23 ก.พ. 57 เมื่อเวลา 10.00 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ระบุว่า ไม่รู้จักกลุ่มมือปืนป๊อบคอร์น แต่ท้าทายให้คนเสื้อแดงออกมาชุมนุม เพราะพ่อค้าป๊อบคอร์นรออยู่ ว่า สิ่งที่นายสุเทพพูดแสดงให้เห็นว่า มือปืนป๊อบคอร์นกับนายสุเทพซี้กันใช่หรือไม่ สิ่งที่นายสุเทพพูดแสดงว่า มือปืนป๊อบคอร์นกับนายสุเทพรู้จักกัน ทั้งนี้ ขอถามตรงๆ ว่า มีมือปืนป๊อบคอร์นล้อมนายสุเทพอยู่ 200 คน ทำให้นายสุเทพกล้าซ่าได้ถึงขนาดนี้ โดยอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนรับจ๊อบเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเองใช่หรือไม่ ส่วนกรณีที่นายสุเทพประกาศไล่ล่านายกฯ แบบไม่เกรงกลัวกฎหมายนั้น เป็นการกดดันแบบสิ้นคิด ไม่เห็นภาวะผู้นำในการจะมาปฏิรูปการเมือง สำหรับการยิงถล่มเวทีกปปส.ที่ จ.ตราด จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอประณามผู้ก่อเหตุ ว่าเป็นการกระทำต่ำทราม การกระทำเหล่านี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล แต่เป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความขัดแย้งจากมือที่สาม ทำให้ไอ้โม่งที่รอเก็บมะม่วงอยู่ใต้ต้นได้ประโยชน์

ขู่ยื่นเอาผิด 'กกต.' หากจัดการลต.ไม่เสร็จก่อน 4 มี.ค.

นายพร้อมพงศ์ แถลงถึงกรณีที่กกต.จะประชุมในวันที่ 24 ก.พ.เพื่อพิจารณาถึงการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเรื่องความขัดแย้งระหว่างกกต.กับรัฐบาลในการออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งใหม่ใน 28 เขตที่ยังไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าเงื่อนไขความขัดแย้งระหว่างองค์กรที่จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ เพราะกรณีนี้กกต.มีอำนาจในการดำเนินการรับสมัครใน 28 เขตที่มีปัญหา แต่กลับโยนภาระให้รัฐบาลและศาลรัฐธรรมนูญรับผิดชอบ ซึ่งหนังสือที่รัฐบาลตอบกลับไปยังกกต.ก็มีความชัดเจนแล้ว ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า การออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งใหม่นั้นทำไม่ได้ เพราะจะเป็นการออกพระราชกฤษฎีกาซ้อน ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 นำไปสู่การฟ้องร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะและยุบพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ หากกกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อยได้ภายในวันที่ 4 มี.ค. พรรคจะให้ผู้สมัครไปยื่นร้องเอาผิดกับกกต.ตามมาตรา 20 ของพ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีการเป็นเจ้าพนักงานฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. เชิญตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลและนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อคุยกับตัวแทนหน่วยราชการถึงปัญหาการจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตที่ยังไม่มีผู้สมัครนั้น นายจารุพงศ์ และพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ลงพื้นที่ จ.สงขลา ตามคำเชิญของกตต. เพราะคิดว่าน่าจะมีนัยพิเศษ เนื่องจากกกต.รู้ดีอยู่แล้วว่า หากลงพื้นที่ไปก็จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาปิดล้อม เป็นการสร้างเงื่อนไขการเผชิญหน้า สร้างความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น ทำให้กกต.ใช้เป็นข้ออ้างในการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ไม่ได้กลัวการลงพื้นที่ แต่ถ้าลงไปแล้วเกิดการเผชิญหน้าก็ไม่สมควรไป นายสมชัยหวังผลอะไรจากการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลลงพื้นที่หรือไม่ หากจะหารือกันจริงทำไมไม่หารือในกทม. หรือ จ.เชียงใหม่ ก็ได้ ดูแล้วนายสมชัยอาจจะไม่ใช่กกต. แต่อาจจะเป็นกปปส. ตนผิดหวังการทำงานของนายสมชัย เพราะแทนที่จะแก้ปัญหา แต่กลับเติมเชื้อไฟตลอด น่าจะสอดคล้องกับแผนบันได 4 ขั้นเพื่อล้มรัฐบาล ถ้าทำสำเร็จจริงประชาชนจะออกมาต่อต้านทั่วประเทศมากกว่ากลุ่มกปปส.แน่นอน

ทวงถาม ป.ป.ช. 13 คดีสมัยรัฐบาลปชป.ไม่คืบ

นายพร้อมพงศ์ แถลงว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะไปยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดีต่างๆ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งหลายคดีไม่มีความคืบหน้า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ น่าจะมีอยู่ประมาณ 13 คดี โดยเป็นการกล่าวหานายอภิสิทธิ์ 3 เรื่อง นายสุเทพ 6 เรื่อง และถูกกล่าวหาร่วมกัน 4 เรื่อง อาทิ การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 53 การก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง การทุจริตการจัดซื้อยานเกราะล้อยางจากประเทศยูเครน การทุจริตในวิกฤตน้ำมันปาล์ม และการทุจริตในคณะกรรมการสงเคราะห์การทำสวนยาง ทั้งนี้ คดีเหล่านี้เกิดก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นรัฐบาล แต่การตรวจสอบกลับไม่ไปถึงไหน ขณะที่โครงการรับจำนำข้าวกลับใช้เวลาเพียง 21 วัน ก็แจ้งข้อกล่าวหานายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะนี้ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอนนายวิชา มหาคุณ ออกจากตำแหน่งกรรมการป.ป.ช.กรณีวางตัวไม่เป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจน