นายกฯ พร้อมให้กองทัพเป็นตัวกลางเจรจา ‘เทือก’ ย้ำไม่มีอำนาจใดเหนือเสียงส่วนใหญ่ปชช.

นายกฯ พร้อมให้กองทัพเป็นตัวกลางเจรจา ‘เทือก’ ย้ำไม่มีอำนาจใดเหนือเสียงส่วนใหญ่ปชช.

วันที่ 10 ม.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
 
เดินทางเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเช้าวันนี้ เพื่อร่วมประชุม ศอ.รส. เตรียมรับมือการชัตดาวน์ กทม. 13 ม.ค.นี้ โดยจะประเมินสถานการณ์วันต่อวัน พร้อมเตรียมชี้แจงสื่อทุกประเด็นหลังเสร็จการประชุม

 เวลา 10.35 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดห้อง “พรหมนอก” ชั้น 2 อาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สื่อมวลชนได้ซักถามในทุกประเด็น
 
โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ปฏิบัติหน้าที่รมว.เทคโนโยลีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมในวงสัมภาษณ์ด้วย

 น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงย้ำการทำหน้าที่ในฐานะรัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดได้

และจะเดินหน้าตั้งเวทีปฏิรูปประเทศที่เป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ และเป็นเวทีกลางให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมเสนอแนวทางให้เกิดการปฏิรูปโดยเร็วที่สุด แต่การปฏิรูปไม่สามารถทำได้ก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากติดเรื่องข้อกฎหมาย ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ได้พยายามทำทุกแนวทางให้เกิดการพูดคุยกัน เพื่อให้การตั้งสภาปฏิรูปเดินหน้าได้ทันทีหลังการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้น

 ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มุ่งมั่นที่เลือกตั้งโดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน แต่หากไม่มีการเลือกตั้งเพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ การบริหารประเทศก็จะไม่สามารถเดินหน้าได้ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องข้อกฎหมาย ทั้งเรื่องของการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการติดต่อกับนานาประเทศ

 สำหรับข้อเสนอให้ออกเป็นพระราชกำหนดนั้น

คณะกรรมการกฤษฎีกาและฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบตามข้อกฎหมายและให้ความเห็นว่า อาจถูกร้องต่อศาลให้ตีความเรื่องข้อกฎหมายเพราะต้องผ่านขั้นตอนของสภา เเต่ขณะนี้รัฐบาลได้ยุบสภา นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าอะไรที่ทำได้เพื่อความสงบพร้อมเดินหน้า แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่เพราะไม่มีใครมีอำนาจเท่าประชาชน

 ส่วนกรณีที่ข้าราชการระดับสูงออกมาคัดค้านแนวทางของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้าราชการมีหน้าที่รับใช้ประชาชน ซึ่งเป็นไปตามกลไกและระเบียบราชการกำหนดไว้ใช้เจน และขอให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ

 ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี เลี่ยงที่จะตอบคำถามถึงโอกาสการเลื่อนการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์
 
แต่เห็นว่า กกต.จะต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายรวมถึงประสานรัฐบาลหากเกิดความไม่สะดวกในการจัดการเลือกตั้ง รวมถึงขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพื่อปลดล็อกปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และย้ำว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันรักษากฎหมาย รักษากติกาตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ให้เกิดความรุนแรง เชื่อว่ากองทัพจะพิจารณาเพราะการปฏิวัติไม่เป็นผลดี และวันที่ 13 มกราคมนี้ ก็จะติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง

 ทั้งนี้ยินดีให้กองทัพเป็นตัวกลางประสานคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการ กปปส. พร้อมปฏิเสธข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตกลงกับ กปปส.เพื่อเคลียร์ปัญหา ยืนยันไม่มีใครมีอำนาจเหนือเสียงประชาชนส่วนใหญ่

 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ยอมรับว่า เป็นกังวลเรื่องมือที่สามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงในวันที่ 13 มกราคมนี้ แต่ก็มีแผนรองรับและดูแลป้องกันเหตุเต็มที่ ขอให้นำเหตุการณ์วันที่ 26 ธันวาคม 2556 มาเป็นบทเรียนป้องกันไม่ให้มีเหตุรุนแรง ยืนยันเจ้าหน้าที่จะไม่พกอาวุธในการดูแลผู้ชุมนุม



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์