แอ้ด แจงสื่อยุ่นจำเป็นยึดอำนาจ

นายกฯ ประกาศชัดกลางเวทีสื่อเมืองปลาดิบ


ยึดอำนาจ ทักษิณ เป็นการแทรกแซงอย่างสันติ เพื่อยุติบทบาทการรวบอำนาจเบ็ดเสร็จในทุกเรื่อง มั่นใจไทยจะกลับมาผงาดอีกครั้งหลังการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรมปลายปีนี้ ขณะที่ คมช.ยัน ป๋าเปรม ไม่ได้เป็นคนบงการยึดอำนาจ แม้ว เผยที่ต้องทำเพราะไม่มีวิธีอื่นที่จะหยุดวงจรอุบาทว์ มั่นใจใกล้ถึงจุดจบแล้ว ย้ำ แอ้ด-บัง ยังรักกันดี ชี้เปลี่ยนตัวนายกฯ ในเวลาอันสั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนประกาศ คปค. เลิกแน่แต่รอหน่อย

แจงทหารแทรกแซงอย่างสันติ


เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า ได้ร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่ทางผู้บริหารสมาคมสื่อมวลชนแห่งชาติญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ซึ่งสมาคม ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น

โดยนายกฯได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "ญี่ปุ่นและไทย การเฉลิมฉลองยุคใหม่แห่งความเป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นและยั่งยืน" ตอนหนึ่งว่า


ก่อนที่จะมีการแทรกแซงทางทหารอย่างสงบเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น นักวิเคราะห์การเมืองส่วนใหญ่คาดว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการพัฒนาในด้านประชาธิปไตยมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ และภายหลังการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ประเทศไทยจะผงาดขึ้นมามีความก้าวหน้าในระบอบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น

นายกฯกล่าวต่อว่า


การพัฒนาทางการเมืองสมัยใหม่ของไทยมี 2 เหตุการณ์สำคัญ ได้แก่ เหตุการณ์เดือน ต.ค. 2516 และ พ.ค. 2535 ทั้งสองเหตุการณ์ทำให้ประเทศไทยสะท้อนความเป็นประชาธิปไตยที่แข็งแกร่งขึ้น นำไปสู่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ซึ่งเป็นฉบับประชาชนและมีความก้าวหน้าที่สุด

การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนั้น


เกิดขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ที่สร้างความบอบช้ำแก่ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของไทยนั่นก็คือ วิกฤติการณ์ทางการเงินในปี 40 ทำให้ไทยต้องสูญเสียเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทั้งสองรวมด้วยกันเป็นฉากเบื้องหลังแห่งการพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจเป็นเวลา 9 ปี ซึ่งมีบทสรุปในการแทรกแซงทางทหารอย่างสันติเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

ต้องสกัดการรวบอำนาจ


"ต้นเหตุที่เกิดการแทรกแซงทางทหารคือ การรวบอำนาจทางการเมืองและทางการเงินของคุณทักษิณในช่วง 5 ปีขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้อกล่าวหาการใช้อำนาจในทางที่ผิด การคอร์รัปชันอย่าง กว้างขวาง การจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชน และประวัติด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นการหายนะ" นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า


ในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ไทยไม่มีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ การเลือกตั้งทั่วไปถูกต่อต้านโดยฝ่ายค้าน และท้ายที่สุดศาลได้ตัดสินให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ จากนั้นมีการเดินขบวนประท้วงเพื่อต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใน กทม.เกือบทุกวัน ระบบการตรวจสอบและคานความสมดุลถูกบั่นทอน และดูเหมือนว่าเครื่องมือต่าง ๆ ภายใต้รัฐธรรมนูญเพื่อผ่าทางตันทางการเมืองได้ใช้ไปหมดแล้ว

ดังนั้น ทหารจึงได้ประกาศช่วง "พักเวลา"


โดยเป็นระยะเวลาที่จำกัดและมีจุดมุ่งหมายที่แน่ชัด และภายในเวลา 30 วัน ประเทศไทยก็มีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มีรัฐบาลชั่วคราวซึ่งมีแนวนโยบายที่ชัดเจน ตนเชื่อว่าการแทรกแซงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน จะเห็นได้ว่าการกระทำดังกล่าวได้รับการยอมรับจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง

คุยไม่แน่จริงไม่อยู่ตรงนี้


พล.อ.สุรยุทธ์ยังกล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้กำหนดกรอบเวลาที่ยากลำบากในการฟื้นฟูประชาธิปไตย ขณะนี้การยกร่างเกือบเสร็จแล้ว และจะนำเสนอให้สาธารณชนลงประชามติในเดือน ก.ย. รัฐบาลชั่วคราวและ คมช.ต่างยึดมั่นในการที่จะจัดการเลือกตั้งในเดือน ธ.ค.นี้ โดยอาจเป็นวันที่ 16 หรือ 23 ธ.ค.

นอกจากนี้รัฐบาลชั่วคราวได้กำหนดให้การปฏิรูปเป็นวาระแห่งชาติ


ประกอบไปด้วยแนวหลัก 4 ประการ คือ

การปฏิรูปทางการ เมืองอย่างสัมฤทธิผล
ฟื้นฟูความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในชาติ
ลดช่องว่างทางรายได้ และ
สร้างความแข็งแกร่งแก่หลักนิติธรรม

ทั้งหมดได้ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อช่วยให้ประเทศไทยมีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพประสิทธิผลเท่าเทียมกัน เป็นสังคมที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี



การที่คุณทักษิณได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารไทม์


บอกให้โลกรู้ว่าการคอร์รัปชันจะไม่มีวันหายไปจากประเทศไทย เพราะมันฝังอยู่ในระบบแล้วนั้น หากคำพูดนี้เป็นจริงผมคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่เวลานี้ หากปราศจากหลักนิติธรรมแล้ว สิ่งอื่นใดก็ไม่มีความหมาย หากไม่มีหลักนิติธรรมก็จะไม่มีความยุติธรรม ไม่มีความเท่าเทียมกัน และแน่นอนที่สุดจะไม่มีประชาธิปไตย"

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวและว่า


รัฐบาลชั่วคราวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าล่าช้าในการสอบสวนข้อกล่าวหาการคอร์รัปชันและการใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิดของรัฐบาลที่แล้ว มีบางคนได้เรียกร้องให้มีการใช้อำนาจบริหารเพื่อลัดกระบวนการยุติธรรม แต่หากเรานำแนวทางดังกล่าวมาใช้จะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่หลักนิติธรรมได้อย่างไร


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์