สุวัจน์ลั่นขออยู่ข้างนอกช่วยปรองดอง

สุวัจน์ลั่นขออยู่ข้างนอกช่วยปรองดอง


ชาติพัฒนา'เปิดตัวผู้สมัครส.ส.โคราช 15 เขต คาดได้ที่นั่งมากกว่าเดิม ด้าน 'สุวัจน์' ขออยู่ข้างนอกช่วยปรองดอง-ปฏิรูป วอนทุกฝ่ายยึดกติกา ส่วนเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่

                      29 ธ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคชาติพัฒนาว่า นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรค และนายประเสริฐ บุญชัยสุข เลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.จ.นครราชสีมา ทั้ง 15 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นพ.วรรณรัตน์ เขต 2 นายวัชรพล โตมรศักดิ์ เขต 3 นายประเสริฐ บุญชัยสุข เขต 4 นางสุนารี สอนนา หรือ "สุนารี ราชสีมา" เขต 5 นางสุเนตร ศิชปชัยเดช เขต 6 นายพุทธิพงษ์ เข็มพุดซา เขต 7 นายราเมศ เรืองธนานุรักษ์ เขต 8 นายนิกร โสมกลาง เขต 9 นายชัยยศ วรรตนิกุล เขต 10 นายเกริกฤทธิ์ ลันไธสง เขต 11 นายประทีป กรีฑาเวช เขต 12 นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม เขต 13 นางพรทิพย์ สังข์เสน่ห์ เขต 14 นายอุทัย มิ่งขวัญ และเขต 15 นายสมศักดิ์ ชาญสูงเนิน
 
                      โดย นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ตนขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารพรรคและผู้บริหารพรรคที่ได้พิจารณาคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.อย่างรอบคอบ ซึ่งพรรคมั่นใจว่า จะได้จำนวน ส.ส.ไม่น้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

 เพราะพรรคชาติพัฒนามีผลงานมาตลอด ตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตหัวหน้าพรรค และนายสุวัฒน์ ที่สร้างความเจริญเติบโตให้แก่พรรค และจ.นครราชสีมา เป็นอย่างมาก ส่วนการคัดเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง พรรคคัดเลือกจากผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ให้มีความหลากหลายในทุกสาขาอาชีพ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการทำงานด้านนิติบัญญัติ

 ทั้งนี้ ในส่วนของนโยบายพรรคจะมีทุกด้าน รวมถึงด้านกีฬาด้วย ซึ่งจะมีการแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการภายหลัง
 
                      ด้าน นายประเสริฐ กล่าวว่า ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ผู้สมัครส.ส.ของพรรคใน จ.นครราชสีมา ทั้ง 15 เขต จะเดินทางไปสมัครเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งยังจุดที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้ ซึ่งแต่ละเขตจะมีจุดรับสมัคร 1 แห่ง ส่วนมากจะใช้หอประชุมอำเภอในเขตนั้น ทั้งนี้ พรรคไม่กังวลเรื่องการขัดขวางการรับสมัคร เพราะผู้สมัครแต่ละเขตมีภูมิลำเนาในเขตเลือกตั้งนั้นๆ อยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทาง และเชื่อว่าพื้นที่ จ.นครราชสีมา จะไม่มีเหตุรุนแรง และในส่วนของผู้สมัครของพรรคในเขตกทม.ทั้ง 33 เขต จะเดินทางไปสมัครในวันที่ 31 ธ.ค.เวลา 09.09 น.
 
                      ด้านนายสุวัจน์ กล่าวว่า ขอชี้แจงว่า การที่ตนไม่ลงสมัครเลือกตั้งนั้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศมีเรื่องที่สำคัญคือ การเลือกตั้งและการปฏิรูปประเทศ โดยตนคิดว่า พรรคการเมืองทุกพรรคมีหน้าที่ต้องไปเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นทางออกที่สำคัญของประเทศ และเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย ความเป็นสากล และในด้านเศรษฐกิจประชาธิปไตยเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ถ้าเราสามารถทำให้ทุกพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง ด้วยความสุจริตเป็นธรรม และยอมรับผลการเลือกตั้งก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ และขณะนี้ ดูเหมือนทุกฝ่ายเรียกร้องตรงกันว่า นอกจากการเลือกตั้งแล้วการปฏิรูปประเทศก็เป็นอีกหน้าที่ของพรรคการเมือง เพราะตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 จนถึงวันนี้ความขัดแย้งยังไม่จบ คนไทยไม่มีความสุข บ้านเมืองบอบช้ำ ดังนั้น การปฏิรูปจะช่วยตั้งหลักให้ประเทศได้เดินหน้าต่อไป
 
                      นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า ตนเล่นการเมืองมาหลายสมัย ช่วงที่พ้นจากบ้านเลขที่ 111 ก็ได้รับการทาบทามให้ร่วมงานกับรัฐบาล แต่ตนขออยู่ข้างนอกช่วยในเรื่องความปรองดอง โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำแหน่ง หากช่วยอะไรได้ก็ช่วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนมากกว่า และพร้อมที่จะมีส่วนในการช่วยประสานทุกฝ่ายแก้วิกฤติ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าตนเลิกเล่นการเมือง เพียงแต่ไม่ได้ลงเลือกตั้งในครั้งนี้ ในส่วนของพรรคชาติพัฒนา หากเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศ ตนก็ยินดีทำในส่วนนี้ เพราะจาก 25 ปีที่เล่นการเมืองมาเห็นว่า ความขัดแย้งเป็นปัญหาใหญ่ทางการเมือง ซึ่งตนชื่อว่าในส่วนลึกนักการเมืองทุกคนหวังดีต่อประเทศ ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนามีบุคคลิกในเรื่องความประณีประนอมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ทุกพรรคการเมือง เพิ่มนโยบายเรื่องการปฏิรูปประเทศให้มาก นอกจากนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง
 
                      “วันนี้ขอให้ทุกฝ่ายรักษากติกา และยึดกฎหมาย เชื่อว่า เรายังมีทางออกในกระบวนการประชาธิปไตยอยู่ ที่สำคัญคือ การเจรจา การเลือกตั้ง และการปฏิรูป ถ้าการเลือกตั้งเรียบร้อยจะใช้เวลา 1 ปี ปฏิรูปประเทศและคืนอำนาจให้ประชาชน ส่วนการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 จะมีขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ผมเปรียบเทียบกกต.เหมือนกรรมการเทนนิส พรรคการเมืองเป็นผู้เล่นที่ต้องลงเล่นตามกติกา ส่วนกรรมการจะใช้ดุลยพินิจว่า ถ้าฝนตกจะตัดสินใจแข่งขันต่อหรือไม่ หากตกมากก็ให้หยุดการแข่งขันก่อนแล้วแข่งใหม่ วันนี้หลักของกีฬาช่วยแก้ปัญหาของประเทศได้ เพราะนักกีฬายึดหลักรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ถ้าทุกฝ่ายยึดหลักดังกล่าว ประเทศก็จะเป็นผู้ชนะ” นายสุวัจน์ กล่าว
 
                      ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมจะเป็นคนกลางในการประสานทุกฝ่ายหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า กกต.จะเป็นคนกลางในการเจรจาทุกฝ่าย ซึ่งถือว่าเหมาะสมแล้ว ส่วนตัวถ้าจะให้ประสานนั้น ก็ยินดี ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ประสานให้มีการพูดคุยตลอด และเชื่อว่าที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันระหว่างพรรคการเมืองอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ปรากฏเป็นข่าว  เมื่อถามถึงบทบาทของกองทัพต่อสถานการณ์ขณะนี้ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทัพวางตัวเหมาะสม ที่จะเป็นกลาง ถ้าทุกฝ่ายยึดมั่นแนวทางสันติวิธี เชื่อว่าปัญหาจะไม่เลวร้ายกว่าปัจจุบัน ซึ่งกองทัพมีประสบการณ์มากในการดูแลความขัดแย้งของผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ จึงเชื่อว่ากองทัพจะหาทางออกต่อปัญหาของบ้านเมืองได้ เมื่อสถานการณ์เหมาะสม

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์