ไฟฟ้าดับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ กระทบระบบหล่อเย็น

แถลงการณ์จากบริษัทผลิตไฟฟ้าเทปโก้ของญี่ปุ่น ระบุเกิดเหตุไฟฟ้าดับกะทันหัน เมื่อเวลาประมาณ 18.57 น. วานนี้ (18 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการประเมินสาเหตุ

เหตุดังกล่าวทำให้ระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 1, 3 และ 4 จำนวน 3 ถัง ซึ่งมีแท่งเชื้อเพลิงที่ใช้แล้วแช่อยู่จำนวน 2,100 แท่ง หยุดทำงาน โดยก่อนที่ไฟฟ้าจะดับอุณหภูมิในถังหล่อเย็นอยู่ที่ 25% และเพิ่มขึ้นในอัตราชั่วโมงละ 0.1-0.3 องศาเซลเซียส แต่เตาปฏิกรณ์ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 วัน กว่าอุณหภูมิจะเพิ่มสูงเลยระดับที่ปลอดภัย  นอกจากนี้การเกิดไฟฟ้ายังส่งผลกระทบต่อถังหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์อื่นที่มี แท่งเชื้อเพลิงแช่อยู่ 6,300 แท่ง และยังส่งผลกระทบต่อระบบกำจัดน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีอีกด้วย

เทปโก้เปิดเผยว่า อุณหภูมิในถังหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 ซึ่งเป็นถังที่ร้อนที่สุด อุณหภูมิอยู่ที่ 30.5 องศาฯ ในช่วงเช้าวันนี้ ที่ต่ำกว่าขีดอันตรายที่กำหนดไว้คือ 65 องศาเซลเซียส ส่วนที่ถังหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 1 และ 3 มีอุณหภูมิต่ำกว่า และอาจต้องใช้เวลานานกว่าในการกลับเข้าสู่ระดับปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบยังไม่พบความเปลี่ยนแปลงของระดับปริมาณกัมมันตรังสีโดยรอบ บริเวณของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะไดอิจิแต่อย่างใด
แต่หากน้ำที่ใช้ในการหล่อเย็นไม่เพียงพอตามเส้นตายที่กำหนดไว้ อาจทำให้น้ำในถังหล่อเย็นเกิดเดือดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึงหากเป็นเช่นนั้น น้ำก็จะเกิดการระเหยตัวอย่างรวดเร็ว และเมื่อน้ำลดลง แท่งเชื้อเพลิงที่อยู่ในแกนปฏิกรณ์ก็จะสัมผัสกับอากาศ ซึงหากเป็นเช่นนั้น ก็จะนำมาซึ่งการรั่วไหลของรังสีซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกันรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกโครงการก่อสร้างศูนย์ช่วยเหลือผู้ ประสบภัยจากแผ่นดินไหวบริเวณแอ่งนานไก ซึ่งอยู่ในบริเวณภาคกลางค่อนไปทางตะวันตกของญี่ปุ่นที่จะรองรับผู้ประสบภัย ได้ถึง 10 ล้านคน

ทั้งนี้ จากรายงานล่าสุดประเมินกันไว้ว่าหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในบริเวณดังกล่าว ประชาชนอย่างน้อย 34.4 ล้านคน จะไม่มีน้ำใช้และในจำนวนนี้  4.6 ล้านคน จะไม่มีน้ำใช้นานอย่างน้อย 1 เดือน บ้าน 27.1 ล้านหลังไม่มีไฟฟ้าใช้ และเกือบ 900,000 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ผู้อพยพหนีภัยอย่างน้อย 10 ล้านคน และเกือบทั้งหมดจะไม่อาจกลับไปยังบ้านได้ แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 1 เดือน สำหรับค่าใช้จ่ายในการบูรณะซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนหลังแผ่นดินไหวจะอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และค่าซ่อมถนนกับรางรถไฟจะอยูที่กว่า 200,000 ล้านดอลลาร์