นพดลจวกปชป.บอยคอตเลือกตั้ง!

นพดลจวกปชป.บอยคอตเลือกตั้ง!

'นพดล' ร่อนแถลงการณ์ จวก 'ปชป.' บอยคอตเลือกตั้ง ยกข้ออ้างปฏิรูปการเมืองฟังไม่ขึ้น เหน็บกลัวแพ้เลือกตั้งมากกว่า

 22 ธ.ค. 56  นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งอีเมลแถลงต่อกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ มีมติไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 ว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจบอยคอตการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. 57 นั้น ไม่อยู่เหนือความคาดหมายของตน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เคยบอยคอตการเลือกตั้งในปี 2548 และมีความขัดแย้งทางการเมืองตามมา ก่อให้เกิดการรัฐประหารในปี 2549 โดยการบอยคอตครั้งนั้นอ้างว่าเพื่อปฏิรูปการเมือง แต่ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยดำเนินการปฏิรูปการเมืองใดๆ เลย และเมื่อเป็นรัฐบาลในปี 2551-2554 เกือบ 3 ปี สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำอย่างเดียว คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 เรื่องที่มาของ ส.ส. โดยสังคมตั้งคำถามในขณะนั้นว่า กติกาใหม่จะทำให้นักการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้เปรียบในการเลือกตั้งใช่หรือไม่ ดังนั้นการอ้างเหตุผลว่าต้องบอยคอตการเลือกตั้งในวันนี้ เพื่อปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง จึงฟังไม่ขึ้น แต่มีคนตั้งคำถามว่าเหตุผลที่แท้จริง คือ พรรคประชาธิปัตย์กลัวว่าจะไม่ชนะเลือกตั้งใช่หรือไม่


นายนพดล กล่าวด้วยว่า สำหรับข้ออ้างในการบอยคอตครั้งนี้ที่ว่าต้องปฏิรูปให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งนั้น ฟังไม่ขึ้น

เพราะประเทศไทยต้องได้มีรัฐบาลเพื่อพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง และกระบวนการปฏิรูปเป็นกระบวนการที่ต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลานานเช่นเดียวกันกับการพัฒนาประเทศ ประชาชนรู้ทันว่าข้อเรียกร้องของ กปปส.ให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นเพียงข้ออ้างให้มีการมอบอำนาจให้นายสุเทพ ตั้งสภาประชาชนทั้งๆ ที่ไม่มีกฎหมายใดๆ รองรับ ส่วนเรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งออกไปนั้น รัฐบาลไม่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย และไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายใด ให้อำนาจรัฐบาลในการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปรากฏชัดเจนแล้วว่า การเรียกร้องทางการเมืองที่ใช้ความรุนแรง และการกระทำผิดกฎหมายอาญา ได้ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ และทำให้เงินตราต่างประเทศไหลออกจากประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง และทำให้นักลงทุนไม่มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และทำลายโอกาสของเพื่อนร่วมชาติ ที่จะลืมตาอ้าปากได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์