เด็จพี่ ซัด สุเทพ เอาปฎิรูปประเทศบังหน้า

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค แถลงถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศยกระดับการชุมนุม
 
โดยนัดเดินขบวนไปตามเส้นทางต่าง ๆ ในวันที่ 19 - 20 ธ.ค. และนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 22 ธ.ค. เพื่อขัดขวางการรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ว่า การดำเนินการของนายสุเทพ เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยอ้างการปฏิรูปการเมืองบังหน้า แต่แท้จริงแล้วเป็นการทำลายบ้านเมืองอย่างเห็นได้ชัด โดยพิจารณาได้จาก 6 ข้อดังนี้คือ

1. การชุมนุมที่อ้างการคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ที่จริงแล้วต้องการล้มล้างรัฐบาลแต่แรก เพราะเมื่อเงื่อนไขดังกล่าวยุติ กลับสร้างเงื่อนไขเพิ่มเป็นขับไล่รัฐบาล และยกวาทะกรรม เรื่องล้มระบอบทักษิณ ขึ้นมาทั้งที่ไม่มีระบบทักษิณอยู่จริง

2. อ้างว่าชุมนุมโดยสงบ แต่กลับนำประชาชนไปยึดสถานที่ราชการ บังคับข่มขู่ข้าราชการไม่ให้ทำงาน

3. การประกาศจะตั้งสภาประชาชนเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การปกครอง ทั้งที่มีรัฐธรรมนูญบังคับใช้อยู่ เป็นสิ่งที่ไม่อาจทำได้ เนื่องจากขณะนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายได้

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า 4. เมื่อข้ออ้างเรื่องขับไล่ระบอบทักษิณ เริ่มไม่ได้รับการตอบสนอง และนายกฯ ประกาศยุบสภา ก็เปลี่ยนเป็นเสนอปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งแทน ซึ่งแนวทางดังกล่าวต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ เมื่อไม่มีสภาผู้แทนราษฎร จะดำเนินการได้อย่างไร
 
5.รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนในการร่าง หากเห็นว่ารัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งไม่เป็นธรรม เหตุใดตอนที่นายสุเทพเป็นรัฐบาลจึงไม่ดำเนินการ
 
และ 6. นายสุเทพ ประกาศจะล้มการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่านายสุเทพไม่เคารพเสียงประชาชนทั่วประเทศ ที่จะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของประเทศ จึงขอเรียกร้องไปยังประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุม ว่าควรรับฟังเหตุผลจากทุกฝ่าย ไม่ควรหลงเชื่อเฉพาะคำพูดของนายสุเทพ ที่จะซ้ำเติมปัญหาให้กับบ้านเมือง

"ที่สำคัญเมื่อมีการโปรดเกล้า พ.ร.ฏ.ยุบสภา และกำหนดวันเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 แล้ว ประชาชนทุกคนต้องแสดงสิทธิทางการเมือง กำหนดอนาคตของประเทศผ่านการเมืองตั้ง ไม่ใช่มาชุมนุมเพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก จากนี้ผมก็จะรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุเทพในข้อหากบฏ แต่จะเคยดำเนินการไปแล้ว แต่ถือว่าเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ และจะร้องให้ กกต. พิจารณาการกระทำของสมาชิกพรรคบางคนที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลถึงการยุบพรรคได้" นายพร้อมพงศ์ กล่าว.