นายกฯฉุน!โดนถามรัฐบาลไร้ความเชื่อมั่น

นายกฯฉุน!โดนถามรัฐบาลไร้ความเชื่อมั่น

'นายกฯ'ฉุน!โดนถาม'รัฐบาล'ไร้ความเชื่อมั่น โยน'มั่นคง'รอบคอบยกเลิก'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' ก่อนย้อนถามต้องรับผิดชอบอะไรกรณี'ถวิล'

10 มี.ค.57 เมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ให้สัมภาษณ์ถึงการยกเลิกประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ขอให้นายกฯตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือไม่ว่า ก็ต้องมาจากขั้นตอนของผู้ปฏิบัติงานก่อนและฝ่ายความมั่นคงก็มีคณะกรรมการที่ต้องรอฟังจากคณะกรรมการทั้งหมดอีกครั้งว่า มีความคิดเห็นอย่างไร หากมีความคิดเห็นที่ชัดเจนแล้วก็คงจะร่วมกันพิจารณาได้ 

เมื่อถามว่า นักธุรกิจนักลงทุนมองว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้การลงทุนหยุดชะงัก นายกฯ กล่าวว่า เราคำนึงทุกอย่าง เพราะจริงๆ แล้ว เราคำนึงว่าทำอย่างไรที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศและแง่ของเอกชนและเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ 
"แต่อย่างไรก็ตามว่าต้องถามเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะถ้าเราคำนึงถึงแต่ภาพนั้น แต่ขณะเดียวกันเกิดปัญหาความวุ่นวาย ความรุนแรงขึ้นในประเทศ ก็จะกลายเป็นผลร้ายมากกว่า ก็คงต้องขอให้มีการชั่งน้ำหนักและพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้งหนึ่ง" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า การประชุมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจวันนี้มีการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศที่เกิดจากการชุมนุมเสียหายถึง 5 แสนล้านบาทหรือไม่

นายกฯ กล่าวว่า ในภาพรวมจะเห็นว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัว ซึ่งเห็นตัวเลขในเดือนมกราคมก็มีการปรับตัวที่ลดลงบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม หวังว่าทุกหน่วยงานจะช่วยกันพลิกฟื้นความเชื่อมั่น แต่สิ่งที่เห็นคือ จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงผลกระทบอีกหลายตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใบอนุญาตบีโอไอ ที่อาจจะมีการล่าช้า และขณะนี้ก็กำลังมีการติดตามในส่วนของกระทรวงพาณิชย์เรื่องของการเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ซึ่งหลายๆ ตัว นอกจากในส่วนของสหภาพยุโรป (อียู) และเอฟทีเอ เรื่อง GSP ที่อาจจะมีผลกระทบก็คงต้องศึกษาว่าส่วนอื่นๆ มีตัวไหนบ้าง 

"ได้กำชับให้หน่วยงาน เพราะขั้นตอนในส่วนของกระทรวงก็สามารถให้กระทรวงสามารถให้คนเจรจาดำเนินการไปได้ในบางขั้นตอน แต่สุดท้ายเมื่อถึงขั้นตอนการจบก็รอที่รัฐสภา ขณะนี้ก็กำลังศึกษาอยู่ แต่โดยรวมแล้ว เราได้มองว่าสิ่งที่เราต้องช่วยกันก็คือ ต้องเร่งในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่น เพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจซึมไปมากกว่านี้ เพราะอาจจะมีผลกระทบบ้างในเดือนมกราคม เนื่องจากเดือนธันวาคมประชาชนกังวลกับเหตุการณ์และมีการจับจ่ายใช้สอยลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตัวเลขในเดือนมกราคมลดน้อยลง หวังว่าในเดือนกุมภาพันธ์ที่มีวันหยุดเยอะ ก็พยายามให้ทุกหน่วยงานเร่งรัด โดยเฉพาะการใช้จ่ายจากภาครัฐ และอย่างไรก็ตาม ตัวเลข 5 แสนล้านยังไม่ได้มีการรายงานในที่ประชุม ทั้งนี้ี มีการขอข้อมูลในแต่ละหน่วยงานก่อน" นายกฯ กล่าว 

เมื่อถามว่า แต่สถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้รัฐบาลจะเอาอะไรไปเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ซึ่งนายกฯ หยุดนิ่งแล้วยิ้มและมองหน้าผู้สื่อข่าว

พร้อมกับตอบว่า  "อันนี้ก็ต้องหวังว่า สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกัน ถ้าสื่อมวลชนตั้งคำถามแบบนี้แล้วเราไม่เชื่อมั่น ซึ่งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วเราจะเชื่ออะไร ถ้าทุกคนถามแต่ว่ารัฐบาลนี้ไม่มีความเชื่อมั่น ขาดความเชื่อมั่น แล้วเราจะกลับไปสู่ระบอบที่ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ อันนี้เป็นคำถามที่ต้องถามอยู่"

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
 
ให้กับนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ภายใน 45 วัน ว่า วันนี้ได้สั่งการให้นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดำเนินการเนื่องจากยังมีขั้นตอนต่างๆ ในรายละเอียดจึงได้สั่งการให้เลขาธิการนายกฯ และเลขาธิการกพ.ไปหารือในรายละเอียด ส่วนจะทำได้ทันตามกำหนด 45 วัน ตามคำสั่งศาลหรือไม่นั้น ก็ต้องดู เพราะจริงๆ ทุกอย่างมีการศึกษาตามขั้นตอน และรายละเอียดก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ 

เมื่อถามว่า วันนี้นายถวิลพยายามบอกว่า รัฐบาลพยายามจะยื้อเวลาให้ยาวออกไป นายกฯ กล่าวว่า
 
"ไม่หรอกค่ะ"  เพราะว่าบางอย่างมีในรายละเอียด และวันนี้ก็ต้องศึกษาในเรื่องของคณะกรรมการกฤษฎีกาหลังการยุบสภาด้วย ว่า ขั้นตอนต่างๆ จะทำอะไรอย่างไร และขอให้เจ้าหน้าที่หารือกันก่อน 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะกระทบมาถึงตัวนายกฯ ด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จริงๆ เราได้ปฏิบัติอยู่แล้วคงให้ขั้นตอนในการศึกษา ไม่ใช่มาถึงแล้วจะดำเนินการได้ทันที เนื่องจากมีขั้นตอนและรายละเอียดอยู่ ก็คงต้องขอเวลาศึกษาและทำให้ถูกต้อง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิกวุฒิสภาบางส่วนจะนำเรื่องนี้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายกฯ กล่าวว่า

"โธ่ ศาลเพิ่งตัดสินวันแรกเองนะคะ อย่าเพิ่ง วันนี้เพิ่งทำงานวันแรกอยู่ ก็คงต้องรอ เพราะเนื่องจากว่าในคำสั่งก็ให้เวลาในการปฏิบัติ 45 วัน ก็คงต้องรอให้ครบ 45 วันก่อนว่าดิฉัน ทำหรือไม่ทำอย่างไร และมีความผิดตรงไหน คือบางครั้งก็ต้องมีเวลาและให้ความเป็นธรรมกันบ้าง เพราะว่าไม่เช่นนั้นมาถึงปุ๊บแล้วจะมาบอกว่าไม่ทำเลยก็คงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ด้วย และตัวดิฉันเองที่จะต้องศึกษาและทำตามขั้นตอนของกฎหมาย"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายตรงข้ามอยากให้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ด้วย นายกฯ ย้อนถามกลับว่า

"แสดงอะไรค่ะ ดิฉันเองก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่ตอนอย่างที่เรียนว่า ก็ต้องมีขั้นตอนในการศึกษาในการดำเนินการ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอค่ะ เพราะจริงๆ ในส่วนของรัฐบาลทุกรัฐบาลก็มีการแต่งตั้งโยกย้าย และติดปัญหาในเรื่องของคำสั่ง และคำสั่งศาลปกครอง เราก็พร้อมทำเหมือนที่รัฐบาลอื่นทำ" 

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าการย้ายนายถวิลกลับมาเป็นเลขาฯกับสมช.จะกระทบต่อการทำงานด้านความมั่นคงของรัฐบาล อีกทั้ง นายถวิลประกาศตัวชัดเจนว่า อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็คงต้องขึ้นอยู่กับเจตนา ถ้าทุกคนตั้งใจทำงาน ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องงานก็จะไม่ติดขัด ก็ขอให้แยกแยะ 

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์