ไกล่เกลี่ยคืบหน้า ที่ดินวัดสวนแก้ว

"คืบหน้าที่ดินวัดสวนแก้ว"


เหตุการณ์มูลนิธิสวนแก้วของวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซื้อที่ดิน 1 ไร่เศษที่อยู่หน้าวัด ราคา 10 ล้านบาท เมื่อปี 2547 จากนางวันทนา สุขสำเริง เพื่อสร้างที่ทำการมูลนิธิ ส่วนที่ดินอีก 9 ไร่ที่อยู่ตรงข้ามวัด นางวันทนาได้ขายให้เอกชนรายอื่น สำหรับการได้มาซึ่งที่ดินของนางวันทนานั้น เนื่องจากเป็นคนดูแลที่ดินให้กับเจ้าของเดิม และมีเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบางใหญ่ แนะนำให้ยื่นเรื่องขอครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมายก่อนจะมีการออกโฉนดให้อย่างถูกต้อง

เมื่อทายาทของเจ้าของที่ดินเดิมทราบเหตุจึงยื่นฟ้องศาล ซึ่งศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ของนางวันทนาและให้คืนที่ดินให้กับทายาทเจ้าของเดิม ส่งผลให้วัดสวนแก้วต้องคืนที่ดินที่ซื้อมาด้วย ขณะที่พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม อีกทั้งนางวันทนายอมรับว่าเงินที่ได้จากการขายที่ดินให้วัดสวนแก้วใช้จ่ายไปหมดแล้ว ไม่มีเงินมาคืน ศาลพยายามไกล่เกลี่ยคู่กรณี แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้ เนื่องจากทายาทนางทองอยู่เจ้าของเดิมจะขายที่ดินให้ในราคา 7 ล้านบาท แต่มูลนิธิสวนแก้วเสนอจ่ายให้เพียง 3 ล้านบาท

"ไกล่เกลี่ยคู่กรณี"


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (29 ธ.ค.) ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีที่นายถนอม หิรัญประดิษฐ์ กับพวก ทายาทนางทองอยู่ หิรัญประดิษฐ์ เจ้าของที่ดินเดิมหน้าวัดสวนแก้ว เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางวันทนา สุขสำเริง จำเลยที่ 1 มูลนิธิสวนแก้ว จำเลยที่ 2 ในครั้งนี้ศาลกำชับให้ทนายความพานางวันทนามาด้วย ซึ่งนางวันทนาได้มาตามนัด

ศาลได้ไกล่เกลี่ยคู่ความ ขณะที่นางวันทนาแถลงว่าเงินที่ได้จากการขายที่ดินให้วัดสวนแก้วนั้น บางส่วนนำไปซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยใช้ชื่อบุตรชายเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ตนจะเจรจากับลูกชายนำทรัพย์สินทั้งหมดไปขาย คาดว่าจะได้เงินราว 4 ล้านบาทมาใช้หนี้ให้กับทายาทนางทองอยู่ ส่วนตัวแทนมูลนิธิสวนแก้วกล่าวว่าจะหาเงิน 3 ล้านบาทมาจ่าย โดยให้พระพยอมเทศน์หาทุน ใช้เวลาไม่เกิน 3 ปี ด้านทายาทของนางทองอยู่เจ้าของเดิมไม่คัดค้าน ศาลเห็นว่าทุกอย่างคืบหน้าไปด้วยดี จึงเห็นควรเลื่อนไปพิจารณาไกล่เกลี่ยอีกครั้ง เวลา 13.30 น. วันที่ 14 ก.พ. 2550

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์