แฉ 3 ปัจจัยประจาน “ปู” ไม่ใช่นายกฯของประเทศ

แฉ 3 ปัจจัยประจาน “ปู” ไม่ใช่นายกฯของประเทศ

“ปชป.” เผย 3 ปัจจัยประจาน “ปู” ไม่ใช่นายกฯของประเทศ แต่เป็นนายกฯของคนเสื้อแดง

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้แสดงให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ได้เป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ แต่เป็นนายกฯของคนเสื้อแดง โดยจะเห็นได้จาก 3 ปัจจัย คือ 1.การดูแลผู้ชุมนุม โดยเฉพาะกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.) ที่ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 แต่สิ่งที่เกิดขึ้น รัฐบาลกลับประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ดำเนินการเป็นสองมาตราฐานหากเทียบกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งการที่พรรคเพื่อไทย ขู่จะยื่นถอดถอน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ออกจากตำแหน่ง ฐานสนับสนุนการชุมของกลุ่ม กปท. นั้น ขอยืนยันว่าผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐมีสิทธิอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุมที่ทำตามกฎหมายไม่ได้คิดจะล้มรัฐบาล แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยใช้หลักการนี้คนที่ควรถูกยื่นถอดถอน คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงในการชุมนุมคุกคามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ปัจจัยที่ 2.การใช้อำนาจในทางที่ผิด ที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาก่อการร้าย

ทั้งที่มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมด อีกทั้งนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุคงไม่ทำความเห็นแย้งกับคดีนี้อีก จะทำให้คดีเป็นที่สิ้นสุด พ.ต.ท.ทักษิณ จะหลุดพ้นจากคดีก่อการร้าย ในทางกลับกันอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องบริษัทรับเหมาสร้างโรงพักทั่วประเทศ แต่ดีเอสไอระบุว่าจะทำความเห็นแย้ง เพราะคาดว่าหากดำเนินการไปถึงผู้รับเหมาได้ก็จะสามารถดำเนินการย้อนกลับไปยังรัฐบาลชุดที่แล้วได้ จึงถือว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐดูแลพวกเดียวกันเอง แต่ไปกลั่นแกล้งผู้อื่น ใช้กฎหมายเอื้อประโยชน์พวกพ้อง คาดว่าต่อไปคงจะมีการสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในคดีต่างๆ แต่พวกตนไม่กลัว ตอนนี้รัฐบาลกดขี่ข่มเหงจนคนไทยเปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าไปแล้ว 

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า 3. รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินจนทำให้ประเทศตกอยู่ในภาวะถังแตก
 
ผลาญภาษีผ่านนโยบายประชานิยม สะท้อนได้จากการที่รัฐบาลไทยและจีนเตรียมลงนามในMOU ก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ในลักษณะบาเตอร์เทรดเป็นการเอาข้าวไทยไปแลกกับการสร้างรถไฟ หากเป็นเช่นนี้แล้วทำไมจะต้องกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ถ้าคิดว่าจะใช้การแลกเปลี่ยนสินค้า รัฐบาลต้องการกู้เงินมากอง ใช้เงินเป็นตัวตั้ง เอางานเป็นตัวรอง และถือว่ารัฐบาลจนแต้มในการระบายข้าว.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์