“ ผบ.ทบ.” ซัด รบ.-ตร ทำอะไรไม่ได้โยนทหารตลอด

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 9 เม.ย. ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) 

 กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ประกาศตั้งรัฏฐาธิปัตย์ ว่า อยากให้ไปดูความหมาย ว่า แปลว่าอะไรมีหลายคนออกมาแปลความหมายของคำนี้ แต่ต้องไปดูว่าตามกฎหมายสามารถทำได้หรือไม่ หากผิดกฎหมายก็ดำเนินคดีจุดยืนของกองทัพ คือ ไม่เข้าข้างคนที่ทำผิดกฎหมายทุกพวกทุกฝ่าย ในวันนี้ทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกัน ขณะที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็กำลังดำเนินคดี ตนคงไม่ไปวิจารณ์ว่า  การที่นายสุเทพ  ประกาศจัดตั้งรัฏฐาธิปัตย์  ว่า  เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมเพราะสิ่งใดก็ตามที่ผิดกฎหมายก็ไม่เหมาะสมทั้งนั้น มันมีคำตอบในตัวอยู่แล้ว

“  ผมถามว่า ขณะนี้มีใครทำความผิด พ.ร.บ.ความมั่นคงฯบ้าง ซึ่งก็มีกันหลายกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะนายสุเทพเพียงอย่างเดียว ผมไม่ได้เข้าข้างนายสุเทพ   นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. หรือใครทั้งนั้น  ทหารต้องทำหน้าที่ไป ในวันนี้ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร แต่ทหารก็ต้องมาทำ ถามว่าเป็นหน้าที่ของใคร ของฝ่ายบริหาร และ ฝ่ายตำรวจใช่หรือไม่ หน้าที่ของทหารตามรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่าไม่สามารถไปจับกุมใครมาดำเนินคดีได้ คนที่จะจับได้ก่อนคือ ตำรวจ  ก็เข้าไปจับเพราะนายสุเทพก็อยู่ในม็อบ แต่พอจับไม่ได้ก็บอกให้ทหารไปจับ มันถูกต้องหรือไม่ ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายสับสนกับจุดยืนของผบ.ทบ.เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฏฐาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า

ที่ตนพูด ยังไม่ชัดอีกหรือ บอกแล้วว่าให้ไปดูว่ ผิดกฎหมายหรือไม่ถ้าผิดก็ดำเนินคดีจับติดคุก ใครที่ทำผิดพ.ร.บ.ความมั่นคงฯก็ไปจับมาคนที่ดำเนินการก่อนคือตำรวจ โดยศอ.รส.สั่งการไป รวมถึงอธิบดีดีเอสไอทำไมไม่ไปไล่ให้คนที่มีหน้าที่โดยตรงไปทำงาน ตนไม่เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างลงมาที่ทหารหมด ไม่ว่าจะรบกับศัตรูนอกประเทศหรือในประเทศเอง บางพวกไม่ชอบใจว่าทหารมายุ่งกับการเมือง อยากถามว่ายุ่งที่ไหนเพราะตนทำหน้าที่ตามคำสั่งและกฎหมายที่มีอยู่มาโดยตลอด
 

เมื่อถามว่า คิดว่าการตั้งรัฏฐาธิปัตย์สามารถทำได้หรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่คิด เพราะไม่ได้เป็นคนพูด

ทุกวันนี้มีหลายเรื่องหลายคนพูดในสิ่งที่ผิดกฎหมาย สถาบัน  เรื่องกบฏซึ่งแบ่งแยกเป็น 2 เรื่อง คือรัฏฐาธิปัตย์ และแบ่งแยกประเทศอยากให้พูดกันหมด และนำมาแก้ไขปัญหา ไม่ใช่แก้ทีละข้างเพราะจะไม่สามารถแก้ไขได้ ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาต้องไปถามฝ่ายบริหารฝ่ายการเมืองและรัฐบาล เมื่อถามว่าเมื่อมีการตั้งรัฏฐาธิปัตย์ได้ ผบ.ทบ.จะรายงานตัวต่อนายสุเทพหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามอย่างมีอารมณ์ว่า “ ตั้งได้หรือยัง ถ้าตั้งไม่ได้ก็อย่าไปคิด สื่อบอกเองว่าผิดกฎหมาย  และตั้งไม่ได้ จะมาถามให้เสียสมองทำไม” 

เมื่อถามว่า ประชาชนอยากได้ทหารเป็นที่พึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามอีกว่า “ ทุกวันนี้ทหารยังพึ่งไม่ได้อีกหรือต้องการพึ่งทหารในระดับไหน  หรืออยากให้ทหารออกมาแก้ไขปัญหาอย่างไรก็ให้บอกมา  ”

เมื่อถามต่อว่า  ถ้าแก้ไขปัญหาไม่ได้ทหารจะออกมาปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า

เขายอมหรือไม่ก็ให้ไปถามเขาที่มาโวยวายกันอยู่ทุกวันนี้จะสู้กันให้ได้ ให้ตายไปกันข้าง เมื่อถามย้ำว่า  ถ้าประชาชนฆ่ากันตายทหารค่อยออกมาปฏิวัติใช่หรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะตอบ ถ้าตอบอย่างนั้นสื่อจะนำไปเขียนว่าไม่ห่วงประชาชน  ปล่อยให้ประชาชนตายก่อนแล้วค่อยออกมาเป็นอัศวินขี่ม้าขาวยึดอำนาจ อยากให้ใช้สติปัญญาเหตุผลในการแก้ไขปัญหา เคารพกฎหมายก็จะแก้ไขปัญหาได้ ส่วนวิธีการนอกกฎหมายไม่ต้องกังวลอย่างไรก็ตามตนไม่สัญญากับใครทั้งสิ้นว่าใครทำอะไรหรือไม่ทำอะไร

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทหารถูกการ์ดของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยิงว่า 

 ต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นและอย่าเคลื่อนไหวในที่มืด เพราะไม่ได้ติดอาวุธ ถือว่าทหารเสียสละ ยืดอกไปรับกระสุนใครก็ไม่รู้ซึ่งตนสั่งการให้ไปทำหน้าที่ดูแลประชาชน ทั้งที่เป็นหน้าที่ของตำรวจ ถามว่าตนยังไม่ได้ทำอะไรอีกหรือทหารจะถือปืนออกมาได้ต่อเมื่อบ้านเมืองเกิดวิกฤติแต่ขณะนี้เป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การเฝ้าระวังและทหารไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือกลุ่มผู้ชุมนุมเพราะทุกคนเป็นคนไทย แม้คนส่วนหนึ่งต่อว่า และคนส่วนหนึ่งชื่นชมก็ต้องทำต่อไปด้วยความอดทน บางอย่างก็อย่าไปฟังมาก แต่ในส่วนของตนต้องฟังทุกฝ่าย ต้องทำกองทัพให้ยืนอยู่ให้ได้ ตนไม่อยู่ข้างไหนทั้งนั้นอย่ามาเลือกข้างให้ เพราะจะอยู่ข้างความถูกต้องชอบธรรม เคารพกฎหมายและปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ อดทน เหมือนที่อดทนอยู่ทุกวันนี้ซึ่งตนก็ไม่ได้มีความสุข.