ไซซะนะฆ่าไม่ตาย! ทลายศูนย์ฟอกเงิน ปราบเท่าไรไม่รู้จักหมด

ไซซะนะฆ่าไม่ตาย! ทลายศูนย์ฟอกเงิน ปราบเท่าไรไม่รู้จักหมด


"ยาบ้า"ปราบเท่าไรไม่รู้จักหมด วันเดียวเจ้าหน้าที่แถลงไล่ยึดนับล้านๆเม็ด มูลค่ารวมกว่า1พันล้านบาท ผงะ!ซุกยาบ้า2.2ล้านบ้านในรถปูน ขนจากเหนือเตรียมล่องลงใต้ หลุดถึงตลาดประเทศเพื่อนบ้านมูลค่าทะลุ700ล้านบาท ทลายอีกเครือข่ายฟอกเงิน"ไซซะนะ"กลางเมืองปทุมธานี เปิดบริษัทจัดทำเอกสารต่างด้าว-แทงพนันบอลบังหน้า เงินหมุนเวียนกว่าวันละ100ล้านบาท

ยาเสพติดโดยเฉพาะ "ยาบ้า" ที่แพร่ระบาดในประเทศไทย ปราบเท่าไรไม่รู้จักหมด ล่าสุดเฉพาะวันนี้วันเดียวมีการจับกุม พร้อมยึดของกลางจากเครือข่ายยานรกเหล่านี้เป็นจำนวนมาก มูลค่าราว 1 พันล้านบาท และบางส่วนมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของ นายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ชาวลาว ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ด้วย

จับยาบ้า1.8แสนเม็ดซุกบ้านร้าง

ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ในวันนี้ (16 พ.ค.60) เริ่มต้นที่ พ.ต.ท.ผดุงเกียรติ ปัณฑรนนทกะ ผบ.ร้อย ตชด.327 อ.แม่จัน จ.เชียงราย สนธิกำลัง ตชด.327 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ร่วมกันจับกุม นายอรุณศักดิ์ มอแลกู่ อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้าประมาณ 180,000 เม็ด

สำหรับการจับกุมมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการลักลอบมั่วสุมเสพยาเสพติดในบ้านร้างแห่งหนึ่ง บริเวณด้านหลังวัดปงอ้อ ต.แม่จัน อ.แม่จัน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบเป็นบ้านคอนกรีตที่ยังไม่ได้ฉาบปูน พื้นด้านล่างเต็มไปด้วยหญ้าและมูลสัตว์ ไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้บรรยากาศวังเวง ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปใกล้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ย่องเข้าไปตรวจสอบพบนายอรุณศักดิ์ นั่งซุ่มอยู่ภายในบ้าน พร้อมกระสอบฟางสีขาวหลายใบ จึงแสดงตัวเข้าไปตรวจสอบ และเมื่อเปิดดูในกระสอบฟางพบมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ 180,000 เม็ด จากการสืบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่ายาเสพติดดังกล่าวมีชายชาว จ.น่าน ว่าจ้างให้นายอรุณศักดิ์ มาเฝ้าไว้ จึงคุมตัวนายอรุณศักดิ์ ไปสอบสวนเพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายนี้ต่อไป

ยึดทรัพย์แก๊งยานรก200ล.

ส่วนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) , พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ.10 และ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 แถลงผลการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดของ นายสัมฤทธิ์ ยะไวย์

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้จับกุมตัวนายสัมฤทธิ์ และ น.ส.สุธิชา แจ่มประดิษฐ์ อายุ 42 ปี ที่บริเวณจุดตรวจสกัดยาเสพติด ถ.เพชรเกษม อ.ชะอำ หลังพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว ทะเบียน กฉ-9311 สกลนคร จำนวน 830,000 เม็ด จากนั้นได้มีการขยายผลการจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายของนายสัมฤทธิ์ โดยขออนุมัติหมายจับ 24 ราย จับกุมแล้ว 6 ราย พร้อมยึดทรัพย์สินต่างๆ ทั้งรถยนต์ , บัญชีเงินฝาก , พระเลี่ยมทอง และทองคำ เป็นต้น รวมมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท

พบเชื่อมโยงเครือข่ายชาวลาว

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดของนายสัมฤทธิ์ ยังเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดอื่นๆ อีก เช่น เครือข่ายยาเสพติดของ นางหมอน เพชรอรุณ สัญชาติลาว , เครือข่ายยาเสพติดของ นางน้อย สัญชาติลาว , เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และเครือข่ายยาเสพติดประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ และยังได้มีการขยายผลจับกุมไปถึงขบวนการฟอกเงินรายใหญ่ที่มี นายยศวัฒน์ วีระชัยภัดศิริ หรือ "เฮียนนท์" กับพวกรวม 10 คน และขบวนการยาเสพติด 7 คนอีกด้วย

ทลายอีกเครือข่ายฟอกเงิน"ไซซะนะ"

ขณะที่ พล.ต.อ.สุวิระ กล่าวว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้บุกทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นครึ่ง ในพื้นที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเปิดเป็น บริษัท จีเนอร์รัล ออลล์ เวลท์ จำกัด รับทำหนังสือเดินทางของคนต่างชาติ และเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พร้อมจับกุม น.ส.ธัญญณา ศรีรักษา อายุ 28 ปี พร้อมของกลางโฉนดที่ดิน , บัตรเอทีเอ็ม 167 ใบ , สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 29 เล่ม , ทะเบียนรถป้ายแดง 1 ป้าย และคอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็นการเปิดทายผลพนันออนไลน์ 6 เครื่อง

พล.ต.อ.สุวิระ กล่าวอีกว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นของ นายยศวัฒน์ วีระชัยภัคศิริ หรือ "เฮียนนท์" ซึ่งเจ้าหน้าที่จับตัวเอาไว้แล้ว และถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงินยาเสพติดของนายไซซะนะ เป็นแหล่งกระจายเงินให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด และผู้ซื้อยาเสพติด รวมถึงโอนเงินให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งอยู่ต่างประเทศ โดยมีการใช้คอมพิวเตอร์ในการรับแทงพนันฟุตบอลออนไลน์ มีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทด้วย

ถือเป็นศูนย์กลางทางบัญชี

พล.ต.อ.สุวิระ กล่าวด้วยว่า เครือข่ายที่ จ.ปทุมธานี เป็นการขยายผลจับกุมมาจากเครือข่ายนายสัมฤทธิ์ ที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งพบว่าแหล่งฟอกเงินที่ จ.ปทุมธานี ถือเป็นศูนย์กลางทางการบัญชี เป็นเครือข่ายที่โอนเงินให้กับนายไซซะนะ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการยึดรถที่ใช้ในการกระทำผิดไปแล้วจำนวน 5 คัน และยังเป็นเครือข่ายโอนเงินให้กับกลุ่มยาเสพติดอีกประมาณ 3 กลุ่ม ซึ่งวันนี้ตำรวจได้จับกุมเครือข่ายเชื่อมโยงทั้ง 3 กลุ่มแล้ว

"ส่วน น.ส.ธัญญณา ให้การว่า มีหน้าที่ทำงานด้านเอกสารอย่างเดียว ส่วนบนชั้น 3 ซึ่งเปิดเป็นศูนย์คอมพิวเตอร์ การพนันฟุตบอลออนไลน์ และโอนเงินเครือข่ายยาเสพติดนั้น ไม่รู้เห็นด้วย แต่ตำรวจพบว่า น.ส.ธัญญณา เตรียมจะนำของกลางทั้งหมดหลบหนี แต่ถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน" พล.ต.อ.สุวิระ กล่าว

ผงะ!ซุกยาบ้า2ล้านเม็ดในรถปูน

วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร (บก.ภ.จว.ชุมพร) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ และคณะ แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ บก.ภ.จว.ชุมพร

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค.60 เวลาประมาณ 10.00 น.ตำรวจประจำด่านตรวจบ้านพละ หมู่ที่ 3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รรท.ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ทำหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจบ้านพละ พร้อมกำลังทหารจาก ร.25 พัน 1 ได้ร่วมกันจับกุม นายธนิสร ศรกล้า หรือป๊อก อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ทำหน้าที่ขับรถยนต์บรรทุกพ่วงใช้สำหรับบรรทุกปูนซีเมนต์ผง ทะเบียน 70-4273 สระบุรี ตัวพ่วง 70-4482 สระบุรี ที่ซุกซ่อนยาบ้าของกลางไว้ในถังใส่ปูนซีเมนต์ผง , นายยศวัฒน์ วัชรฐิติลดากรณ์ หรืออู๊ด อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ที่นั่งโดยสารมาด้วย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 2.2 ล้านเม็ด ใส่กระเป๋าผ้าแบบสะพาย 22 ใบ ซุกซ่อนไว้ในถังสำหรับใส่ปูนซีเมนต์ผง

ผ่านมาได้ไง?ล่องจากเหนือลงใต้

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า ในวันดังกล่าวเวลาประมาณ 06.30 น. ตำรวจและทหารประจำด่านตรวจบ้านพละ ได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจบนถนนเพชรเกษม ฝั่งถนนขาล่องใต้ มุ่งหน้าไป จ.ชุมพร จนเวลาประมาณ 09.30 น.ตำรวจชุดดักซุ่มก่อนถึงด่านตรวจบ้านพละ บริเวณปั๊มน้ำมันก่อนถึงด่านตรวจบ้านพละประมาณ 2 กม. สังเกตพบรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว ขับมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าไปจอดภายในปั๊มน้ำมัน จนเวลาประมาณ 10.00 น.ก็ยังไม่ขับรถออกจากปั๊มน้ำมัน จึงได้ตรวจสอบประวัติการเดินทางของรถคันดังกล่าว ทราบว่าเดินทางมาจากภาคเหนือ ซึ่งผิดปกติจากรถที่ใช้บรรทุกปูนซีเมนต์ผงทั่วไป เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบ และควบคุมตัวทั้ง 2 คนไว้ก่อน

มูลค่ามโหฬาร770ล้านบาท

จากนั้นได้สอบสวนทั้ง 2 คน ให้การว่า เดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ จะนำรถไปบรรทุกปูนซีเมนต์ผงที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แต่ทั้ง 2 คน ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันควบคุมตัว พร้อมรถบรรทุกพ่วงมาที่ด่านตรวจบ้านพละ และตรวจค้นโดยละเอียด เมื่อเปิดฝาถังที่ใช้สำหรับใส่ปูนซีเมนต์ผงออก พบมีกระเป๋าผ้าแบบสะพาย ซุกซ่อนไว้ภายในถังสำหรับใส่ปูนซีเมนต์ผงดังกล่าว 22 ใบ ด้านในใส่ยาบ้าไว้รวม 2.2 ล้านเม็ด จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม

ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า มีผู้ว่าจ้างให้ขับรถบรรทุกพ่วง บรรทุกยาบ้ามาจาก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อนำไปส่งให้ผู้มารับที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งผู้ว่าจ้างตกลงว่าจะให้ค่าจ้างคนละ 500,000 บาท ได้รับเงินค่าเดินทางมาแล้ว 50,000 บาท ซึ่งมูลค่าของยาบ้าล็อตนี้ถ้าหลุดไปถึงประเทศเพื่อนบ้านได้จะมีมูลค่า 770 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จับคาปั๊มยาบ้า-ไอซ์บิ๊กล็อต21ล้าน

ส่วนที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส.แถลงผลการจับกุม นายณรงค์ชัย บุญฉ่ำ อายุ 39 ปี และนายชัยณรงค์ สีลอด ชาว จ.อ่างทอง พร้อมยาบ้า 800,000 เม็ด ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 21 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมัน ริมถนนสายเอเชีย อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามกลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทราบว่าจัดหายาเสพติดครั้งละ 2 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 100 กิโลกรัม ลักลอบลำเลียงจากภาคเหนือ มาเก็บพักในพื้นที่ กทม. , จ.สระบุรี , พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง เพื่อรอจำหน่ายให้ลูกค้าในภาคกลาง และภาคใต้ ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการส่งยาเสพติดที่ปั๊มน้ำมัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ พบผู้ต้องหาขับรถยนต์เข้ามา จึงขอตรวจค้นพบของกลางทั้งหมด จึงควบคุมตัวไว้ เบื้องต้นรับสารภาพว่ารับยาทั้งหมดมาจากภาคเหนือ และนำมาส่ง รับค่าจ้างขนยาบ้าและยาไอซ์ มัดละ 5,000 บาท

ปูพรมค้น12จว.-จับเกือบ100คน

นายศิรินทร์ยา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ป.ป.ส.สนธิกำลังกับกรมการปกครอง ตำรวจ และทหารกว่า 460 นาย ปิดล้อมตรวจค้น 12 จังหวัด คือ กทม. สระบุรี ฉะเชิงเทรา สุรินทร์ เลย เชียงใหม่ พิจิตร พิษณุโลก สมุทรสาคร สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี และยะลา ใน 48 อำเภอ 182 หมู่บ้านชุมชน ผลการดำเนินการ จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวม 80 ราย พร้อมยาเสพติดหลายรายการ ยึดทรัพย์ รวมมูลค่า 1,120,000 บาท รวมผลการปิดล้อม 19 ครั้ง ตรวจค้นหมู่บ้านชุมชนกว่า 2,669 แห่ง จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2,865 ราย พร้อมยาเสพติดชนิดต่างๆจำนวนมาก ยึดทรัพย์สิน มูลค่า 96.1 ล้านบาท


Cr.naewna

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์