“ก่อแก้ว” แจงแก้ ม.190 ไม่ได้ลดอำนาจสภา

“ก่อแก้ว” แจงแก้ ม.190 ไม่ได้ลดอำนาจสภา

“ก่อแก้ว” แจงแก้ รธน. ม.190 ไม่ได้ลดอำนาจสภา ย้อน ปชป.ดูพฤติกรรมตัวเอง เมื่อครั้งส่ง “เทพเทือก”เจรจาลับที่บ้าน “ฮุนเซน”

เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่รัฐสภา นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
 
แถลงถึงกรณีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา190 เกี่ยวกับกรอบการเจรจาว่า จากการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาที่กล่าวหาว่า การแก้มาตรา190 เป็นการแก้ไขที่มีผลประโยชน์แอบแฝง ลดอำนาจรัฐสภาและประชาชน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริง ในขณะนี้มีการประชุมร่วมรัฐสภามีหลายเรื่องที่คั่งค้าง ซึ่งบางเรื่องไม่จำเป็นให้ ส.ส.และ ส.ว.ต้องพิจารณา เพราะอาจไม่มีความรู้เกี่ยวกับเเรื่องสนธิสัญญาต่าง ๆ แต่รัฐธรรมนูญ มาตรา190 กำหนดไว้จึงต้องเอาเข้าสภาให้พิจารณา ทำให้เกิดความล่าช้า อาทิ เรื่องข้อตกลงทางอากาศ บันทึกความหารือ ทำความเข้าใจ และร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูต ซึ่งจากกรณีล่าสุดคือการที่นายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาเยือนประเทศไทย เราก็ต้องเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาข้อตกลง ระหว่างไทย-จีนเพื่อให้คำตอบแก่นายกรัฐมนตรีของจีน ซึ่งทำให้เสียเวลาและโอกาส

นายก่อแก้ว กล่าววว่า วันนี้ประเทศต้องใช้ความรวดเร็วในการดำเนินการด้านการลงทุน ไม่ใช่อะไรก็ต้องมารอสภาพิจารณาเมื่อปี 55 ที่ผ่านมา เราก็เสียโอกาสทางด้านวิชาการที่นาซ่าจะขอมาสำรวจ การรวมตัวของก้อนเมฆในประเทศไทย วันนี้เราจึงจะทำการแก้ไขให้มีเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับดินแดน อำนาจอธิปไตย และการค้าที่ส่งผลกระทบกับประชาชนเท่านั้น ส่วนการที่บางคนบอกว่าเป็นการลดอำนาจรัฐสภานั้น ก็ไม่ได้เป็นการลดอำนาจ แต่เป็นการลดงาน แล้วขอถามกลับไปยังฝ่ายค้านว่าใครกันแน่ที่ต้องการลดอำนาจรัฐสภา เพราะที่ผ่านมาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่น ประเด็นที่มา ส.ว.และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็พยายามลากเข้าไปยังศาลรัฐธรรมนูญทั้ง ๆ ที่อำนาจการออกกฎหมายเป็นของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างชอบธรรม

นายก่อแก้ว กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้ประโยชน์จากการแก้ไขมาตรา190 นั้น

ไทย-กัมพูชามีปัญหาพื้นที่ทับซ้อน เช่นเดียวกับไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแก๊สธรรมชาติ จึงมีการแก้ปัญหาโดยการกำเนิดองค์กรร่วม ไทย-มาเลเซีย จนนำไปสู่การตั้งบริษัทลงทุนร่วมไทย-มาเลเซีย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวคิดว่าควรแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาในลักษณะเดียวกัน จึงตั้งทีมไปเจรจา ซึ่งเรื่องนี้เป็นการสานต่อจากรัฐบาลนายชวน หลีกภัย โดยการเจรจาแต่ละครั้งเป็นการเจรจาที่เปิดเผย ซึ่งต่างจากสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่แต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้ไปเจรจาอย่างลับ ๆ ที่บ้านพักของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา โดยสมเด็จฮุนเซนได้ออกมาเปิด เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม

“ดังนั้นก่อนจะกล่าวหาใครควรกลับไปดูพรรคของตนเองก่อนว่าเคยทำพฤติกรรมแบบนั้นหรือไม่ โดยผมยืนยันว่าการแก้รธน.ม.190 ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวแต่ทำเพื่อลดภาระและเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน” นายก่อแก้ว กล่าว.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์