อัยการสั่งไม่ฟ้อง ´ทักษิณ´ 3คดีหมิ่นเบื้องสูง

อัยการสั่งไม่ฟ้อง ´ทักษิณ´ 3คดีหมิ่นเบื้องสูง


สั่งไม่ฟ้อง "ทักษิณ" หมิ่นเบื้องสูงทั้ง 3 คดี "อธิบดีอัยการ" แจงพยานหลักฐานฟังไม่ได้ว่า ผู้ต้องหามีเจตนาอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แต่ยอมรับคำพูดอดีตนายกฯ ไม่สมควรอาจหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นเบื้องสูงได้



ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 10 เม.ย.


นายเสริมเกียรติ วรดิษฐ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาสั่งคดีหมิ่นเบื้องสูง ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ต้องหา กรณีถูกร้องทุกข์กล่าวโทษกระทำผิดหมิ่นพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ส่งสำนวนให้อัยการพร้อมความเห็นสมควรสั่งไม่ฟ้องใน 3 คดี ประกอบด้วยคดีที่

1. พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวกับคนขับรถแท็กซี่ที่อาคารอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.48

2. คดีที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดในรายการนายกฯ พบประชาชนผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เมื่อวันที่ 4 ก.พ.49 และ

3.สำนวนคดีที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ากทม.แล้วมีกลุ่มคาราวานคนจนคอยต้อนรับ โดยใช้ธงเฉลิมพระเกียรติ และมีกระดาษข้อความว่า "เรารักทักษิณ" คาดศีรษะ


โดยล่าสุด ตนได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว


โดยคณะทำงานอัยการได้รวมพิจารณาสั่งคดีทั้ง 3 สำนวนพร้อมกัน และได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผบ.ตร. แล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145

ซึ่งหากรักษาการ ผบ.ตร.เห็นชอบตามความเห็นของอัยการคดีก็เป็นที่ยุติ แต่หาก รักษาการ ผบ.ตร.มีความเห็นแย้ง ก็ต้องส่งสำนวนพร้อมความเห็นไปให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะฟ้องหรือไม่ต่อไป

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวต่อว่า การสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณนี้ อัยการมีความเห็นว่า จากถ้อยคำที่พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวปราศรัยในงานนายกพบแท็กซี่ และข้อความที่กล่าวในรายการนายกฯทักษิณคุยกับประชาชน ซึ่งตนจะไม่ขอพูดในรายละเอียดเพราะจะเป็นการหมิ่นเหม่ต่อพระบรมเดชานุภาพ

ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นั้น ตนเห็นว่าเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ไม่สมควร ไม่เหมาะสม อาจ ก่อให้เกิดความแตกแยกและขัดแย้งขึ้นได้ ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงมิบังควรใช้ถ้อยคำดังกล่าวปราศรัย

อย่างไรก็ตาม ถ้อยคำของพ.ต.ท.ทักษิณดังกล่าว ยังไม่ถึงกับเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์


ส่วนการที่มีบุคคลนำธงเฉลิมพระเกียรติ


และนำแผ่นป้ายกระดาษคาดศีรษะที่มีข้อความว่า "เรารักทักษิณ" มาแจกให้ประชาชนกลุ่มคาราวานคนจนใช้โบกต้อนรับพ.ต.ท.ทักษิณในการเดินทางกลับเข้ากทม.หลังจากได้มีการประกาศยุบสภาไปแล้วนั้น

ก็ฟังไม่ได้ว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ใช้ให้มีการกระทำดังกล่าว พยานหลักฐานจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ต้องหากระทำความผิด อัยการจึงสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ต้องหาฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค.2519 ข้อ 1

ทั้งสามสำนวนคดี คือสำนวนคดีอาญา ส.2 เลขรับที่ 272/2549 , 273/2549 และ 274/2549 ตามความเห็นของพนักงานสอบสวน, พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ปฏิบัติงานช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในขณะนั้น, องค์คณะทำงาน, พนักงานอัยการผู้ตรวจสำนวน ,อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 และรองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา

โดยผู้พิจารณาสำนวนคดีทั้งหมดมีนี้ความเห็นไม่ฟ้องผู้ต้องหาตรงกัน


"อย่างไรก็ตามตนอยากจะวิงวอนทุกคน


โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้นำหรือผู้บริหารควรจะต้องตระหนักว่าการใช้ถ้อยคำกล่าวถึงผู้หนึ่งผู้ใด โดยเฉพาะเบื้องสูงควรจะใช้คำพูดที่สุภาพ ไม่ก้าวล่วงเบื้องสูง ต้องเทิดทูนสักการะ อย่านำเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือของผู้หนึ่งผู้ใด ไม่สมควรพูดจาในลักษณะหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

อย่าคะนอง เพราะนอกจากจะเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้ว

จะก่อให้เกิดความคิดแตกแยกประชาชนออกเป็น 2 ฝ่ายได้ อันจะนำมาสู่ความเห็นไม่ตรงกันและอาจปะทะกันด้วย" อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวตอนท้าย



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์