ธีรยุทธฟันธง!ทักษิณชนะยาก เปรียบพระยาแร้งหิมาลัย

ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายธีรยุทธ บุญมี ผู้อำนวยการสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ได้แถลงข่าวเรื่อง “ สุดท้ายของระบอบทักษิณ สร้างรากฐานใหม่ให้ประเทศไทย? ” โดยนายธีรยุทธ กล่าวว่า เหตุที่มีผู้ออกมาชุมนุมจำนวนมากในครั้งนี้ เนื่องจากมีกระแสปฏิรูปออกมาอย่างต่อเนื่อง คนถูกกดเป็นเวลานาน จากการคอร์รัปชั่น และการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช้นักประชาธิปไตย แต่เป็นอนาธิปไตย ที่ปฏิเสธอำนาจรัฐที่เป็นอุปสรรคในการหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง แต่ยอมรับในมุมมองที่เป็นเครื่องมือในการคอร์รัปชั่น ทั้งแก้กฎหมายเกี่ยวกับดาวเทียมรัฐเพื่อให้ขายบริษัทได้ ทำให้ระบบตรวจสอบคอร์รัปชั่นพังทลาย ใช้เงินและตำแหน่งซื้อความจงรักภัคดีของข้าราชการและองค์กรอิสระ ส่งผลให้สังคมเป็นอนาธิปไตย แก่งแย่งผลประโยชน์เพื่อกลุ่มของตัวเอง
 
และเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความกังวลต่อความรุนแรง ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงเปรียบเสมือน “ พญาแร้งดำหิมาลัย ” ที่กินได้ทั้งเนื้อสด เนื้อเน่า เนื้อปรุง และมีสายตาที่มองได้ไกล หาทางกินได้ตลอด ไม่ว่าประเทศจะพังพินาศ หรือเศรษฐกิจรุ่งเรื่อง 

ธีรยุทธฟันธง!ทักษิณชนะยาก เปรียบพระยาแร้งหิมาลัย

นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันพรรคเพื่อไทย เชื่อในประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมคลาสสิก ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน
 
และคิดเป็นอย่างดีก่อนเลือกตั้งทำให้เชื่อว่า เมื่อเลือกตั้งแล้วทุกอย่างจะดีหมด เช่นเดียวกับประเทศอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้ยึดถือความคิดดังกล่าว จึงทำให้อำนาจสูงสุดเป็นของสภา ที่จะออกกฎหมายอะไรก็ได้ หลักศีลธรรมสำคัญน้อยกว่าหลักความเท่าเทียมกัน แต่ปัจจุบันก็ยอมให้อำนาจตุลาการเข้ามาตรวจสอบได้ แต่พรรคเพื่อไทยยังไม่ยินยอม จึงเชื่อว่าสามารถออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยได้

ขณะที่ กลุ่ม กปปส. มองปัญหาลึกกว่า พรรคเพื่อไทย โดยแยกชีวิตและการเมืองออกเป็น 2 ระดับ คือ กลไกการเมือง

เช่นการเลือกตั้งเพื่อให้มีรัฐบาล และ ระดับแก่น ที่มองว่าหากรัฐหรือประชาคมทำงานได้ดี ก็จะค้ำประกันชีวิตและทรัพย์สิน แต่ถ้ารัฐพังทลาย ปัญหาร้ายแรงก็จะตามมา พวกเขาจึงต้องปฏิรูปในตัวโครงสร้างรัฐเพื่อรักษาทรัพย์สิน ชีวิต ตัวเองและลูกหลานให้พ้นจากภัยคุกคามการคอร์รัปชั่น และการชุมนุมที่ผ่านมาก็เชื่อว่า ไม่มีใครที่จะอ้างสิทธิความเท่าเทียมในการเลือกตั้ง ไปเปลี่ยนใจกลุ่ม กปปส.ได้

 ส่วนเรื่อง 1 คน 1 เสียงนั้น เป็นสิ่งที่ละเมิดไม่ได้ แต่หากรัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งมามีการโกงกิน ก็ย่อมถูกล้มล้างได้

ผู้ที่คัดค้านการเลือกตั้งก็ย่อมมีสิทธิ์ แต่ถ้าเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งก็ต้องยอมรับว่า ทำผิดกฎหมาย และอยากถามกลับคนที่ออกมาเรียกร้องให้คนอื่นเคารพสิทธิของตัวเองว่า คนเหล่านี้เคารพสิทธิ์ของตัวเขาเองหรือไม่ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้สิทธิของคนเหล่านี้ในการบงการรัฐบาลอย่างเปิดเผย แต่ก็ไม่เคยมีใครออกมาเรียกร้องแต่อย่างใด และการชุมนุมในครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ประชาชนออกมาพูดถึงการเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ทำให้เห็นได้ว่าคนไทยเข้าใจเรื่องสิทธิของตัวเองมากขึ้น

นายธีรยุทธ กล่าวต่อถึงทางออกจากวิกฤติว่า 1.ผู้ที่แก้วิกฤติต่าง ๆ ก่อนหน้านี้คือคนชั้นนำ ตั้งแต่ พระมหากษัตริย์ ทหาร ตุลาการ
 
จนตอนนี้เป็นประชาชนที่ออกมา อารยะขัดขืน หรือที่เรียกว่า “สันติภิวัฒน์”
หากประชาชนพ่ายแพ้อาจถูกรัฐหรือเสียงส่วนใหญ่จำคุกได้  ดังนั้น บางครั้งการอารยะขัดขืน หรือการคัดง้างระหว่างอำนาจอธิปไตยนี้ ที่เกิดขึ้นระหว่างองค์อธิปัตย์ในระดับต่างๆ เมื่อไม่ยอมกัน ก็ต้องมีอำนาจอื่นเข้ามาคลี่คลาย เช่นเมื่อเหตุการณ์14 ต.ค.2516 ,พ.ค.2535 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้ามาคลี่คลายวิกฤติ 2.ความเป็นไปได้ของการคลี่คลายวิกฤติแบ่งได้เป็น 2.แนวทาง คือ ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องคอร์รัปชั่น ปล่อยให้พรรคเพื่อไทย กลับมาชนะการเลือกตั้งในครั้งต่อไป จะนำไปสู่การได้มาซึ่งระบอบทักษิณโดยสมบูรณ์ และอีกแนวทางหนึ่งคือ การเปลี่ยนแปลงในระดับ ปฏิวัติ คือปฏิวัติ โดยประชาชนที่ใช้ความรุนแรง แต่คิดว่าจะไม่มีในประเทศไทย ปฏิวัติแบบใหม่คือ  “สันติภิวัฒน์” ที่ทุกภาคส่วนต้องการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ทำลายโครงสร้างห่วงโซ่ปมปัญหา ซึ่งตนหนุนแนวทางนี้และคิดว่ามีความเป็นไปได้ 3. การปฏิวัติโดยทหาร ซึ่งก็จะมีกลุ่มชนชั้นนำเข้ามาบริหารประเทศ ก็จะกลับไปสู่รูปแบบเดิม และหากเป็นเช่นนี้ก็เชื่อว่าจะมีหลายฝ่ายออกมาต่อต้าน

นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า 3.โอกาสที่รัฐบาลจะชนะขณะนี้มีน้อยมาก เพราะระบบทักษิณเริ่มเสื่อมจากการกลับกลอก ผิดคำพูดของตนเอง
 
อีกทั้งประชานิยมของระบอบทักษิณก็คือ “ประชาซาเล้ง” ที่คนเป็นแกนนำ ได้ประโยชน์ หลังจากโครงการต่างๆ พวกลิ่วล้อก็ ขโมยตัดเหล็ก ทองเหลือง ทองแดง เอาไปขาย ส่วนปลายน้ำคือ ชาวบ้านรากหญ้า ได้ได้เพียงเศษพลาสติกที่เหลือใส่รถซาเล้งถีบไปขายเท่านั้น 4.มวลมหาประชาชนอาจ ไม่ได้รับชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นนำเนื่องจากคนเหล่านั้น ไม่กล้าพอที่จะเป็นผู้ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงระดับปฏิรูป หรือปฏิวัติด้วยตนเอง

นอกจากนี้ นายธีรยุทธ ยังกล่าวว่า การชุมนุมที่ยืดเยื้อมีโอกาสเกิดความรุนแรง ดังนั้นผู้ชุมนุม ต้องเพิ่มระดับการเสียสละไปอีกถึงขั้นพลีชีพ
 
จึงข้อเสนอแนะให้ กปปส.  คือ 1.มวลมหาประชาชนต้องใช้ความมุ่งมั่นแบบเหนือมนุษย์ยืนหยัดต่อสู้อย่างสันติต่อไป และขยายผู้สนับสนุนจากชาวบ้าน ต่างจังหวัดมากขึ้น 2.กลุ่มแกนนำ กปปส.จะต้องประกาศให้ชัดเจนว่า จะไม่มีแกนนำคนใดรับตำแหน่ง หากการปฏิรูปสำเร็จ ขอเพียงสิทธิที่จะคอยตรวจสอบเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ทรงพลัง

 3.ขยายนโยบาย ของ กปปส. ให้ได้ดีกว่าเพื่อไทย
“ ผมขอเรียก ยุทธศาสตร์การต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ว่าเป็นทฤษฎีมะม่วงหล่น คือการใช้ความอดทนที่ยาวนานรอให้ผลไม้หล่นมาเอง ซึ่งดูเป็นการเรียกร้องที่เกินขีดความสามารถของมนุษย์ แต่หากเกิดขึ้นได้แม้โลกทั้งโลกก็คงจะประหลาดใจและนับถือความมหัศจรรย์ของมวลมหาประชาชนไทย ทั้งนี้ ผมไม่ใช่ กกปส.แต่ขอสนับสนุน และขอเป็นส่วนหนึ่งใน “สันติภิวัฒน์” ของมวลมหาประชาชนครั้งนี้” นายธีรยุทธ กล่าว

เมื่อถามถึงการเลือกตั้ง 2 ก.พ. นายธีรยุทธ กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาย่อยที่เกิด
 
เพราะปัญหาใหญ่ตอนนี้คือเรื่องคอร์รัปชั่น ที่กำแพงศีลธรรมพังทลายเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก และปัญหานี้ไม่สามารถแก้ได้ด้วยการเมืองระบบปกติ เพราะได้พิสูจน์แล้วว่าระบบเลือกตั้งที่ใช้ประชานิยมที่ผ่านมาแก้รากเหง้าของคอรัปชั่นไม่ได้

“ผมอยากเห็นชาวบ้านบอยคอตนักการเมืองโกง พอเวลามีการจัดงานอะไรแล้วนักการเมืองมาร่วมงาน และชาวบ้านบอกไปเลยว่าไม่ขอร่วมงานนี้ได้มั้ย เพราะมีคนโกงร่วมด้วย ผมมีเกียรติมีศักดิ์ศรีกว่านั้น ” นายธีรยุทธ กล่าว

เมื่อถามว่า หากการปฏิวัติของกปปส.สำเร็จ และฝ่ายคนเสื้อแดงออกมาคัดค้าน นายธีรยุทธ กล่าวว่า ต้องถามว่าคนเสื้อแดงจะสู้ต่อเพื่ออะไร เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายต่อต้านคอรัปชั่นการเคลื่อนไหวทั้งหมดจะต้องมีเหตุผล และหากคนเสื้อแดงบอกว่าออกมาต่อต้านเพราะ กปปส. ล้มรัฐบาลที่พวกเขาเลือกมาก็พอฟังได้ หากตนเป็น กปปส.ตนจะขอโทษคนเสื้อแดงและว่าจำเป็นต้องมีส่วนล้มการเลือกตั้ง เพราะเลือกมาแล้วก็ไม่ปฏิรูป แต่มาคอร์รัปชั่น เช่นโครงการจำนำข้าว ซึ่งการขอโทษอาจไม่ช่วยแก้เหตุ แต่ทำให้เบาลง.

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์