ก่อนจะถึง..ทางตัน..!

เขียนตามข่าว : ก่อนจะถึงทางตัน


การออกมาตีปี๊บเรื่องการปฏิวัติซ้ำซ้อน โดยมุ่งไปที่สาเหตุจากความแตกแยกระหว่างคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กับนายกรัฐมนตรี โดยพลพรรคไทยรักไทย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ถือเป็นการทิ้งไพ่ใบสำคัญที่ทำให้ทั้งรัฐบาล และ คมช. ต้องคิดหนักในการแก้เกมนี้ ยิ่งไปกว่านั้นภาพความเหนือชั้นของหมากการเมือง สงครามข่าวสารก็ยิ่งปรากฏชัดเจนว่า กลุ่มอำนาจเก่าเหนือกว่าหลายขุม เมื่อพรรคไทยรักไทยประกาศจะรณรงค์ต่อต้านการปฏิวัติทั่วประเทศ


พื้นที่ตรงนี้เคยเตือนทั้ง คมช.และรัฐบาลชุดนี้แล้วว่า


กำลังเผชิญกับนักจัดตั้งมวลชน นักรบแห่งสมรภูมิข่าวสารที่เจนจัด การจะรับมือจำเป็นต้องเร่งจัดหาคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกันไม่ใช่หลับหูหลับตาเอาพวกอ่อนหัดมาใช้งาน เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่า

กลุ่มอำนาจในปัจจุบันยังไม่สามารถปรับตัวให้เป็นฝ่ายรุกได้

แค่รับมือการเข้าตีของกลุ่มอำนาจเก่าแต่ละครั้งยังร่อแร่ แถมยังมั่วซั่วเปิดช่องว่างให้ถูกโจมตีแบบง่ายๆ ดังเช่นเรื่องการแถลงขึ้นเงินเดือนของ คมช. ซึ่งจริงๆ เป็นแค่ระเบียบราชการธรรมดาๆ ไม่ใช่ขึ้นเงินเดือนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ได้บันทึกและเอามาแถลง

เรื่องปฏิวัติซ้อนและความระหองระแหงระหว่างรัฐบาลกับ คมช.นั้น เป็นเรื่องที่ "ปิดกันให้แซด" รู้กันไปทั่วว่า มีความไม่ลงรอยกันหลายเรื่อง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็นำไปสู่เรื่องการปฏิวัติซ้ำซ้อน

ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น

โดยเฉพาะหากเกิดทางตันขึ้นมาอีก สรุปก็คือ การป่าวประกาศเรื่องนี้มีผลให้ประชาชนเริ่มหวั่นไหว มองว่าบ้านเมืองอาจจะไปไม่รอดถ้ายังไปไม่ถึงไหนแบบนี้ ยิ่งกลุ่มอำนาจเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบรุกในทุกๆ ด้าน นั่นเท่ากับทางตันใกล้เข้ามาแล้ว


สรุปก็คือ เรื่องปฏิวัติซ้ำซ้อนเป็นกระแสที่จุดติด ไม่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่


แต่นี่คือ การรุกทางการเมืองครั้งสำคัญ คราวที่แล้วที่ชาวบ้านเอาดอกไม้ไปให้ทหาร เพราะเขาเห็นว่ากระบอกปืนและรถถัง คือ ทางออกในช่วงนั้น หากแต่ยึดอำนาจมาแล้วพาบ้านเมืองไปไม่รอด แล้วจะปฏิวัติอีก

คราวนี้ดอกไม้จะกลายเป็นก้อนหิน

ยิ่งไปกว่านั้นการรณรงค์ต่อต้านที่ไทยรักไทยพูดถึงก็ไม่พ้นการชุมนุม และด้วยเหตุผลนี้จะไปห้ามก็ยาก เพราะเป็นการชุมนุมต้านเผด็จการเพื่อประชาธิปไตย

อย่ามัวแต่เมาหมัด จะทำอะไรก็ทำก่อนจะถึงทางตัน

ถ้าถึงเวลานั้น ทั้ง คมช.และรัฐบาลต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่สามารถเอาชนะในสิ่งที่ตัวเองเรียกว่า พวกทุจริตโกงกินขายชาติได้ พูดภาษาชาวบ้านง่ายๆ ก็คือ "แพ้" นั่นเอง

ถึงเวลานั้นเอารถถังออกมาอีก ก็ใช่ว่าจะชนะ หรือราบรื่นอย่างที่เคยทำ รับรองได้ว่าคราวนี้ดูไม่จืดแน่ๆ



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ จาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์