กกต.ยันจุดยืนเลื่อนเลือกตั้ง - มีมติแนะนายกรัฐมนตรีทำหนังสือขอพรฎ.เลือกตั้งใหม่

กกต.ยันจุดยืนเลื่อนเลือกตั้ง - มีมติแนะนายกรัฐมนตรีทำหนังสือขอพรฎ.เลือกตั้งใหม่



กกต.ยันจุดยืนเลื่อนเลือกตั้ง - มีมติแนะนายกรัฐมนตรีทำหนังสือขอพรฎ.เลือกตั้งใหม่

 วันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยภายหลังการประชุมกกต.ว่าที่ประชุมกกต.มีมติทำหนังสือเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้พิจารณาออกพระราชกฤษกีกากำหนดการเลือกตั้งใหม่ โดยให้มีการปรึกษาหารือกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสม

 โดยมีเหตุผลสำคัญ 6 ประการ คือ 

1.กรณีที่ 28 เขตเลือกตั้งใน 8 จังหวัดไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งส.สงแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเลย หากเลือกตั้งไปและประกาศผลการเลือกตั้ง ก็มีส.ส.ไม่ถึงร้อยละ 95 ที่กฎหมายกำหนดว่าจะทำให้สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ 

2.ขณะนี้มี 22 เขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.เพียงคนเดียว การเลือกตั้ง 2 ก.พ. ผู้สมัครในเขตดังกล่าวอาจได้คะแนนเสียงไม่ถึงร้อยละ 20 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น จึงอาจต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่อีกหลายครั้งซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ

 3.สถานการณ์ขัดขวางการเลือกตั้งมีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น 

 4.การหากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ถือเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่ง โดยกกต.ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยราชการต่างๆ ในการสนับสนุนกำลังคนและสถานที่ ซึ่งคาดว่าจะขาดกรรมการประจำหน่วยอีกเป็นแสนคนซึ่งจะกระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง 

5.สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินมีหนังสือมาขอให้กกต.พิจารณาทบทวนการจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ. โดยเกรงว่า หากเดินหน้าจะไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ 3,885 ล้าน

และ 6.การเลือกตั้งในสภาพการที่ 28 เขตเลือกตั้งของภาคใต้ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้นอาจทำให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.ถูกตีความว่าไม่ได้เป็นการเลือกตั้งทั่วไป และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 108 ที่กำหนดให้วันเลือกตั้งต้องเป็นวันเดียวทั่วราชอาณาจักร ซึ่งหลังการเลือกตั้งอาจมีผู้ฟ้องร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะและทำให้งบประมาณที่ใช้ในการจัดการเลือกตั้งสูญเปล่า

 “เราเห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการคนที่ 1 ตามพ.ร.ฎ.ยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. และประธาน กกต.เป็นผู้รักษาการคนที่ 2 ดังนั้นกกต.ก็ขอใช้สิทธิแสดงจุดยืนนี้ไปยังรัฐบาล ซึ่งก็ถือว่าเป็นจุดยืนอีกครั้งหนึ่งที่คิดว่ารัฐบาลน่าจะรับฟัง เพราะไม่ใช่การคาดการณ์ แต่อยู่บนพื้นฐานที่ว่ามันมีพัฒนาการของสถานการณ์ที่ทำให้เห็นชัดว่าจะมีปัญหาอะไรบ้างเกิดขึ้นหากยังเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ต่อไป เช่นตอนนี้แน่นอนแล้วว่าใน 28 เขตเลือกตั้งไม่มีผู้สมัคร เลือกตั้งไปก็เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง แต่หากรัฐบาลยังคงยืนในจุดยืนเดิมจะให้มีการเลือกตั้ง 2 ก.พ. กกต.ก็เดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป” นายสมชัยกล่าว

 เมื่อถามว่า หนังสือที่สตง.มีถึงกกต. ถือว่ามีน้ำหนักที่ทำให้กกต.มีมติในวันนี้ใช่หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า กกต.ให้น้ำหนักกับทั้ง 6 ประเด็น ไม่ได้เฉพาะประเด็นใดประเด็นหนึ่งเท่านั้น

 เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าการที่กกต.มีหนังสือไปยังรัฐบาลครั้งนี้ก็เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวกกต.ไม่ให้ถูกฟ้องว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบใช่หรือไม่ หากกรณีหลังการเลือกตั้งมีการฟ้องร้องให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ นายสมชัย กล่าวว่า เราไม่ได้คิดอย่างนั้น เราเพียงวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ แล้วเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะเลือกตั้ง 2 ก.พ. เพราะเลือกตั้งไปมันก็จะมีการร้องเรียนและฟ้องร้องต่างๆ ตามมามากมาย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมกกต.เพื่อมีมติดังกล่าวเป็นการประชุมลับของกกต. 5 คนโดยนายสมชัย ได้วีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์เข้ามาในที่ประชุม เนื่องจากเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งที่มีปัญหาในพื้นที่ภาคใต้
 
เลขากกต.เผยคุยกับทหารหารือขอความช่วยเหลือเลือกตั้ง 

 นายภุชงค์ นุตรวงศ์ เลขาธิการกกต. เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ไปประชุมหารือกับตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมและตัวแทนเหล่าทัพ ว่าทางกองทัพจะดำเนินการช่วยเหลือในการเลือกตั้งอย่างไร ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ กกต.จะขอความร่วมมือจากกองทัพให้เข้ามาช่วยดูแลการเลือกตั้ง เช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในการพูดคุยในวันนี้เป็นการหารือเบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะตนต้องกลับมาถามความเห็นของกกต.อีกครั้งว่าต้องการให้กองทัพช่วยเหลือในด้านใดบ้าง ส่วนกรณีที่ กกต. เตรียมย้ายสถานที่ในการทำงานเนื่องจากจะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มกปปส.ในวันที่ 13 ม.ค. นั้น ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมพื้นที่สำรองในเบื้องต้นแล้ว คือ สถานที่ใน จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.ชลบุรี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ส่วนสถานที่ตามจังหวัดต่างๆนั้นยังไม่ขอเปิดเผยสถานที่เนื่องจากเกรงว่าจะถูกผู้ชุมนุมตามไปขัดขวาง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่กกต.ได้ทยอยเก็บข้าวของ เอกสารและข้อมูลต่างๆ ที่มีความจำเป็นในการทำงาน ออกจากสำนักงานกกต. ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ไปยังสถานที่สำรองที่ได้เตรียมไว้ โดยศูนย์บัญชาการใหญ่จะอยู่ที่ศาลาประชาคมร่วมใจ อ.เมือง จ.ชลบุรี รวมถึงกกต.กทม.ก็จะไปใช้สถานที่ดังกล่าว 

โดยกกต.จะกระจายการทำหน้าที่ในด้านต่างๆ ไปยัง 4 สถานที่ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งบางส่วนก็จะนำงานกลับไปทำที่บ้าน 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์