบดิน สิ่งใดที่เกิดขึ้นกับประเทศ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ต้องรักษาสถานการณ์ให้ได้ เพราะประเทศบอบช้ำ และเกิดจากปัญหาที่ทุกคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว อยากให้กลุ่มต่างๆ ที่เคลื่อนไหวในช่วงนี้ย้อนกลับไปดูอดีตด้วยไม่ใช่ดูเพียงแค่ปัจจุบัน เพราะอดีตจะส่งผลถึงอนาคต

เมื่อถามว่า หากการยุบพรรค และการตรวจสอบการทุจริตรัฐบาลชุดที่แล้ว ประชาชนมองว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญไปกว่าปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังส่งผลกระทบ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ และอาจถูกบางฝ่ายนำมาเป็นปัจจัยเพื่อให้ประชาชนเคลื่อนไหวว่ารัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหา ขอเรียนว่ารัฐบาลเข้าใจและกำลังแก้ปัญหานี้

เมื่อถามว่า รัฐบาลควรปรับครม.เพื่อลดแรงกดดันทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การปรับครม.เป็นอำนาจของนายกฯ เพราะการบริหารประเทศต้องมีข้อมูลหลากหลาย แต่นายกฯอาจไม่พูด ตนคิดว่าเมื่อทุกฝ่ายไว้ใจนายกฯให้มาทำงานแล้ว ก็ควรรอการตัดสินใจของนายกฯ แล้วค่อยออกมาวิจารณ์

นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกสนช. กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทยฯทางเอฟเอฟ 89 ถึงกรณีที่สนช. จะเสนอต่ออายุการทำงานให้คตส. แต่คตส.บางคนไม่เห็นด้วย ว่า สนช. จะเสนอเรื่องนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของคตส. หากคตส.เห็นว่าไม่สมควรต่ออายุ ก็ไม่ต้องทำ หากคตส.ทำงานเสร็จ ก็ส่งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ หากทำงานไม่เสร็จ และคตส.เห็นว่าควรขยายเวลา คตส.ก็ควรเสนอครม. ให้ขยายเวลาทำงานของคตส.ตามสมควร เพื่อให้คตส.ทำงานได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่ไม่ควรเกินเวลาที่จะมีรัฐบาลชุดใหม่

เมื่อถามว่า หากคตส.ทำงานไม่ทัน คตส.ต้องส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ทำงานต่อ เชื่อมั่นในการทำงานของ ป.ป.ช.หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่า ป.ป.ช.มีเรื่องต่างๆ ที่ต้องทำนับหมื่นเรื่อง ดังนั้น การที่ คตส.ตั้งขึ้นมาในสถานการณ์พิเศษ เพราะกลไกปกติไม่ทำงาน หากฝ่ายการเมืองเดิมและฝ่ายการเมืองใหม่ให้อำนาจคตส.ทำงาน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการคตส. กล่าวว่า หากสนช. จะต่ออายุให้คตส.ก็ทำไปเลยไม่ต้องมอบให้คตส.ตัดสิน หากกรรมการคตส.บางคนจะไม่ทำงานต่อก็ให้ลาออกไป ถ้า คตส.ต่ออายุตัวเองมันก็แปลก

เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับการต่ออายุ คตส.หรือไม่ นายแก้วสรร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ต้องมีการวางระบบ ขอเรียนตรงๆ ว่า ในวันนี้บ้านเมืองอยู่ในอารมณ์เฉพาะกาล ปัญหาเฉพาะกิจ คตส.จึงได้เกิดขึ้น และสังคมคาดหวังสูงทุกวันนี้คตส.ก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ และมีผลงานรุดหน้าระดับหนึ่ง แต่การทำงานแบบเฉพาะกิจนั้นจะอยู่นานๆ ไม่ได้ เพราะคตส.ต้องยืมบุคคลากรจากหน่วยงานต่างๆ มาทำงานและทำงานเหนื่อย การคอร์รัปชั่นของรัฐบาลชุดที่ผ่านมาเยอะ แต่กลไกการตรวจสอบในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาไม่ทำงาน เมื่อมีคนเห็นว่าการทำงานไม่ลุล่วง ซึ่งตนเห็นว่าหากสิ่งใดที่คตส.ยังไม่ดำเนินการก็ควรส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ฉะนั้นจึงควรมองในระยะยาว และปรับปรุงการทำงานของป.ป.ช.ให้เข้มแข็งโดยนำงานชิ้นใหญ่ไปทำ ส่วนการปราบปรามการทุจริตชิ้นเล็กก็ควรให้ตำรวจและหน่วยงานต้นสังกัดรับไปดำเนินการ