โพลวาเลนไทน์-อยากให้ดอกไม้ปูที่สุด

ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ปีนี้
 
ระบุเงินสะพัดกว่า 3 พันล้านบาท เพิ่มจาก ปีก่อน 15 เปอร์เซ็นต์ อานิสงส์จากตรุษจีนและค่าแรง 300 บาท เผยนักการเมือง ที่ประชาชนอยากมอบดอกไม้มากสุดคือ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนดาราคู่ขวัญคือณเดชน์-ญาญ่า ส่วนวัยรุ่นจะมีเซ็กซ์หรือไม่ สูงสุด ร้อยละ 36 ระบุยังไม่มีเพราะไม่ใช่ สิ่งสำคัญ ขณะที่ร้อยละ 27 พร้อมมีเพราะรักแฟน ผบ.ตร.สั่งตร.ทั่วประเทศคุมเข้มม่านรูด หากพบเยาวชนใช้บริการให้แจ้งทันที คาดโทษสถานบริการหากปล่อยเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์มีความผิดหนักแน่

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหา วิทยาลัยหอการค้าไทย
 
เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ ปี 2556 ซึ่งคาดว่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้ จะมีมูลค่าสูงถึง 3,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนจะอยู่ที่ประมาณ 1,509 บาท คึกคักที่สุดในรอบ 5 ปี โดยได้อานิสงส์มาจากเงินแต๊ะเอียช่วงตรุษจีน และค่าแรง 300 บาท

โพลวาเลนไทน์-อยากให้ดอกไม้ปูที่สุด

ทั้งนี้สิ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามจะมอบให้แก่คู่รักในวันวาเลนไทน์ ส่วนใหญ่ 78.2 เปอร์เซ็นต์ นิยมบอกรัก
 
ขณะที่ 44 เปอร์เซ็นต์ จะพาคู่รักไปเที่ยว-ทานข้าว 34 เปอร์เซ็นต์ จะมอบดอกไม้ และ 21 เปอร์เซ็นต์ ตั้งใจจะมอบช็อกโกแลต และให้การ์ดเป็นของขวัญ 7.6 เปอร์เซ็นต์ ความคาดหวังจากคู่รัก คืออยากได้ยินคำบอกรักมากที่สุด 50 เปอร์เซ็นต์ อยากให้พาไปทานข้าว 39 เปอร์เซ็นต์ อยากได้ดอกไม้ 36 เปอร์เซ็นต์ อยากได้ช็อกโกแลต 29 เปอร์เซ็นต์ และอยากได้การ์ด 9.6 เปอร์เซ็นต์

สำหรับนักการเมืองที่ต้องการมอบดอกกุหลาบให้ในช่วงวันวาเลนไทน์มากที่สุดได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ 30.9 เปอร์เซ็นต์
 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน 18.4 เปอร์เซ็นต์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 10.6 เปอร์เซ็นต์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ 9.7 เปอร์เซ็นต์ และนายชวน หลีกภัย 6.2 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ประกาศข่าวได้แก่ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา 28 เปอร์เซ็นต์ นายกิตติ สิงหาปัด 19 เปอร์เซ็นต์ สำหรับนักแสดงได้แก่ ณเดชน์ คูกิมิยะ 26.8 เปอร์เซ็นต์ ญาญ่า อุรัสญา สเปอร์บันด์ 19.8 เปอร์เซ็นต์ ?บอย ปกรณ์? 8.7 เปอร์เซ็นต์ ?คิมเบอร์ลี่? 6.8 เปอร์เซ็นต์ และ ?ชมพู่ อารยา? 6.4 เปอร์เซ็นต์

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ?นิด้าโพล? สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน

เรื่อง วาเลนไทน์ในสไตล์วัยรุ่นไทย  ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 9-11 ก.พ. จากเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ 1,252 หน่วย พบว่าวัยรุ่นไทย ร้อยละ 52.64 ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ระดับปานกลาง เพราะมองว่าเป็นวัฒนธรรมของชาวตะวันตก ไม่ได้มีอะไรพิเศษ รองลงมา ร้อยละ 19.01 ระบุว่าไม่มีความสำคัญ เพราะเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง และยังโสดหรือไม่มีแฟน ร้อยละ 16.93 ให้ความสำคัญในระดับน้อย เพราะมีสิ่งอื่นที่สำคัญกว่า เช่น การเรียน การทำงาน และร้อยละ 11.42 ให้ความสำคัญในระดับมาก เพราะถือว่า 1 ปี มีเพียงครั้งเดียว

สำหรับสิ่งที่นึกถึงในวันวาเลนไทน์ พบว่าวัยรุ่นไทย ร้อยละ 36.98 จะนึกถึงดอกกุหลาบ ดอกไม้ รองลงมา ร้อยละ 15.65 นึกถึงแฟน ร้อยละ 14.86 นึกถึงความรัก การดูแลเอาใจใส่ สิ่งดีๆ ที่มีให้กัน ร้อยละ 7.91 นึกถึงช็อกโกแลต และร้อยละ 6.55 นึกถึงคนในครอบครัวอันเป็นที่รัก ได้แก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง

ส่วนการตัดสินใจหากแฟนขอมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ ร้อยละ 36.32 คิดว่าจะไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ เพราะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ และยังไม่ถึงเวลาอันสมควร หากเป็นความรักจริงก็ต้องรอได้ รองลงมา ร้อยละ 27.36 คิดว่าจะให้ เพราะรักแฟน และเป็นความต้องการของแต่ละฝ่าย ร้อยละ 21.02 ยังไม่แน่ใจ ขึ้นอยู่กับบรรยากาศและสภาพแวดล้อม

ที่ตร. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.เผยว่า ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ซึ่งเด็กและเยาวชนนิยมออกมาเที่ยวตามสถานบันเทิง

จึงอาจเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงออกมาตรการป้องปรามอาชญากรรม โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานใช้มาตรการเชิงรุก ในพื้นที่ล่อแหลมที่จะเกิดอาชญากรรม และคุกคามทางเพศ อาทิ สถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรมม่านรูด สวนสาธารณะ แหล่งมั่วสุมของเด็กและเยาวชน รวมทั้งจัดชุดเผยแพร่ความรู้ตามสถานศึกษา เพื่อร่วมระมัดระวังสอดส่องภัยคุกคามทางเพศของเยาวชน ที่อาจตกเป็นเหยื่อล่อลวงได้ รวมทั้งให้กวดขันเข้มงวดเรื่องเวลาปิดเปิดสถานบริการด้วย

ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็กเยาวชนผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.)
 
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยจัดโครงการ ชาวรามฯ ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รณรงค์ให้เด็กและเยาวชนแสดงออกถึงความรักในเชิงสร้างสรรค์ด้วยการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย ดีกว่าแสดงออกถึงคู่รักแบบหนุ่มสาว และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชน โดยใช้ข้อความประชาสัมพันธ์ รณรงค์ว่า ?เสียเลือด ดีกว่าเสียตัว?

นายเสรี วชิรถาวรชัย รอง ผอ.สท. กล่าวว่า วันที่ 14 ก.พ. ของทุกปีถือเป็นวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันที่ทั่วโลกแสดงถึงความรัก แต่เด็กและเยาวชนไทยเปลี่ยนวันดังกล่าว เป็นวันเสียตัวแห่งชาติ เราจึงมีแนวคิดให้เด็กมาทำกิจกรรมสร้างสรรค์ อาทิ การบริจาคโลหิต และการบำเพ็ญประโยชน์ แทนที่เด็กจะเอาเวลาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์