มาร์ค ตีความคำพูดยิ่งลักษณ์ โยนความรับผิดชอบ

มาร์ค ตีความคำพูดยิ่งลักษณ์ โยนความรับผิดชอบ



มาร์ค ตีความคำพูดยิ่งลักษณ์ โยนความรับผิดชอบ รัฐบาลคิดแต่จะทำให้ประเทศลงเหวสะดวก

วันที่ 10 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ถึงกระแสการตอบรับของประชาชนต่อการชุมนุมของ กปปส. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 มค.นี้ว่า มีประชาชนจำนวนมากที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศไทย ความรู้สึกกับการไม่ยอมรับหลายสิ่งหลายอย่าง 

โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่น กับการใช้อำนาจในทางไม่ถูกต้องนั้นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ประชาชนเกิดปฏิกิริยา

“ผมคิดว่าภาพที่เราเห็นในขณะนี้ก็คือยังมีประชาชนจำนวนมากที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศ ผมว่าความรู้สึกตรงนี้กับการไม่ยอมรับหลายสิ่งหลายอย่างที่พบเห็นอยู่ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่น กับการใช้อำนาจในทางไม่ถูกต้องนั้นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปฏิกิริยาของผู้คนที่ทางคุณสุเทพ และ กปปส. เดินผ่านถนนหนทางต่างๆ แล้วจึงมีการโบกไม้โบกมือ ส่งกำลังใจในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งแม้กระทั่งสนับสนุนในเรื่องของเงินทอง ผมว่าอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ชัด แล้วก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าความจริง กระแส หรือพลังตรงนี้คือสิ่งที่มันควรจะสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีได้ 

แล้วก็อยากจะให้ทางรัฐบาลต้องประเมินอยู่ตลอดเวลาครับว่า ตกลงแล้วจะพยายามทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าความรู้สึกตรงนี้ของคนจำนวนมากมันมีจริงๆ แล้วก็จะใช้วิธีการอย่างที่เราเห็นอยู่เมื่อวานก็คือพยายามไปออกหมายจับ เปลี่ยนผู้รับผิดชอบกลับไปกลับมา กลับมาที่คุณเฉลิมอีกแล้ว แล้วก็ขณะเดียวกันก็ กกต. เองซึ่งเผชิญกับปัญหาอุปสรรคอะไรก็ไม่สนใจเขา สั่งเขาอย่างเดียว

การใช้อำนาจโดยมิชอบ ที่คุณอภิสิทธิ์พูดถึงนั้นหมายถึงการทำงานของ DSI ในช่วงนี้ด้วยหรือไม่

“ก็คงผสมผสานกันไปตั้งแต่ระดับนโยบาย หรือฝ่ายการเมือง เพราะว่าจำนวนมากของผู้คนที่ยังแสดงออกอยู่นี้ก็ยังยอมรับไม่ได้กับการไม่แสดงท่าทีรับผิดชอบใดๆ ของรัฐบาล ต่อกรณีกฎหมายนิรโทษกรรม ไปจนถึงพฤติกรรมการทุจริต คอร์รัปชั่น ซึ่งหลายคนรับรู้มา แม้กระทั่งที่เห็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านบางส่วนมาขึ้นเวที แล้วก็บอกชัดๆ เลยว่ามันเป็นเรื่องของการยอมรับไม่ได้กับปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่นอะไรอย่างไร ของอย่างนี้ก็มีกระจายไปในหมู่ผู้คน ในแวดวง หรือวิชาชีพต่างๆ 

พร้อมๆ กันไปนั้นการใช้อำนาจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการการชุมนุมเอง ก็กลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้คนอีกจำนวนมากไม่พอใจ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากที่รามคำแหง จากที่ดินแดง แล้วก็การออกมาตรการต่างๆ หมายจับ ยึด อายัดทรัพย์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เพิ่มกระแสความไม่พอใจให้กับผู้คน”

ท่าทีของประชาชนตอนนี้แทบทุกช่วงอายุ ทุกเพศ ทุกวัยออกมาแสดงปฏิกิริยาที่ต้องการให้มีการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทยก่อนนำไปสู่การเลือกตั้ง แต่ท่าทีรัฐบาลดูเหมือนยังไม่สนใจ และยังใช้อำนาจรัฐจัดการกับผู้ชุมนุมอยู่ คุณอภิสิทธิ์คิดว่าท่าทีของรัฐบาลที่ยังเป็นอย่างนี้ ถึงขนาดบอกว่า วันที่ 13 นี้จะเชิญทูตต่างประเทศมาสังเกตการณ์ รัฐบาลนี้กำลังคิดอะไร มองอะไร
“สังเกตการณ์อะไรนะครับ 

รู้สึกว่าตอนที่มีการเดินเมื่อวันที่ 9 วันนั้นใช่มั้ยที่เขานัดทูตไปทำเนียบ แล้วก็จริงๆ แล้วผมก็พบกับเอกอัครราชทูตบ้าง พบกับผู้แทนหรือได้มีโอกาสสนทนากับบุคคลในองค์กรระหว่างประเทศบ้าง เขาก็ถามว่า เอ๊ะ แล้วท่าทีของผู้ชุมนุมต่อต่างประเทศเป็นอย่างไร ผมก็บอกว่าในแง่ของเมืองไทยที่ขัดแย้งกันมาเป็น 10 ปี ไม่ค่อยได้มีปัญหากับชาวต่างประเทศหรอก แต่ช่วงนี้ที่ไม่ค่อยดี ผมก็บอกว่า ก็เพราะว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้นชอบออกมาพูด มาแถลงในลักษณะที่ทำให้คนเข้าใจว่าประชาคมโลก หรือชาวต่างประเทศนั้นเลือกข้างในลักษณะที่สนับสนุนรัฐบาล ผมว่าอันนี้เป็นปัญหาจริงๆ 

บางคนเขาบอกว่าเวลาเขาพูดเรื่องสนับสนุนให้การเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยนั้น เขาไม่ได้พูดเหมือนกับที่รัฐมนตรีพยายามจะให้คนเข้าใจว่าแปลว่าต้องประชาธิปไตยแบบที่รัฐบาลผลักดัน อย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นก็ยังเป็นความพยายามของทางรัฐบาลที่จะพยายามสร้างประเด็นให้เหมือนกับว่าชาวต่างประเทศมาดูว่ารัฐบาลกำลังทำทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้องหมด ว่ากันไป”

ถ้าดูท่าทีของ นส.ยิ่งลักษณ์ที่ผ่านมานั้น อย่างไรก็ไม่ลาออก และต้องมีการเลือกตั้ง แต่วานนี้ท่าทีดูมีน้ำเสียงเปลี่ยนไปเป็นว่ารัฐบาลเลื่อนเลือกตั้งคนเดียวไม่ได้ อาจต้องมีการพูดคุยหารือ ท่าทีแบบนี้กำลังสื่ออะไร

“ตอบยากนะครับเพราะว่าคุณยิ่งลักษณ์นี่ ถ้าเอาคำพูดแต่ละวัน แต่ละช่วงมาเรียบเรียงกันก็จะเห็นว่า เป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่า 1. คิดอะไรจริงๆ แต่ผมว่าสำคัญกว่าคำพูดของนายกฯ นั้น ผมว่าดูท่าที และการปฏิบัติของฝ่ายอื่นๆ ผมยังเห็นพรรคเพื่อไทยยังชักธงรบ บวกข่มขู่ กกต.อยู่ตลอดเวลา”

ตอนนี้นายณัฐวุฒิเปลี่ยนชื่อ กกต. เป็น คณะกรรมการกวนตีนการเลือกตั้งแล้ว 

“เหรอครับ นี่แหละครับ ผมก็ถึงบอกว่า ถ้านายกฯ มีความจริงใจ ต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ก่อน เพราะว่าการที่นายกฯ พูดทำนองว่า ทำอะไรฝ่ายเดียวไม่ได้นั้น ยังไม่ได้บอกว่ารัฐบาลเองนั่นแหละ มองเห็นปัญหาหรือเปล่า แล้วมีความรู้สึกอย่างไร เป็นการพูดซึ่งตีความก็ได้ว่า ความรับผิดชอบอยู่ที่คนอื่น แต่ข้อเท็จจริงก็คือ วันที่ กกต. ชวนผู้แทนของพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทยไปพบกัน ผู้แทนพรรคเพื่อไทยก็ชัดเจนว่าต้องการอะไร แล้วก็พูดในเชิงกึ่งๆ ข่มขู่ กกต. นั่นแหละ 

เพราะฉะนั้นตราบเท่าที่เรื่องนี้ยังไม่เปลี่ยน อย่าไปมองเลยครับว่า นายกฯ กำลังมีท่าทีเปลี่ยนไปหรือไม่อย่างไร ดูจากตรงนี้ดีกว่า ถ้านายกฯ จริงใจ วันนี้ต้องเปลี่ยนแล้วละครับ เหมือนกับเรื่องที่พรรคเพื่อไทยพยายามที่จะลดความน่าเชื่อถือ แล้วก็ลดทอนอำนาจขององค์กรอิสระ และศาล นายกฯ จะพูดอะไรก็ตาม ถ้ากระบวนการของพรรคทั้งหมดของเขายังเคลื่อนไปอย่างนี้มันก็ชัดนะครับ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

หมายความว่าถ้ารัฐบาลจริงใจ ก็น่าจะส่งสัญญาณมาที่ กกต. ว่า รัฐบาลอยากให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป
“ก็บอกมาสิครับว่า ตกลงรัฐบาลมองเห็นว่าการเลือกตั้งขณะนี้มันเป็นไปตามเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตยที่เป็นการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม หาคำตอบให้กับประเทศได้หรือเปล่า”

ตอนนี้ชัดเจนมากจากที่ ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ยกคำร้องของผู้สมัครคนหนึ่ง โดยจะทำให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กพ. นี้ไม่ครบตามจำนวนที่จะได้ผู้แทนฯ และเปิดสภาได้ ขณะที่ สตง. ก็บอกว่าเงินที่ใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ดูจะไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมา คุณอภิสิทธิ์มองตรงนี้อย่างไร

“ผมมองชัดมานานแล้ว ที่เรามองอยู่ก็คือว่า รัฐบาลมองอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ก็บอกว่า คือถ้าจะเดินกันต่อก็เดินกันไป แต่ผมก็ยังมองเห็นว่าปลายทางขณะนี้การเลือกตั้งมีปัญหา เพราะฉะนั้นถามว่าทำไมเราไม่ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการเดินไปแบบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นเกี่ยวกับสภาวะของความเป็นจริงของบ้านเมืองเท่านั้นเองครับ”

ถ้าปล่อยให้เดินไปสู่จุดนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะเกิดอะไรข้างหน้า จะไม่ยิ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์หรือ

“ก็เป็นแน่นอนนะครับ อย่างที่ผมเคยบอกครับว่าบางทีมันเห็นชัดอยู่แล้วว่า ทางเดินมันกำลังเดินลงเหว แล้วรัฐบาลก็คิดแต่ว่าทำอย่างไรให้มันสะดวกขึ้น”

ประชาชนควรเดินตามรัฐบาล หรือดึงกลับ
“ผมว่าประชาชนแต่ละคน ขณะนี้ก็มีแนวคิดของตนเองอยู่ว่าจะเดินอย่างไร แล้วก็ทั้งหมดที่พูดนี้ก็ต้องย้ำอีกครั้งนะครับ เพราะว่ากำลังมีความพยายามสร้างกระแสว่า ถ้าใครไม่เอา 2 กุมภา แปลว่าไม่เอาการเลือกตั้ง ไม่เอาประชาธิปไตย ผมว่ามันไม่ใช่ ผมว่าคนจำนวนมากเขาไม่ได้บอกว่าไม่อยากให้คนเลือกตั้ง แต่เขาบอกการเลือกตั้งที่กำลังจะทำกันอยู่นี้ กับสถานการณ์ปัจจุบันนั้นมันไม่ใช่ เพราะตอนนี้ก็มีความพยายามครับ คือเขามีทั้งคนที่เขาอยากจะแสดงตนว่า เขาก็อยากจะให้คนฟังเสียงของเขา ที่เขามีสิทธิ์มีเสียงเลือกตั้ง อันนี้ก็เข้าใจ แต่ก็มีอีกกลุ่มหนึ่งก็ไม่ใช่ อย่างเช่น แปลงสีเสื้อตัวเองมา อะไรอย่างนี้ ก็ทราบการเคลื่อนไหวอยู่ครับ

หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาตรา 190 ว่าขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ คนในพรรคเพื่อไทยก็ออกมาแสดงท่าทีชัดเจนอีกครั้งว่า เสนอยุบศาลรัฐธรรมนูญบ้าง เสนอให้ยุบรวมศาลบ้าง หรือแม้กระทั่งจะดำเนินคดีกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 

“ก็นี่ไงครับ นี่คือสิ่งที่ทำไมประเด็นมันถึงไม่จบ ที่เป็นการยืนยันว่าในข้อเท็จจริงก็คือ รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่เคยถอย และยังไม่เคยยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองกระทำผิดลงไป แล้วก็เป็นการกระทำผิดนั้นไม่ใช่เพื่ออะไร เพื่อประโยชน์ให้กับตนเอง หรือเพิ่มอำนาจให้กับตนเอง ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ ไม่มีการยอมรับอะไรทั้งสิ้น แต่กลับกลายเป็นว่าก็เดินต่อนั่นแหละ เพียงแต่ว่า ถ้าคนเขาเรียกร้องปฏิรูป ฉันก็จะทำเป็นปฏิรูปด้วย 

เมื่อวานนี้ผมบังเอิญได้ฟังตอนช่อง 3 เห็นว่า อ.จักร กับคุณสมบัติ ถกเถียงกันอยู่ ก็มีประเด็นหนึ่งที่เขาตั้งขึ้นมาว่า ถ้าบอกว่าฝ่ายหนึ่งอยากปฏิรูป อีกฝ่ายนึงไม่ปฏิรูป ก็ไปเลือกตั้งกันสิ ผมก็บอกว่าจริงๆ แล้วถ้าทุกคนว่ากันตามจุดยืนเลย ก็เอาสิครับ ก็แปลว่า เลือกตั้งนี้พรรคเพื่อไทยต้องประกาศสิ ว่าฉันนี้ไม่ได้สนับสนุนปฏิรูป ฉันนี้ไม่เคารพศาล แต่ผมเห็นเวลาหาเสียงก็ พรรคเพื่อไทยก็ปฏิรูปประเทศไทยด้วยนี่

เหมือนคราวที่แล้ว ผมเคยถามบอก ตกลงแล้วพรรคเพื่อไทยจะเข้ามาแก้กฎหมายนิรโทษกรรม หรือจะมาทำอะไร ไม่มีๆ นโยบาย ก็อย่างนี้มันถึงทำให้การเลือกตั้งมันถูกบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงไง ถ้าเกิดพรรคเพื่อไทยบอกเลยว่า คอร์รัปชั่นไม่ใช่ปัญหา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ – ทักษิณ นี่ไม่มีคอร์รัปชั่นอย่างที่ หรือมีน้อยมากอย่างที่คุณชัชชาติ คุณเขียนมาเลยสิครับ อย่ามาบอกว่าฉันก็จะปฏิรูป เพราะว่าปัญหาการคอร์รัปชั่นมันเป็นปัญหาที่ต้องมาแก้ไข ถ้าเกิดทุกคนตรงไปตรงมาอย่างนี้ก็เอาสิครับ จะเลือกตั้งกันอย่างนี้ แต่ปัญหาที่ผ่านมาก็คือ มันมีลักษณะของการหลอกลวงกันอยู่”

เรื่องการบริหารจัดการน้ำ วานนี้ศาลปกครองพิจารณาแล้ว จะมีคำพิพากษาออกมาเร็วๆ นี้ คุณอภิสิทธิ์มองเรื่องนี้อย่างไร
“เท่าที่ฟังจากการสรุปของเจ้าของสำนวน ผมก็มองว่าก็อยู่ในกรอบที่น่าจะตรงกับความเข้าใจของหลายๆ คน รวมทั้งตัวผมด้วย ก็คือว่า อำนาจของฝ่ายบริหารในการที่เขาจะกำหนดแผน ในการที่เขาจะอะไรนั้นมีอยู่ แต่ว่าในการจะนำแผนไปสู่การปฏิบัติ ไปสู่การจัดทำเป็นโครงการ ในการที่จะไปปฏิบัติจริงในพื้นที่ต่างๆ เมื่อกระทบประชาชนก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย หลักก็คงเป็นอย่างนี้ครับ”

แต่วานนี้คุณอภิสิทธิ์บอกว่า ตอนนี้เลยกำหนดระยะเวลาที่จะกู้เงินแล้ว หากจะทำก็ต้องมาเริ่มต้นตั้งงบประมาณใหม่

“ก็คงต้องแยกกันแล้วครับตอนนี้ ในแง่ของตัวโครงการนั้น รัฐบาลจะพิจารณาตัวแผน แล้วก็จะนำไปสู่การทำโครงการก็ยังทำได้ แต่เรื่องการเงินนั้นผมก็ยืนยันว่าตอนนี้ต้องมาพูดกันใหม่หมด เพราะว่าเงินกู้ 3 แสน 5 หมื่นล้านนั้นมันหมดอายุไปแล้ว”

ดังนั้นจะต้องออก พรก. ใหม่ ถ้าอยากทำโครงการนี้ต่อไป
“ผมไม่แน่ใจว่าจะออกเป็น พรก. ได้มั้ยนะครับ เพราะว่าคราวที่แล้วตอนที่ออก พรก. มีคนไปโต้แย้งไปบอกกับศาลเขาว่า ที่ต้องออกเป็นพรก. เพราะว่าจะทำให้ทันหน้าฝน หน้าฝนปี 55 นี่มันจะทันหน้าฝน 57 มั้ย”

คุณอภิสิทธิ์จะแนะนำอย่างไรสำหรับรัฐบาลชุดหน้า

“ผมก็แนะนำง่ายๆ เลยครับว่า ถ้าแผนมันเป็นแผนที่ดีจริง โครงการต่างๆ ก็ดำเนินการตามกระบวนการของงบประมาณ และขั้นตอนของกฎหมายของมัน มันจะได้เดินหน้าเสียทีครับ นี่เสียเวลามา 2 ปีแล้วไม่ทำอะไรกัน”

เรื่อง 2 ล้านล้าน ก็มีปัญหา กู้ 3 แสน 5 หมื่นล้าน ก็เป็นปัญหา แก้ที่มา สว. ก็มีปัญหา แก้มาตรา 190 ออกกฎหมายล้างผิด เสียบบัตรแทนกัน ปิดปากเสียงข้างน้อย ทำเอกสารปลอม ท้ายที่สุดถูกศาลวินิจฉัยออกมาก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

“นี่ไงครับ คือประเด็นที่ผมคิดว่ามันเป็นปัญหาว่า ทำไมความขัดแย้งในสังคมมันยังดำรงอยู่ แล้วมันก็จะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่กระบวนการความรับผิดชอบอะไรต่างๆ มันไม่เกิดขึ้น”

เป็น 1 ในเรื่องการปฏิรูปด้วยหรือไม่ ในเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมือง 

“คือจะไปใช้คำว่า ปฏิรูปนั้น ก็ลำบากใจนิดนึงนะครับ เพราะว่าเวลาเราพยายามปฏิรูปอะไรนั้น ส่วนใหญ่ก็มุ่งไปที่การแก้โครงสร้าง การแก้กฎหมาย การวางระบบองค์กรต่างๆ แต่บางเรื่อง มันพูดตามจริงมันอยู่ที่คนนะครับ คือบางทีระบบเป็นอย่างนี้ อะไรเป็นอย่างนี้ คนไม่เป็นไปด้วย ไม่รู้จะทำกันยังไงครับ”

“มันต้องทบทวนแนววิธีคิด แล้วก็การปฏิบัติของฝ่ายการเมืองครับ”

คุณอภิสิทธิ์มองอย่างไรที่ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ถูก ปปช. ชี้มูลเรื่องทุจริต โครงการลำใยอบแห้ง ปี 47 

“ผมไม่ทราบรายละเอียดความเกี่ยวข้องของเจ้าตัว กับเรื่อง นะครับ แต่ว่าปัญหาทุจริตลำใย ก็ทราบกันดีอยู่แล้ว แล้วก็เสียหายมาก อย่างที่เคย ตอนแรกที่พูดกันนั้นก็คือว่า เป็นโครงการที่ในที่สุด เราปล่อยให้เอาเงินภาษีอากรละลายไปกับทุกขั้นตอนเลย แล้วก็เกิดการทุจริตก็คือว่า เอาตั้งแต่เรื่องปุ๋ย จนกระทั่งจะเอาลำใยกลับมาทำเป็นปุ๋ย แล้วก็สุดท้ายเลวร้ายกว่านั้นก็คือว่า ในช่วงที่ผมอยู่ ลำใยที่เก็บมาจากโครงการนี้บางส่วนเป็นพิษจนเอามาทำปุ๋ยไม่ได้อีก ก็เป็นปัญหา แล้วก็สูญเสียกันตลอดทาง”

คนที่โดน ปปช. ชี้มูล เป็นข้าราชการทั้งหมด แต่นักการเมืองอย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ปปช. ก็ยอมรับว่าไม่มีหลักฐานบ่งชี้ไปได้
“อันนี้ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง พยานหลักฐานในคดี อันนี้ผู้ที่เป็นข้าราชการ ผมก็ไม่ทราบนะครับว่า เขาให้การอย่างไร เขาทำเองจริงหรือเปล่า หรือมันมีนักการเมืองเกี่ยวข้องก็ต้องอยู่ที่ทางข้าราชการเหล่านี้ครับที่จะต้องพูดความจริงออกมา”

เรื่องธกส. รัฐบาลก็ยังมีความพยายามบังคับเอาเงินจาก ธกส. ไปจ่ายจำนำข้าวชาวนาอยู่

“สิ่งแรก รัฐบาลมีความรับผิดชอบจริงๆ ที่ต้องเอาเงินไปถึงชาวนา เอาข้าวเขามากี่เดือนแล้ว มันไม่ถูกต้องนะ ทีนี้คำถามก็คือว่า แล้วรัฐบาลบริหารอย่างไร ทำให้ตัวเองไม่สามารถจ่ายสตางค์ได้ ที่จริงหลักที่ถูกต้องที่สุดก็คือรัฐบาลก็ต้องขายข้าว แล้วเอาเงินข้าวมาให้ชาวนาโดยเร็วที่สุด”

อย่างนี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่

“ตอนนี้เอาเป็นว่า เอารัดเอาเปรียบอยู่ ส่วนเข้าข่ายฉ้อโกงหรือยังนี้ ถ้าเกิดไม่จ่ายเขา คงเข้าข่ายแน่นอนนะครับ”

“แล้วก็ถ้าเจตนาไม่จ่าย ก็ฉ้อโกงแน่นอนนะครับ”

การแก้ปัญหาจำนำข้าวตอนนี้ ดูเหมือนมีทางเดียวคือ ต้องเร่งขายข้าวไปให้ได้ เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ จะกู้เงินไม่ได้ 

“คืออย่างนี้ครับ ทำอะไรก็ได้ให้มันถูกต้องตามกฎหมาย ในระบบมันก็มีองค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้องอยู่เยอะแยะในโครงการนี้ ไปทำเสียเถอะครับ อย่าให้มันเข้าข่ายฉ้อโกงอย่างที่ว่าเลย”

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์