ปู ลั่นขอตายในสนามประชาธิปไตยเยี่ยงทหารตายในสนามรบ

ปู ลั่นขอตายในสนามประชาธิปไตยเยี่ยงทหารตายในสนามรบ

"ปู" ลั่นขอตายในสนามประชาธิปไตยเยี่ยงทหารตายในสนามรบ - โต้ "สุเทพ" อย่าท้าทายออกสื่อ!

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ระบุว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจในการเจรจาการแก้ไขปัญหาของประเทศ พร้อมแสดงจุดยืนในการเจรจาต้องให้มีการถ่ายทอดสด ว่า ที่ตนพูดคำนี้ในการเปิดเวทีการเจรจาตลอดเวลาว่าเราอย่ามาตั้งเงื่อนไขกันเลย เพราะข้อเท็จจริงในส่วนของกติกาต่างๆ เราก็รู้ว่าในเรื่องการชุมนุมเราไม่ต้องการให้เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น 

"และสิ่งที่ดิฉันจะต้องถามกลับไปคือถ้าเราได้มีการพูดคุยกันโดยในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้รักษากติกาก็ต้องพูดคุยกันในกรอบของกติกา กรอบของกฏหมายและรัฐธรรมนูญ ถ้าคุณสุเทพเห็นด้วยกับกรอบนี้ก็จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้ แต่ถ้าบอกว่าไม่เห็นด้วยกับกรอบนี้แล้วจะไม่ให้มีการเลือกตั้ง ไม่ให้รักษากติกาใดๆ เลยแล้วเราจะคุยกันได้อย่างไร จึงเป็นที่มาว่าทำไมจะต้องหาผู้ที่มาร่วมกันคิดและแก้ไขว่าจะทำกันได้อย่างไร เพราะถ้าต่างคนต่างตั้งเงื่อนไข ทุกอย่างจะเดินไปได้ยากขณะเดียวกันดิฉันเองที่จะจำเป็นต้องพูดคำนี้ในการรักษากติกา เพราะมีหลายคนถามว่าทำไมจึงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ต้องบอกว่าเราเป็นผู้รักษากติกา รักษาประชาธิปไตย ถ้าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือเป็นทหารก็ต้องบออกว่าทหารต้องทำหน้าที่ของตนเองจนนาทีสุดท้าย ทหารต้องรักษาพื้นที่ ต้องตายสนามรบ วันนี้ดิฉันก็ต้องตายในสนามประชาธิปไตย"

เมื่อถามว่าเหตุผลใดที่ทำให้พูดว่ายอมตายคาสนามประชาธิปไตยน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ประชาธิปไตย

คือหน้าที่ และการที่ประเทศจะเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นจากต่างชาติได้เราต้องเดินตามกรอบของประชาธิปไตย ตนในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาลก็ไม่สามารถบอกประเทศอื่นว่าตนจะไม่รักษาประชาธิปไตย จะให้คนอื่นมาฉีกรัฐธรรมนูญ เป็นใครที่อยู่ในหน้าที่ปฏิบัติก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองเช่นเดียวกับทหารที่ต้องทำหน้าที่ของตนเองในสนามรบจนนาทีสุดท้ายเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าวันนี้จำเป็นต้องมีคนกลางเข้ามาช่วยประสานในการแก้ไขปัญหาหรือไม่

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนก็หวังว่านายสุเทพจะมาหาวิธีการพูดคุยกัน ก็น่าจะมีโอกาสและสามารถแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่เป็นการดีเบทตั้งเงื่อนไขหรือท้าทายกัน มันก็ไม่จบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนกลางเข้ามาช่วย ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสที่ดีในการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตามตนไม่สามารถที่จะบอกว่าเป็นพูดรักษากติกา รักษาประชาธิปไตย แล้วจะมาบอกว่าเราจะเจรจาบนเงื่อนไขที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้เลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น) มาเป็นคนกลางการเจรจาและแก้ไขปัญหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่างที่ตนเคยพูดว่าการรับฟังความคิดดีๆ และแนวคิดต่างๆ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี แล้วสหประชาชาติก็เคยช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทั้งหมด และทุกอย่างเราจะต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน ถือเป็นเรื่องหลักมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนที่จะมีการเจรจาได้ถามไปยังศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) หรือไม่

เพราะร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในฐานะผอ.ศรส.ระบุว่านายสุเทพมีข้อหากบฎอยู่ แล้วรัฐบาลจะเจรจาด้วยได้อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่พูดไปว่าต้องมีหลายๆ ฝ่ายมาร่วมกันและคุยกันว่าทุกอย่างในกติกาเราจะไปด้วยกันอย่างไร ไม่ใช่ต่างคนต่างไม่ได้คุยถึงกรอบโครงอะไรเลย แล้วมาเจอกันคงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงต้องเริ่มโดยมีผู้คนมาพูดคุยกันว่าวิธีการในการเข้าหากันจะเป็นอย่างไร ถ้าเรามีความจริงใจต่อกันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาท้าทายหน้าสื่อแบบนี้

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายสุเทพพยายามที่จะขอดีเบทและกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเอง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "ดิฉันไม่ใช่นักโต้วาที และดิฉันไม่มีความชำนาญที่จะมาโต้และดีเบทกับคุณสุเทพ แต่ดิฉันมีความจริงใจที่จะให้ประเทศเดินหน้าได้เราหันมาหาวิธีการในการหาทางแก้กันดีกว่า วันนี้เราต่างคนต่างเจ็บปวด ประเทศเองก็เจ็บปวด ผู้ชุมนุมเองก็เจ็บปวด และไม่อยากเห็นความรุนแรงต่างๆ ก็ขอร้องเถอะค่ะ และที่คุณสุเทพบอกว่าดิฉันตัดสินใจอะไรไม่ได้ ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ที่จะตัดสินใจในฐานะยิ่งลักษณ์คนเดียว"

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์