สุเทพนำทำบุญเป็นพลังขจัดระบอบทักษิณ

สุเทพนำทำบุญเป็นพลังขจัดระบอบทักษิณ


'สุเทพ'นำทำบุญเป็นพลังขจัดระบอบทักษิณ

24พ.ย.'สุเทพ'นำทำบุญเป็นพลังขจัดระบอบทักษิณ ลั่นไม่ชนะไม่กลับบ้าน พร้อมเปิดตัวเครือข่ายร่วม 'นักวิชาการ' แนะสังคมมีสติเอกชนห่วงการเมือง-แนะยุบสภา

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลา 18.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 2556 บนเวทีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้มีการเปิดตัวแกนนำเครือข่ายที่ร่วมในการชุมนุม อาทิ กองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ   เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ  เครือข่ายนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย  กองทัพธรรม กลุ่มสื่อมวลชนเพื่อมวลชน  และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์   ทั้งนี้ผู้ที่มาร่วมเปิดตัวบนเวทีอาทิ นายสุริยะใส กตะศิลา  นายสมกียรติ พงษ์ไพบูลย์  ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง  นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ  ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์  นายอุทัย ยอดมณี  พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ  นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม  นายพิเชฐ พัฒนโชติ นายสมเกียรติ หอมละออ

              นายสุเทพ กล่าวกับผู้ชุมนุมบนเวทีที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า การต่อสู้ครั้งนี้เพื่อลูกหลานในอนาคต ไม่ใช่เป็นการต่อสู้เพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือใครสักคน คือ 1.ต้องร่วมกันขจัดระบอบทักษิณ 2.หล่อหลอมเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และตนดีใจที่ได้ยืนเคียงข้างมวลมหาประชาชน และทุกองค์กรในการต่อสู้ครั้งนี้

              "พรุ่งนี้ขอให้ตื่นเช้ารีบมาที่ราชดำเนิน โดยทำบุญตักบาตรกันตอน 6 โมงเศษ ถึง 7 โมงเช้า จากนั้นไหว้พระสวดมนต์รับศีล ชำระใจให้ผ่องแผ้ว รับพรจากพระเพื่อเป็นพลังต่อสู้เพื่อประเทศชาติและแผ่นดินจนชนะ หลังจากนั้นเมื่อประชาชนทั้งประเทศเดินทางมาสมทบกันเราก็จะต่อสู้เพื่อให้ระบอบทักษิณพ้นจากแผ่นดินไทยไปให้ได้ และต้องสู้จนชนะ ไม่ชนะไม่กลับบ้านอีกแล้ว พวกทักษิณมันหมิ่นว่าการต่อสู้ของพวกเราไม่สามารถรวมเป็นเอกภาพเป็นหนึ่งเดียว แต่วันนี้พวกเราได้รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวเห็นประจักษ์กันแล้ว" นายสุเทพ กล่าว

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการปราศรัยบนเวทีของนายสุเทพเสร็จสิ้น นายสุเทพได้หันไปตีกลองชัย ซึ่งทางทีมงานได้จัดไว้ให้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ประกาศเดินหน้าต่อสู้กับระบอบทักษิณอย่างเต็มที่ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้สนับสนุนดังก้องถนนราชดำเนิน

              ขณะเดียวกันโฆษกบนเวทีได้ประกาศว่า รถบัสที่นำกลุ่มผู้ชุมนุมมาจากภาคใต้และภาคเหนือจำนวนหลายคันประสบอุบัติเหตุยางแตกจากที่มีคนแอบมาโรยตะปูเรือใบไว้ตามเส้นทาง บางคันประสบอุบัติเหตุตกลงข้างทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายด้วย

              ขณะที่นายสุริยะใสกล่าวว่า ขอให้ยึดมั่นในสันติวิธี ซึ่งจะเป็นวิธีที่ทำให้ชนะโดยเด็ดขาดและชอบธรรม


"นักวิชาการ"แนะสังคมมีสติอย่ามองการเมืองด้วยอารมณ์


              สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) อภิปรายวิชาการ เรื่อง "การปฏิรูปการเมืองและทิศทางประชาธิปไตยในอนาคต : ก้าวหน้า หรือ ถอยหลัง?" เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี (2516-2556) ของ สสส. โดยมีนักวิชาการที่เกี่ยวข้องร่วมอภิปราย โดยนายเอนก นาคะบุตร ประธานมหาวิชชาลัยภูมิปัญญา ชุมชนท้องถิ่น กล่าวว่าการเมืองไทยในปัจจุบัน ตนมองว่าเป็นประชาธิปไตยที่ขายได้นับตั้งแต่รัฐบาลยุคทหาร  ยุครัฐบาลวิกฤตต้มยำกุ้ง  ยุคพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เพราะ ทรัพยากรส่วนใหญ่ของประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง แต่เหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาจะพบเห็นความก้าวหน้าของประชาชนในกระบวนการประชาธิปไตยที่ต่อสู้เรียกร้อง แต่เหตุการณ์ความก้าวหน้าของประชาชนล่าสุดจะเป็นอย่างไร ต้องรอผลของการเคลื่อนไหว ในวันที่ 24 พ.ย. นี้

              ด้านนายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันความมั่นคงและนานาชาติศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยเน้นการเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญมากกว่าเนื้อหาทำให้กลายเป็นปัญหาจนถึงปัจจุบัน ส่วนการประท้วงทางการเมืองที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้ยกเว้นมีกระบวนการภายใน คือ ฝ่ายทหาร  สำหรับการชุมนุมปัจจุบันที่มีความยืดเยื้อส่วนตัวมองว่าเพราะคนวางแผนภายในที่ต่อสู้กันและยังไม่ได้ข้อสรุปได้ว่าฝ่ายใดเหนือมีอำนาจเหนือกว่า ขณะที่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันตนมองว่าจะไม่มีทางยุติหรือหาทางออกร่วมกันได้ ยกเว้นประชาชนต้องตระหนักถึงความเป็นเจ้าของประเทศร่วมกันอย่างเท่าเทียม ส่วนการรัฐประหารจากความขัดแย้งตนเชื่อว่าจะเกิดขึ้นยากเนื่องจากฝ่ายที่จะทำรัฐประหารกังวลว่านานาชาติจะไม่ให้การยอมรับ โดยเฉพาะในด้านการลงทุน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจภาพรวม

              ขณะที่นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าตนไม่ต้องการให้ประชาชนตามดูเหตุการณ์ทางการเมืองด้วยความสะใจ หรือ อารมณ์ เพราะว่าไม่ว่าเหตุการณ์ขัดแย้งในปัจจุบันจะจบแบบไหน โครงสร้างทางการเมืองก็จะไม่เปลี่ยน โดยในประเด็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ต่อต้านทุนของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เข้ามาผูกขาดพรรคการเมือง ตนมองว่าเป็นการมองปัญหาเพียงครึ่งเดียว เพราะต่อให้ล้มรัฐบาลหรือทุนปัจจุบันที่เข้ามาครอบงำการเมืองได้ แต่อย่าลืมว่ายังมีกลุ่มทุนอื่นๆ ที่ครอบงำชนชั้นนำที่จะเข้ามาฉวยโอกาส หาประโยชน์จากประเทศผ่านโครงสร้างประเทศภายใต้ระบบอุปถัมภ์ ไม่ต่างจากทุนของกลุ่มพ.ต.ท.ทักษิณ

              "กลุ่มทุนอื่นที่ต้องการเข้ามาฉวยประโยชน์ของประเทศมีหลายกลุ่ม อย่างกลุ่มของนายสุเทพ ก็ใช่ กลุ่มกองทัพก็ใช่ ที่ต้องการเข้ามาครอบงำไม่ต่างจากกลุ่มทุนเดิมที่ครอบงำในตอนนี้ ดังนั้นผมอยากให้ตั้งสติ และร่วมผลักดันการปฏิรูปการเมืองที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เพื่อร่วมสร้างกติกาใหม่ ที่ทุกฝ่ายยอมรับ เพื่อให้สังคมอยู่ราวมกันอย่างสงบสุข" นายประจักษ์ กล่าว

เอกชนห่วงการเมือง-แนะยุบสภา


               นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยในการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศประจำปี เมื่อวันทึ่ 23 พฤศจิกายน ที่ จ.ตรัง ว่า เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองอย่างชัดเจน และการเมืองจากนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่อยากเห็นคืออย่าให้รุนแรงและยืดเยื้อ
 
               นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทย กล่าวเช่นกันว่า รัฐบาลและกลุ่มผู้ต่อต้านควรจะหาวิธีร่วมกันที่จะทำให้ปัญหาทุกอย่างจบลงโดยดี ส่วนการยุบสภา หรือลาออก ต้องตอบให้ได้ก่อนว่า เมื่อทำแล้วปัญหาจะจบหรือไม่ หรือหากเลือกตั้งใหม่ รัฐบาลชุดเดิมก็อาจจะกลับมาอีก
 
               ด้าน นายบุญชัย โชควัฒนา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานกรรมการบริหาร บมจ.สหพัฒนพิบูล กล่าวว่า กำลังซื้อสินค้าทั่วไปของผู้บริโภคปีนี้ลดลง 10-20% ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยกำลังซื้อหายไปมากถึง 40-50% คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้น่าจะไม่ขยายตัว หรือโตอยู่ในระดับ 0% เท่านั้น แต่หากสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อออกไปอีก 3-6 เดือน เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยปีหน้าถึงขั้นอาจติดลบได้
 
               "ตอนนี้ทุกอย่างน่าเป็นห่วง เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรเยอะแบบนี้ ทางออกของรัฐบาลก็มีอยู่หลายทาง ทั้งการยุบสภาและการลาออก แต่คิดว่าวิธีการยุบสภาน่าจะทำได้ง่ายที่สุด จะช่วยทำให้เศรษฐกิจปีหน้าดีขึ้นบ้าง” นายบุญชัย กล่าว


รองผบช.น.-ผกก.นางเลิ้งขอเปิดเส้นทาง

              ที่แยกเทวกรรม ถ.นครสวรรค์ เมื่อเวลา 20.00น.  พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร ผกก.สน.นางเลิ้ง พร้อมคณะเดินทางมายังแนวกั้นกลุ่ม คปท. บนถนนนครสวรรค์ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมปิดเส้นทางจรจรจาจากเชิงสะพานเทวกรรมรังรักษ์มุ่งหน้าสนามม้านางเลิ้ง เพื่อเจรจาขอคืนพื้นที่จราจรบนเส้นทางถนนพิษณุโลกจากแกนนำผู้ชุมนุม โดยมีนายนิติธร ล้ำเหลือ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ นายอุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. มาร่วมเจรจา

              ทั้งนี้ตำรวจได้เจรจากับแกนนำเพื่อขอให้เปิดเส้นทางจราจรช่วงถนนพิษณุโลก จากแยกยมราชถึงแยกพาณิชยการในช่วงเช้าวันที่ 24 พ.ย.และช่วงบ่ายวันที่ 25 พ.ย. โดยอ้างว่าความจำเป็นว่าจะใช้เป็นเส้นทางขบวนเสด็จฯ ซึ่งทั้งฝ่ายตำรวจและแกนนำทำการเจรจากันอยู่ประมาณ 30 นาทีจึงเสร็จสิ้น

              จากการเจรจาตำรวจได้ขอให้ผู้ชุมนุมย้ายพื้นที่การชุมนุมไปอยู่ภายในสนามม้านางเลิ้งเป็นการชั่วคราว แต่แกนนำผู้ชุมนุมชี้แจงว่า ในวันพรุ่งนี้(24 พ.ย.) จะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากจึงจะขอจัดเตรียมเส้นทางให้เรียบร้อยและนำประชาชนมารอรับเสด็จฯ และขอให้ตำรวจมาร่วมกันบริหารจัดการเส้นทางได้ซึ่งตำรวจกับแกนนำผู้ชุมนุมจะประสานงานกันอีกครั้ง จากนั้นตำรวจจึงเดินทางกลับ แต่ปรากฏว่าระหว่างคณะตำรวจเดินไปขึ้นรถนั้นก็ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเป่านกหวีด ด่าทอ โห่ไล่ และมีขวดน้ำพลาสติกลอยตามหลังมาหนึ่งขวด แต่ไม่โดนใคร ทำให้การ์ดและแกนนำต้องยกมือห้ามปรามกัน ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อกลับเข้าที่ชุมนุมแล้วก็มีการพูดว่ากล่าวตักเตือนจากเวทีชุมนุมให้ควบคุมอารมณ์


ทำเนียบฯตรึงกำลังเข้มกว่าเดิมหลังคปท.ประชิด


              ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาล หลังจากกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)เคลื่อนมาปักหลักประชิดที่ถนนพิษณุโลกและแยกนางเลิ้ง ซึ่งเป็นเส้นทางหนึ่งในการผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล ว่า การดูแลความปลอดภัยโดยรอบทำเนียบเป็นไปอย่างเข้มงวดกว่าทุกวันที่มีการประกาศพ.ร.บ.ความมั่งคง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งประจำการเชิงสะพานเทวกรรม ได้นำตาข่ายสูงประมาณ 2 เมตรมาขึงเหนือจากแบริเออร์ ซึ่งวางเรียงปิดตายไม่ให้รถยนต์และคนผ่านเข้ามาได้เพื่อใช้เป็นแนวป้องกันไม่ให้มีการขว้างปาสิ่งของหรือวัตถุใช้เป็นอาวุธเข้ามา เช่นเดียวกับบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และสะพานชมัยมรุเชษฐ พร้อมกับนำรถควบคุมผู้ต้องขังมาจอดเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา

              ขณะที่รถยนต์และบุคคลที่ผ่านเข้าออกนั้น อนุญาตให้เฉพาะรถที่มีบัตรผ่านเข้าออกและมีภารกิจจำเป็น ส่วนบุคคลให้ติดบัตรทำเนียบแสดงตนให้เห็นอย่างชัดเจน โดยผ่านเข้าออกได้เพียงประตู 4 ตรงข้ามสำนักงานป.ป.ช. และประตู5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ เท่านั้น ในส่วนกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนที่ปฏิบัติหน้าที่โดยรอบทำเนียบ ได้ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ให้เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติ อย่างไรก็ตามในส่วนของรัฐบาล มีพล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ร่วมติดตามการประเมินสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ใกล้ชิด และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ได้เข้ามาให้กำลังใจตำรวจที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา

              ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากประชาชนและร้านค้าที่อาศัยด้านหลังพาณิชยการพระนคร ซึ่งเดิมทีถนนบริเวณนั้นเป็นเส้นทางเข้า-ออก ทำเนียบรัฐบาลบริเวณสะพานอรทัย แต่ปรากฏว่าวันนี้มีการนำแท่งแบริเออร์มาวางปิดตายไม่ให้มีการสัญจรเข้า-ออก จึงทำให้ประชาชนและร้านค้าไม่สามารถผ่านเข้าออกได้และทำให้ขาดรายได้


กทม.จัดทำป้ายบอกทางถนนเลี่ยงม็อบชุมนุม


              นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวภายหลัง เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมและมอบหมายภารกิจ ว่า กทม.ได้เตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์การชุมนุมของผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม 1.กลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก เขตบางกะปิ และ2.กลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บริเวณถนนราชดำเนิน ที่คาดว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. กทม.จึงได้ประชุมเพื่อซักซ้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นย้ำการปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่ แบ่งการดูแลทุกพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง หากมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมไปยังพื้นที่เขตใด ให้สำนักงานเขตนั้นเตรียมพร้อมด้วย

              นางนินนาท กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดเส้นทางจราจรในถนนหลายสายนั้น กทม.ได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่งจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อแนะนำเส้นทางการจราจรให้ประชาชนทราบว่าเส้นทางใดสามารถใช้ได้ และเส้นทางใดควรหลีกเลี่ยง ซึ่งจะดำเนินการติดตั้งโดยเร็วที่สุด ขณะที่การดำเนินการด้านอื่นๆกทม.ได้ปฏิบัติตามที่ได้มีการร้องขอจากกลุ่มผู้ชุมนุมทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งเรื่องการจัดเก็บขยะ รถสุขา ไฟฟ้าส่องสว่าง การจัดเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากสภากาชาดไทย และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดเจ้าหน้าที่มาประจำหน่วยแพทย์บนเส้นทางถนนราชดำเนิน จำนวน 8 จุดด้วย

              "นอกจากนี้ในเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ผู้ชุมนุมเส้นทาง ถ.ตีทอง ถ.ราชบพิตร รอบกระทรวงมหาดไทย ถ.อัษฎางค์ ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ สนามหลวง และสี่แยกคอกวัว พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย" ปลัดกทม.กล่าว


เสื้อแดงลพบุรีจัดกำลังสมทบเวทีราชมังคลา20คันรถตู้


              นายวีระ บัวจีบ แกนนำคนเสื้อแดง ลพบุรีเปิดเผยว่า ในเวลา 09.00 น วันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ คนเสื้อแดง ลพบุรี จัดกำลังไปที่ราชมังคลากีฬาสถาน 20 คันรถตู้ โดยให้คนเสื้อแดงเก็บเสื้อผ้าไปพร้อมที่จะอยู่หลายวันหากไม่พร้อม จะอยู่วันหรือสองวันจะมีการสับเปลี่ยน การจัดคนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพ ฯครั้งนี้เป็นส่วนของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน คนเสื้อแดงชุดนี้ ไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย และทาง นปช.จะต้องไปฟังนโยบายส่วนกลางว่าจะให้นำคนเข้ากรุงเทพฯเท่าใด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์