ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ : สงคราม หรือ สันติภาพ ?

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2556 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I′m No.5 เขียนเรื่อง สงคราม หรือ สันติภาพ ? โดยระบุถึงการแก้ปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบันที่ยังหาทางออกไม่เจอ ดังนี้

สงคราม หรือ สันติภาพ ?

โลกเรานี้มีทั้งกลางวัน และกลางคืน

ที่ประเทศไทย...

มีเสื้อแดง... มีเสื้อเหลือง...

มีเอเชียอัพเดท... มีบลูสกาย...

มีอำนาจรัฐ... มีอำนาจม็อบ...

มีเพื่อไทย... มีประชาธิปัตย์...

มีระบอบทักษิณ... มีระบอบอำมาตย์...

ใครเป็นคนแบ่ง?... ใครเป็นคนกำหนด?...

เราอยู่ท่ามกลาง "ความขัดแย้ง" ของสองฝ่าย ระหว่าง "ดีเลิศ กับ เลวทราม" คุณว่าคุณดี ฉันว่าของฉันดี เราชนะบนความพ่ายแพ้ของคนชาติเดียวกันเอง

ใครจะดีเหมือน "วันเฉลิม" หรือจะเลวบริสุทธิ์แบบ "อีลำยอง"? มนุษย์ปุถุชนมีดีมีเลวปะปนกันไป หากดีบริสุทธิ์ หรือเลวบริสุทธิ์ มันผิดธรรมชาติ

สมัย "ระบอบคอมมิวนิสต์" ยังรุ่งเรือง บอกว่า "ระบอบทุนนิยม" เลวร้าย แต่ต่อมา คอมมิวนิสต์อย่างจีน กลับเป็นทุนนิยมเสียเอง โดยใช้นโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบอบ" เขายังทำกันได้

ส่วนประเทศไทยมีระบอบเป็นหนึ่งเดียวเรียกว่า "ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" กลับทะเลาะเบาะแว้งกันวุ่นวาย โทษกันไปโทษกันมาว่าต่างฝ่ายต่างเป็น "กบฏ" พูดไม่ถูกใจ ไม่เข้าข้าง ก็กลายเป็น "ผู้ก่อการร้าย"

การแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศไทยในขณะนี้ ไม่ใช่กินมาม่า "บะหมี่สำเร็จรูป" ผมจะได้ไปบอกวิธีแก้ให้คุณได้ง่ายๆ เหมือน "เทน้ำร้อนใส่มาม่า" ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาแบบสำเร็จรูปอย่างนั้น ถ้าทำได้ ประเทศไทยคงไม่เป็นแบบทุกวันนี้หรอกครับ

ความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนาน หล่อหลอมให้เกิด "ความเกลียดชัง" เมื่อใครมาพูดไม่ถูกใจ จะเกิดอาการ "ดิ้น" เขาเรียกว่า "โรคบ้าการเมือง" (Demo-Crazy)

ฝรั่งเขาบอก "Political is Compromise, if not it′s a War” การเมืองคือการประนีประนอม หากไม่ประนีประนอม มันจะกลายเป็น "สงคราม"

เลือกเอาเอง ว่าเราจะ "ประนีประนอม" หรือจะทำ "สงคราม" เร็วๆนี้รู้กัน