คลิปลืออาเพศ 8 ต.ค. ประสงค์ สุ่นศิริ เก้าอี้หักหงายหลังคาม็อบข้างทำเนียบ

คลิปลืออาเพศ 8 ต.ค. ประสงค์ สุ่นศิริ เก้าอี้หักหงายหลังคาม็อบข้างทำเนียบ

ประชาเรียกถกรับมือม็อบ-สมช.จับตาใกล้ชิด-ชี้ฤกษ์8ตค.แค่ความเชื่อ

 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมหน่วยงานด้านความมั่นคง อาทิ นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.ท.ธวัช บุญเฟือง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.สฤษฏ์ชัย เอนกเวียง ผบช.ส. นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และตัวแทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) จำนวนนับร้อยที่ปักหลักชุมนุมรอบทำเนียบ โดยปิดถนนพิษณุโลก ส่งผลให้การจราจรติดขัด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยบริเวณภายในและรอบทำเนียบทั้งหมด

ได้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.น.) 1,3,5,6,7 และ 9 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จากจ.ชลบุรี และจ.ระยอง ทั้งหมด 15 กองร้อย เข้าควบคุมสถานการณ์ จากเดิมใช้เจ้าหน้าที่ดูแลเพียง 6 กองร้อย ขณะเดียวกันมีการเปิดทางเข้า-ออกทำเนียบเพียงประตูเดียว คือ บริเวณสะพานอรทัย และเข้มงวดตรวจรถยนต์และบุคคลเข้า-ออก ต้องแสดงบัตรประจำตัวทุกคน ขณะที่ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อม จัดเตรียมกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม โดยมีคำสั่งให้กองบัญชาการตำรวจภูธรที่ 1,2 และ 7 ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดปริมณฑลทั้งหมด ตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันการขนย้ายอาวุธและอำนวยความสะดวก

 พล.ท.ภราดรกล่าวว่า สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นควบคุมได้ แต่ไม่ประมาท
 
และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะมีผู้ชุมนุมมาเพิ่มหรือไม่ ขณะนี้ผู้ชุมนุมที่เดือดร้อนจริง รัฐบาลได้พูดคุยเรียบร้อยแล้วและทยอยกลับเหลือเพียงกลุ่มเดียว คือกลุ่มกปท. แม้ขณะนี้จะมีเพียงร้อยกว่าคน แต่สถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 7 ต.ค. ทำให้เห็นว่ามีการส่งสัญญาณว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อ ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัญจรบริเวณนี้ อีกทั้งใกล้ช่วงที่ผู้นำจีนจะมาเยือนไทยจึงต้องทำความเข้าใจ โดยผบช.น.กำลังจัดการอยู่

 ผู้สื่อข่าวถามว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงได้รายงานหรือไม่ว่าเกี่ยวกับกระแสข่าวผู้ชุมนุมทางภาคใต้ เตรียมมาสมทบกับกปท.

พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด พบว่ายังไม่มีการเคลื่อนตัว ตอนแรกดูว่ามีความสัมพันธ์กันหรือไม่ ระหว่างกลุ่มที่สวนลุมฯ กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและท่าพระอาทิตย์ และผู้ชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช แต่เมื่อพูดคุยกันแล้วทราบว่า ยังไม่มีการขับเคลื่อนมารวมกัน แต่ต้องคอยจับตาดูประมาณวันที่ 13 ต.ค. ที่จะมี 56 องค์กร ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ต้องดูว่าจะสัมพันธ์กับตรงนี้หรือไม่ เบื้องต้นผู้ชุมนุมมีความระมัดระวัง เพราะมีบทเรียนและคดียังคาราคาซังอยู่ ฉะนั้นการเคลื่อนไหวตรงนี้ ถ้ามีการไปร้องศาล หากศาลถอนหมายจับก็จะเป็นปัญหาอีก เช่น กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ก็ยังระวังตัว เขาคงไม่ห้ามคนอื่นแต่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวเพราะยังมีหมายศาล

 หากรัฐบาลเจรจากับกลุ่มกวป.แต่เขาไม่ยอมไป เราก็ต้องพยายามต่อไปและดูทุกอย่างว่า ตอนนี้เขาเกินความสมควรหรือยัง

เช่น ทำให้การจราจรติดขัดมากเกินไป มีผลกระทบต่อการใช้ทางสาธารณะ เราจะดูโดยใช้กฎหมายจากเบาไปหาหนัก แต่สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ยังใช้กฎหมายธรรมดาได้Ž พล.ท.ภราดรกล่าว

 พล.ท.ภราดรกล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนฟังหูไว้หู ตั้งสติให้ดีว่ามีเหตุผลอะไรที่จะมาชุมนุม

เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีเงื่อนไขเพียงพอที่จะดำเนินการ รัฐบาลยังทำงานตามปกติได้อยู่ ถ้ามีทุจริตคอร์รัปชั่นก็ต้องชัดเจน และมีกลไกขององค์กรอิสระที่พร้อมดำเนินการกับรัฐบาล ตรงนี้ไม่ต้องไปกังวลใจ แต่ต้องฟังอย่างมีเหตุผล ส่วนกรณีฤกษ์ 8 ต.ค. จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เป็นความเชื่อของเขาที่มองสถานการณ์ที่ผ่านมา และคิดไปว่าจะเกิดขึ้น ขณะที่เงื่อนไขที่จะเกิดเหตุเหล่านี้หมดไปแล้ว แต่ยังมีบางกลุ่มที่เชื่ออยู่ เราเคารพการเคลื่อนไหวตามสิทธิ์ เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อน



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์