เผยกกต.จนแต้มตอบไม่ได้เลื่อนเลือกตั้งแล้วปท.สงบ

เผยกกต.จนแต้มตอบไม่ได้เลื่อนเลือกตั้งแล้วปท.สงบ

รายงานข่าวแจ้งว่าในการหารือระหว่าง กกต.กับรัฐบาลนั้น ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต  ทั้งฝ่ายรัฐบาลและกกต.ต่างก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในมุมของตนเอง 


โดย กกต.เห็นว่าหากเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ.จะทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากมีการขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะรุนแรงกว่าที่เกิดขึ้นในวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และได้มีการนำเสนอปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง ไม่ว่ากรณี 28 เขตภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัคร การไม่สามารถประกาศรับรองการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และระบบบัญชีรายชื่อได้ ขณะที่รัฐบาลก็มองว่าสิ่งที่ กกต.ทำนั้นเป็นการคาดการณ์ที่มองภาพที่จะเกิดขึ้นน่ากลัวเกินไป และตั้งคำถามว่า การเลื่อนการเลือกตั้งจะทำให้การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.จบ และสงบลงหรือไม่ และถ้าเลื่อนแล้วจะเป็นเมื่อไร  ซึ่งทางกกต.ก็ไม่สามารถที่จะให้คำยืนยันในเรื่องเหล่านี้ได้ ทั้งนี้ฝ่ายรัฐบาลระบุว่า การที่ กกต.จะให้รัฐบาลเสนอ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น รัฐบาลไม่มีปัญหา ถ้าการออกพระราชกฤษฎีกานั้นไม่ขัดกฎหมาย  ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาก็บอกเพียงแต่ว่าการเลื่อนวันเลือกตั้งนั้นทำได้ โดยไม่ได้บอกว่าให้เลื่อนเป็นวันใด แต่ให้เป็นการหารือกันระหว่างนายกรัฐมนตรี และประธานกกต. เท่านั้น

ข่าวแจ้วว่า รัฐบาลยังได้หยิบยกกรณีปี 2549 ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 เม.ย. 49 เป็นโมฆะมาเป็นตัวอย่างชี้ให้กกต.เห็นว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวทำให้รัฐบาลรักษาการในขณะนั้นและผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องสามารถที่เสนอร่างพ.ร.ฎ.แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้ 

เพราะถือว่าการเลือกตั้ง 2 เม.ย. 49 สิ้นสุดไปแล้ว แต่สถานการณ์ในขณะนี้ การเลือกตั้งยังดำเนินอยู่ ไม่สิ้นสุด  และที่ลงคะแนนล่วงหน้าไม่ได้ก็ยังไม่ได้มีผลให้การเลือกตั้งเสียไป สิ่งที่ กกต.สะท้อน เป็นการคาดการณ์  และในข้อเท็จจริง ก็ไม่ได้มีเฉพาะคนที่คัดค้านการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง โดยจะเห็นได้ว่าในการเลือกตั้งล่วงหน้าในและนอกเขตจังหวัดที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่าน มี 66 จังหวัด หรือ 300 กว่าเขตเลือกตั้งที่การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้ลงทะเบียนไว้เป็นไปอย่างเรียบร้อย และมีแค่  83 เขตเลือกตั้งเท่านั้นที่มีปัญหา ดังนั้นจะเอาส่วนน้อยเป็นจุดที่บอกว่าการเลือกตั้งไม่สมบูรณ์และควรต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็ไม่น่าจะถูกต้อง รวมถึงถ้าเลื่อนการเลือกตั้งก็มีแนวโน้มผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ 66 จังหวัด ซึ่งได้หาเสียงเลือกตั้งไปแล้วเต็มที่ ก็อาจจะฟ้องรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีในฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้ และคนที่จะเจ็บตัวที่สุดเพียงคนเดียวก็คือนายกรัฐมนตรี เพราะต้องเป็นผู้ทูลเกล้าฯร่างพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งใครจะเป็นคนรับผิดชอบ

“รัฐบาลเห็นว่าถ้าเลื่อนการเลือกตั้งจะเกิดความเสียหายมากกว่าการเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง เพราะโดยเงื่อนไขของกฎหมาย นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบเต็ม ๆ ในฐานะผู้ทูลเกล้าฯและผู้รับสนองพระบรมราชโองการร่างพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ แต่ กกต.กลับเห็นว่าถ้าเดินหน้าจัดเลือกตั้งจะเสียหายกว่าการเลื่อนการเลือกตั้ง 

แต่สิ่งที่กกต.เสนอเป็นเรื่องของการคาดการณ์ว่าจะเกิดอย่างนั้นอย่างนี้เท่านั้น ซึ่งรัฐบาลก็เห็นว่า กกต.ควรจะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งไปแล้วมีปัญหาอะไร เช่นในเรื่องกำลังคน ในเรื่องความปลอดภัย ก็จะเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถภายในใต้กรอบของกฎหมายและไม่ใช้ความรุนแรง โดยรัฐบาลก็ยอมรับกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง เช่น เลือกตั้งแล้วมีมวลชนปิดล้อมก็ยุติการลงคะแนน  หรือเลือกตั้งแล้วประกาศ ส.ส.ไม่ได้ครบร้อยละ 95 ไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้  ระยะเวลาที่จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ จนกว่าจะได้ส.ส.อาจต้องล่วงเลยไปเป็น 4-5 เดือน รัฐบาลก็ยอมรับได้ เพราะถ้าถึงจุดนั้นแล้วมีคนไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่าการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและมีผลทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เสียใหม่ ก็มีหลักประกันทางกฎหมายที่จะทำให้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีสามารถเสนอร่างพ.ร.ฎ.กำหนดการเลือกตั้งใหม่ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง"แหล่งข่าว ระบุ

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์