28 ม.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
แถลงถึงกรณีที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า กกต.ยังไม่ได้ประสานกองทัพให้เข้าช่วยเหลือการเลือกตั้งแต่อย่างใดว่า เหตุใด กกต.ยังไม่ขอวามร่วมมือ หากทหารสนธิกำลังกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การเลือกตั้งก็จะไม่มีปัญหา หรือจะสามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้น กกต.ต้องขอกำลังทหาร รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งจะช่วยให้การขัดขวางจากหนักเป็นเบาได้ แต่ที่ กกต.บอกว่าจะไม่ขอกำลังสนับสนุนจากทหารก็น่าแปลกใจ นอกจากนี้ทราบมาว่า กกต.ยังไม่อบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งประมาณ 1 ล้านคนนั้นมีนัยยะอะไรหรือไม่
แถลงถึงกรณีที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า กกต.ยังไม่ได้ประสานกองทัพให้เข้าช่วยเหลือการเลือกตั้งแต่อย่างใดว่า เหตุใด กกต.ยังไม่ขอวามร่วมมือ หากทหารสนธิกำลังกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การเลือกตั้งก็จะไม่มีปัญหา หรือจะสามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้น กกต.ต้องขอกำลังทหาร รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งจะช่วยให้การขัดขวางจากหนักเป็นเบาได้ แต่ที่ กกต.บอกว่าจะไม่ขอกำลังสนับสนุนจากทหารก็น่าแปลกใจ นอกจากนี้ทราบมาว่า กกต.ยังไม่อบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งประมาณ 1 ล้านคนนั้นมีนัยยะอะไรหรือไม่
นอกจานี้ นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ออกมาแถลงข่าวว่าหากเดินหน้าจัดการเลือกตั้งจะมีคนออกมาคัดค้าน และจะมีความรุนแรงใน กทม.และพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคะแนนในส่วนของบัญชีรายชื่อ และอาจจะนำไปสู่การร้องเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะว่า เป็นการคาดการณ์หรือเตรียมการณ์ให้เกิดขึ้น ในเมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว รัฐบาลต้องทำตามกฎหมาย ถ้าไม่ทำจะมีผล ส่วนที่บอกว่าจะมีความรุนแรงนั้น เมื่อ นายองอาจ ทราบในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าพรรค มีฐานเสียงมากในภาคใต้ ควรส่งสัญญาณห้ามปรามไม่เห็นด้วยกับการขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่ใช่ออกมาพูดลักษณะออกมาชี้นำและข่มขู่รัฐบาล ทั้งนี้ ที่ว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะนั้น รู้ได้อย่างไร ดังนั้นไม่อยากให้ออกมาเป็นประชาสัมพันธ์รายวัน เพื่อให้ประชาชนสับสน และกระทบกับการเลือกตั้ง
ออกมาแถลงข่าวว่าหากเดินหน้าจัดการเลือกตั้งจะมีคนออกมาคัดค้าน และจะมีความรุนแรงใน กทม.และพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคะแนนในส่วนของบัญชีรายชื่อ และอาจจะนำไปสู่การร้องเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะว่า เป็นการคาดการณ์หรือเตรียมการณ์ให้เกิดขึ้น ในเมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว รัฐบาลต้องทำตามกฎหมาย ถ้าไม่ทำจะมีผล ส่วนที่บอกว่าจะมีความรุนแรงนั้น เมื่อ นายองอาจ ทราบในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าพรรค มีฐานเสียงมากในภาคใต้ ควรส่งสัญญาณห้ามปรามไม่เห็นด้วยกับการขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่ใช่ออกมาพูดลักษณะออกมาชี้นำและข่มขู่รัฐบาล ทั้งนี้ ที่ว่าการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะนั้น รู้ได้อย่างไร ดังนั้นไม่อยากให้ออกมาเป็นประชาสัมพันธ์รายวัน เพื่อให้ประชาชนสับสน และกระทบกับการเลือกตั้ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
