สมชัยหวั่นโดนฟ้องลต.เป็นโมฆะ!

23 ม.ค. 57  นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการหารือมอบนโยบายแก่ กกต. จังหวัด และ กกต. เขต จ.ตรัง ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ยากที่สุดตั้งแต่มี กกต. มา ภายใต้ความขัดแย้งโดยความเชื่อที่รุนแรงของแต่ละฝ่าย ที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางให้สำเร็จ ทำให้ กกต. อยู่ใต้แรงกดดันของการต้องทำตามหน้าที่ และการอยู่ร่วมกับคนในสังคม บางครั้งการเดินหน้าของ กกต. กลับถูกมองว่าเป็นศัตรู ดังนั้นสิ่งที่เป็นหลักของ กกต. คือเดินทางกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และทำตามหน้าที่เต็มที่เท่าที่จะทำได้ ซึ่ง กกต. กลางก็พูดต่อสังคมตลอด ว่าวันที่ 2 ก.พ. ยังไงก็มีปัญหาเปิดประชุมสภาไม่ได้ แต่ กกต. ก็ขยายเวลาเองเกินกฎหมายไม่ได้ และสิ่งที่ได้พูดล่วงหน้าก็เป็นจริงหมด จน กกต. ถูกกล่าวหาว่า กกต. ตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ จนไม่เข้าใจว่าคนที่กล่าวหาว่าเราพูดผิด เขาคิดตามเหตุผลที่เราบอกไปหรือไม่

                         
นายสมชัย กล่าวต่อว่า รัฐบาลอยากให้เราออกเป็นประกาศ เพราะถ้าผิด กกต. จะเป็นฝ่ายผิด และรัฐบาลก็ไม่คุยกับเรา

ทำให้ 28 เขตจะมี ส.ส. เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ส่วน 22 เขตที่มีผู้สมัครรายเดียว หลายเขตอยู่ทางใต้ อาจมีกรณีโหวตโนมากกว่า แต่ยังไงก็ตามเลือก 3 ครั้งก็จบ แต่โจทย์ที่ใหญ่กว่าคือบัญชีรายชื่อ 125 คน ผู้รู้บอกว่าจะนับคะแนนได้ต้องรวมทุกหน่วย คะแนนขาดหน่วยเดียวก็ประกาศไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงที่ดูจะไม่ได้ขาดแค่หน่วยเดียว จะขาดแค่ไหนก็ไม่รู้ ซึ่งหลายคนห่วงว่าพวก ส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้งก่อนจะกินเงินเดือนฟรีๆ คำตอบคือจะรับเงินเดือนได้เมื่อเปิดประชุมสภาและมีการปฏิญาณตนก่อน จึงไม่มี ส.ส. คนไหนจะได้รับเงินเดือนในช่วงนี้ไปจนเปิดประชุมสภาได้ เห็นชัดๆ ว่าเป็นแบบนี้ยังจะเดินหน้าต่อก็ไม่ว่ากัน

                         
นายสมชัย ระบุว่า วันนี้โจทย์ใหญ่ที่สุดยังไม่ใช่ปัญหาวันเลือกตั้งลงคะแนนไม่ได้ แต่คือการฟ้องเลือกตั้งเป็นโมฆะ

เพราะวันนี้พบว่าการเลือกตั้งไม่สามารถจัดเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศแล้ว และเชื่อว่าจะต้องมีคนหาเหตุร้องแน่ อย่างไรก็ตามขอให้ กกต. จังหวัดและตำรวจบันทึกภาพเหตุการณ์ วิดีโอหากเกิดเหตุในวันลงคะแนน ส่วนการจับกุมขึ้นอยู่ที่ตำรวจต้องตัดสินใจ อาจไม่จำเป็นต้องกระทำในวันเกิดเหตุจริง แม้แต่ กกต. เองถูกตั้งคำถามว่าทำไมไม่แจ้งความดำเนินคดี หากการแจ้งความไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นก็อย่าไปทำ เช่นเดียวกับการเดินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขา กปปส. ที่เดินมาหลายๆ วันแต่ทำไมตำรวจไม่จับกุม ก็เพราะรู้ว่าจับกุมแล้วเหตุการณ์มันจะรุนแรงมากขึ้น

                         
ทั้งนี้ กกต. เขตใน จ.ตรังทั้ง 4 เขตได้รายงานปัญหา โดยสรุปว่ามีปัญหาความไม่เข้าใจในพื้นที่สูง
 
มีการลงบันทึกประจำวันกรณีถูกปิดล้อม เพื่อยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ ก็ถูกนำไปตีความว่าแจ้งความกล่าวหาผู้ชุมนุม เกิดการกดดันจน กกต. เขตหลายคน จนทำให้ต้องลาออกไป 4 คน อีกทั้งกระทรวงศึกษาก็ไม่ให้ความร่วมมือแล้ว เพราะต่างมองว่า กปปส. กำลังจะชนะครูยิ่งไม่ออกมา

                         
"การปาระเบิด และการออก พรก.ฉุกเฉินที่ กทม. ยิ่งส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาของภาคใต้ ทำให้การต่อต้านการเลือกตั้งทวีความรุนแรงมากขึ้น เจ้าหน้าที่ กกต. ที่เป็นประชาชนอาจไม่กลัวกับความผิดเล็ก ๆ ที่ละเว้นการทำหน้าที่ ส่วนที่เป็นข้าราชการก็พยายามทำเท่าที่ทำได้ กปน. หลายคนพยายามหาแล้ว นอกจากไม่ครบ ที่หามาก็ยังมีการลาออก เชื่อว่าถ้าวันที่ 2 ก.พ.นี้ ถ้าเอากฎหมายมาจับจะลุกเป็นไฟและมองหน้ากันไม่ติดแน่"

                         
ด้าน พล.ต.ต.จีระวัฒน์ อุดมสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง
 
กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำหน้าที่ตามกฎหมาย โดยต้องรอนโยบายผู้บังคับบัญชาว่าหากมีผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมาก ๆ จะทำยังไง ประเมินแล้วแม้มี รปภ.หน่วยละ 2 คนก็ยังมีปัญหา จึงได้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อคอยแก้ปัญหา โดยตำรวจต้องรับภาระโดยไม่มีงบประมาณพิเศษให้ ต้องใช้งบปกติของตนเอง

                         
"คาดว่าวันที่ 26 ถ้าไม่มีการสลายผู้ชุมนุมในพื้นที่ ปะทะกันจะไม่รุนแรง จะใช้หลักการเจรจา ส่วนใครทำผิดกฎหมายก็ต้องลงบันทึกประจำวันถ้ามีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ยกเว้นความผิดซึ่งหน้า แต่หากเป็นเรื่องการเมืองต้องคำนึงถึงมวลชน แต่หากใครที่เข้าไปถูกทุบตีมาร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ถูกคุกคามมาแจ้งความตำรวจก็ต้องดำเนินคดีอยู่ ยืนยันตำรวจมีเพียงโล่กับกระบองเท่านั้นไม่มีการใช้อาวุธปืน"

                         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากหารือแล้วนายสมชัยได้เชิญตัวแทน กปปส. ตรังประมาณ 6 คน มาสะท้อนความคิดต่อที่ประชุมเช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ โดย กปปส. ตรังที่เดินทางมากล่าวว่าเคยเป็นพีเน็ตมาก่อน วันนี้ถ้าไม่ใช่นายสมชัยซึ่งเป็นอดีตพีเน็ตมา เชื่อว่าวงประชุมนี้แตกไปแล้ว

                         
นายศักดิ์สฤษฏ์ ศรีประสาท ตัวแทน กปปส. ตรัง ซึ่งเป็นนักวิชาการสะท้อนว่า วันที่ 26 ม.ค. และ 2 ก.พ. กกต.อย่าเสี่ยงเลย
 
เพราะไม่มีทางจัดการเลือกตั้งใน จ.ตรังได้ ใครก็เอาไม่อยู่ ต่อให้เอาทหารทั้งกองทัพมาก็เอาไม่อยู่ และไม่ใช่ว่าแค่พรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครแล้วจะมีการเลือกตั้งได้ แต่ต้องให้คนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองในพื้นที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ ไม่เฉพาะการหาเสียง แต่รวมถึงการแสดงความเห็นทางวิชาการที่เห็นต่างได้จึงจะมีการเลือกตั้ง เพราะเราทนกับวิธีการคุกคามในภาคเหนือ ภาคอีสานมานานแล้ว ทั้งที่จังหวัดตรังมีสถานีวิทยุที่เชียร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งใจกลางเมือง ก็ไม่มีใครไปคุกคาม

                         
"ขนาดคนที่แสดงอาการจาบจ้วงที่สนามราชมังคลาฯ ยังไปแสดงความคิดเห็นเปิดเผยที่ จ.เชียงใหม่ โดยที่ตำรวจไม่ทำอะไร ทำให้พวกเรารับไม่ได้"