เนติวิทย์ใฝ่ดีต้านเขื่อนแม่วงก์ อัดปลอดอย่าดื้อรั้นสร้างลูกเดียว

วันนี้ 24 ก.ย. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

ชื่อเล่น แฟรงก์ นักเรียนโรงเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊คส่วนตัว "Netiwit Ntw" บอกเล่าประสบการณ์การเข้าร่วมแสดงพลังกับกลุ่มคัดค้านเขื่อนแม่วงก์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา 

พร้อมแสดงความคิดเห็น ถึงแนวความคิดของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ (กบอ.) ว่า ควรไปศึกษาข้อมูลให้รอบคอบเสียก่อน อย่าดื้อรั้นจะสร้างลูกเดียว ทั้งยังถามถึงความโปร่งใสของโครงการนี้ว่ามีความโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน

ข้อความที่นายเนติวิทย์โพสต์บนเฟซบุ๊คส่วนตัว เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 56

เมื่อวานได้มีโอกาสไปแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์คัดค้านเขื่อนแม่วงก์ที่เกาะกลางระหว่างฟิงเจอร์พาร์คและเมเจอร์ รังสิต ได้ไปกับเพื่อน2-3คนถือป้ายค้านเขื่อนที่ตรงหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ค และก็ถูกไล่จากรปภไปบนสะพานก็ถูกไล่อีก เพราะเป็นของฟิวเจอร์ฯก็ไม่เป็นไร เพียงแค่เล่า เพราะอย่างไรมันก็เป็นกรรมสิทธิ์เอกชนแต่ก็กังวลว่าปริมณฑลสาธารณะในอนาคตจะลดน้อยถอยลงไปกว่านี้หรือไม่

วันนี้ก็ได้ไปร่วมเดินมาช้า เขามากันที่สี่แยกสะพานควายแล้ว

เราพึ่งมาที่หมอชิต ก็ใช้เวลาเดินจนตามทัน แล้วก็ร่วมเดิน

จนมาพักที่อนุสาวรีย์ชัยฯ พักได้ 2 ชั่วโมงก็เดินต่อไป

จนถึงหอศิลป์ กทม. 

ประมาณคาดว่ามีประชาชนเรือนหมื่นการคัดค้านเครื่องแม่วงก์นี้ มิได้หมายว่าประชาชนที่ออกมาจะสังกัดเดียวกันหมดแต่มีความหลากหลายทางความคิดอยู่ในขบวนการอย่างไรก็ดี ขบวนการนี้มีความมุ่งหมายเดียวกันคือ นิเวศวิทยา/ระบบนิเวศที่เป็นธรรมและยั่งยืนประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและต้องการการประเมินค่าความเสี่ยง ผลกระทบอย่างรอบคอบ มิต้องการให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรป่าไม้ ระบบชีวภาพสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ไปอย่างง่ายๆ โดยฝ่ายรัฐผู้มีอำนาจถ่ายเดียว ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งหายนะวิกฤติสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนภูมิอากาศกำลังดำเนินไปอย่างรุนแรงและคุกคามชีวิตในชีวาลัย

ข้อความที่นายเนติวิทย์โพสต์บนเฟซบุ๊คส่วนตัว เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 56

คุณปลอดประสพ ควรจะศึกษาให้รอบคอบเสียก่อน และอย่าดื้อรั้นจะสร้างลูกเดียว ในที่รับน้ำได้ร้อยละ 10 ของจำนวนเขื่อนทั้งหมด ความโปร่งใสของโครงการนี้มากน้อยแค่ไหน มีการทำการประเมินผลกระทบทางนิเวศมากน้อยแค่ไหน และคุ้มค่าจริงหรือที่จะตัดต้นไม้ออกไปแล้วปลูกทนแทนต้องใช้เวลากี่ปี และต้องสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างมากมายอันประเมินค่าไม่ได้ สามารถทดแทนได้ง่ายๆหรือ

เวลานี้เราแลสรรพชีวิตในชีวาลัย (biosphere) กำลังอยู่ในภาวะ

อันตรายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ ใช่จะมิเกิดขึ้นได้อีก ทางที่ดีคุณปลอดประสพควรลาออกได้แล้ว

ซึ่งแสดงท่าทีเช่นนี้มาหลายครั้ง โจมตีด่าทอ เรื่องประชุมน้ำโลก เรื่องด่าทอสายอนุรักษ์สายสิทธิมนุษยชนอย่างไม่ให้เกียรติเลยคือยังไม่ตระหนักถึงปัญหาภาวะวิกฤติ และเรื่องเขื่อนนี้ไม่ได้สะท้อนมิตินิเวศอย่างเดียว แต่เรื่องประชาธิปไตยด้วยคือไม่ได้ถามไม่ได้ประชาพิจารณ์ไม่ได้ประเมินอย่างเพียงพอรอบคอบแล้วก็จะเดินหน้าทำต่อไป โดยไม่ฟังเสียงรอบด้านหาได้ไม่ดังนั้นการต่อสู้เรื่องแม่วงก์ เป็นเรื่องประชาธิปไตยและนิเวศวิทยา

เป็นการต่อสู้เรื่องเดียวกันและมิอาจแบ่งแยกได้เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

กรณีที่อ้างกันว่าเป็นเขื่อนในพระราชดำริคัดค้านไม่ได้ ไม่ใช่

มนุษย์ทุกคนก็คิดผิดได้คิดถูกได้ แลเห็นผลแล้วก็ไม่ควรผิดพลาดซ้ำอีก

"ทุกก้าวย่างเตือนให้เราระลึกว่าเราหาได้ครองอำนาจเหนือธรรมชาติเช่นกับผู้พิชิตครองอำนาจเหนือชาวต่างชาติเหมือนกับคนที่ยืนอยู่นอกธรรมชาติไม่แต่หากเรา พร้อมด้วยเลือด เนื้อและสมองนี้ เป็นสมบัติของธรรมชาติ และดำรงอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติ การเป็นเจ้านายทั้งหมดของเรานั้นอยู่ตรงความจริงว่า เรามีความได้เปรียบมากกว่าสรรพสัตว์อื่น ๆ ทั้งมวล ที่สามารถเรียนรู้กฎของธรรมชาติและนำมันมาใช้อย่างถูกต้อง"เฟอเดอริค เอิงเกิลล์ "เราต้องแผ้วทางถนนที่จะนำไปสู่การฟื้นฟู อันจะนำมาซึ่งความเคารพศักดิ์ศรี และคุณค่าแก่มนุษย์ทุกผู้นามไม่ว่าดีหรือร้าย เราก็ครอบครองโลกมนุษย์ใบนี้แล้ว โลกที่พลังแห่ง

วิวัฒนาการเกือบทั้งหมดอยู่ในเงื้อมมือเราตามแต่จะชักนำไปในทางที่ถูกหรือผิด ภูมิอากาศไม่ใช่แค่กระบวนการธรรมชาติที่เราตกอยู่ใต้อิทธิพลของมันเท่านั้น แต่ยังเป็นพลวัตอันซับซ้อนที่เราต้องดูแลรับผิดชอบทันที ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ มนุษย์สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล เพราะไม่มีส่วนใดของโลกที่ไม่ถูกผลกระทบจากกิจกรรมของเรา"พอล ฮอว์เกน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า