โป๊งเหน่ง แจงกรณีถูกกล่าวหาทอดทิ้งมารดา - ยันยังดูแลเสมอ

 โป๊งเหน่ง แจงกรณีถูกกล่าวหาทอดทิ้งมารดา - ยันยังดูแลเสมอ


โป๊งเหน่ง แจงกรณีถูกกล่าวหาทอดทิ้งมารดา - ยันยังดูแล ชี้คนนอกไม่รู้ตื้นลึกหนาบางจึงเข้าใจผิด


 เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 6 ต.ค. ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ นายพงษ์ศักดิ์ โสภักดี หรือ โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม นักแสดงตลกชื่อดัง วัย 50 ปี พร้อมด้วยนางสมญา ก้องภพฐิตารีย์ ภรรยา วัย 52 ปี และ เฮงเฮง เชิญยิ้ม ลูกชายคนที่สาม มาร่วมงานเปิดตัวโทรทัศน์ดาวเทียม “ช่อง 2” ของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่นักแสดงตลกชื่อดังและครอบครัวจะเข้าสู่ภายในงาน ได้เปิดใจถึงกรณีข่าวที่ในเฟสบุ๊กหนึ่งได้นำภาพของหญิงชราซึ่งมีแผลเหวอะหวาและมีมดขึ้นเต็มไปหมดมาเผยแพร่ไปทั่ว โดยในข่าวระบุว่าหญิงชราคนนั้นชื่อ “คุณยายอ้อย” ซึ่งเป็นแม่ของตลกชื่อดัง โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม ที่เคยมีข่าวว่าทอดทิ้งแม่มาครั้งหนึ่งแล้ว

 โดย โป๊งเหน่ง กล่าวว่า หลังมีเฟซบุ๊กเอารูปคุณแม่ตนไปลงข้อความช่วยเหลือ จริงๆ อยากขอบคุณ แต่คนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าเรื่องราวเป็นมายังไงก็ส่งไลน์มาด่าว่าตนและครอบครัว ตนไม่โกรธเพราะทุกคนมีสิทธิ์วิจารณ์เนื่องจากตนเป็นคนของสังคม ก่อนหน้านี้คงจำกันได้ว่าเคยเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นมาแล้ว สำหรับครั้งนี้ที่มันคุกรุ่นขึ้นมาอีก 

 เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่ตนไปรับแม่มาอยู่ที่บ้านด้วยกัน ปรากฏแม่อยู่ได้ประมาณหนึ่งเดือนกว่าๆ ก็รับไม่ได้ อยู่ไม่ได้ เนื่องจากแม่เหงาและไม่มีความผูกพันกับครอบครัวเพราะแม่ไม่เคยเลี้ยงลูกๆ ของตน หลังจากนั้นแม่บอกว่าเบื่อและหนีไป ตนไปตามที่วัดพระยาสุเรนทร์ซึ่งเป็นวัดเดิมที่แม่เคยหนีไปอยู่ พอไปตามปรากฏว่าแม่ไม่กลับ ตนจึงไปปรึกษาหลวงพ่อโสซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด หลวงพ่อบอกว่าถ้าแม่อยากอยู่ที่วัดเดี๋ยวหลวงพ่อจัดการดูแลเอง ตอนนั้นตนยังถามหลวงพ่อกลับด้วยว่าจะดีเหรอ พาแม่ไปอยู่ที่บ้านพักคนชราบางแคดีกว่าไหม ตนได้โทร.ติดต่อไปที่บ้านบางแค 2 เอารถตู้มารับอย่างดี สรุปแม่ไม่ไป ในเมื่อไม่ไปหลวงพ่อจึงบอกว่าให้ตนไปทำงานไม่ต้องห่วงทางนี้ หลวงพ่อดูแลเอง ซึ่งก็อยู่ที่วัดมาประมาณ 6-7 เดือน ระหว่างนั้นลูกและตนก็ผลัดเวียนกันไปเยี่ยมแม่ ล่าสุดเมื่อวันแม่ที่ผ่านมา ภรรยาของตนบอกให้ตนไปกราบเท้าแม่ เอาน้ำล้างเท้ามาล้างหน้าล้างหัว ดังนั้นเรื่องที่บอกว่าตนทิ้งแม่ไม่ไปดูแลนั้นไม่เป็นความจริง

 ตลกชื่อดังกล่าวต่ออีกว่า ส่วนรูปในเฟซบุ๊กที่มีคนนำไปลงแล้วดูน่ากลัวมาก บอกว่าแม่ตนเน่าแล้วมดขึ้นเต็มตัวไปหมด ตนได้ไปสืบจนรู้มาว่าก่อนหน้านี้ 3 วันแม่ล้มในห้องน้ำต้องผ่าเข่า แต่ที่โรงพยาบาลจะไม่ยอมผ่าให้ถ้าไม่มีญาติมาเซ็นชื่อรับรอง ตอนนั้นตนถ่ายละครอยู่ที่ปากช่อง 3 วันสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี แต่ว่าได้ทราบเรื่องจากภรรยาแล้ว เพราะหลวงพ่อโทร.มาบอก ทางหลวงพ่อเลยตัดสินใจด้วยตัวเองเพราะเห็นว่าสนิทกับตนจึงบอกว่าให้ผ่าเข่าแม่ตนไปเลย เกิดอะไรขึ้นหลวงพ่อรับผิดชอบเอง หลังจากผ่าเสร็จต้องมาพักฟื้นที่วัด ในระหว่างนั้นหลวงพ่อหาคนมาดูแลแม่ตน ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อ ชื่อน้องแอน

 ด้วยความที่แม่แก่แล้วพอนอนมากๆ จึงเกิดแผลกดทับ หลวงพ่อจึงไปคุยกับเจ้าหน้าที่อนามัยที่อยู่ข้างๆ ว่าให้ช่วยมาดูแลทำแผลแม่ตนให้หน่อย ตนไม่เข้าใจว่าเขาชอบหรือเกลียดตนกันแน่ เขาโทร.มาแต่ภรรยาตนเป็นคนรับ ซึ่งเขาบอกว่าแม่คุณทำไมไม่มาดู แล้วน้องแอนบอกตนทีหลังว่ามีคนมาถ่ายรูปแม่ตนไป นึกภาพคนแก่ที่ผ่าตัดมา แผลยังสดอยู่ แล้วแม่ตนเป็นเบาหวาน ถ้าล้างแผลพันแผลก็ไม่น่ากลัวขนาดนั้น แต่คนนั้นกลับแหกแผลออกพร้อมถ่ายรูปแผลที่กำลังเฟะแล้วเอาไปลงเฟซบุ๊ก ส่วนเรื่องที่คนสงสัยว่าทำไมมดขึ้นเยอะ จะไม่ขึ้นได้ยังเพราะไม่รู้มีใครที่ไหนเอาน้ำผึ้งผสมกับวาสลีนมาทา เพราะเชื่อว่าแผลจะได้ไม่แข็ง พอทาน้ำผึ้งมดก็ย่อมมาขึ้นเป็นธรรมดา พอมดขึ้นก็มาถ่ายรูปแล้วเอาไปลงเฟซบุ๊กอีก

 เมื่อวาน(5ต.ค.) ตนไปหาแม่ที่วัดตอน 2 ทุ่ม แต่แม่หลับแล้ว หลวงพ่อก็คุยกับผมว่าที่สำคัญตอนนี้แม่ตนต้องการคนดูแลช่วงกลางคืน เพราะน้องแอนดูแลได้แค่ตอนกลางวันเพราะเขามีครอบครัวแล้ว ทางหลวงพ่อจัดการหาคนมาดูแลให้แต่ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ตนต้องเป็นคนจัดการ ตนจึงบอกว่าจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนที่จ้างคนมาดูแลเดือนละหนึ่งหมื่นบาท

 ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้แม่อยู่ที่ไหน โป๊งเหน่งกล่าวว่า ตอนนี้แม่มีกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มารับตัวไปรักษา ซึ่งคนในกรมนี้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ โดยรับไปรักษาที่โรงพยาบาลนพรัตน์ ถามว่าตนรู้สึกแย่หรือไม่ที่ครอบครัวถูกโจมตี ยอมรับว่าตอนแรกเหวอ ใจลอย ทำไมเกิดขึ้นกับตนอีกแล้ว

 ถามถึงเรื่องที่คนมองว่าการดูแลแม่เป็นหน้าที่ของลูก ทำไมไม่ดูแล โป๊งเหน่ง กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่ดูแล แต่ตนต้องทำงานเลี้ยงลูกของตัวเอง 6 คน แต่ตนก็ได้ส่งลูกของตนหรือหลานไปดูแลแม่ ไม่ได้ทิ้งอย่างที่หลายคนคิดกัน อยากให้ทุกคนเป็นกลางให้ตนด้วย เพราะตอนนี้ชีวิตบอบช้ำมาก วันก่อนเจอเหตุการณ์คนเมากล่าวหาว่าตนเป็นลูกเนรคุณ แม้แต่เดินตลาดก็ยังโดนแม่ค้ารุมต่อว่า ขอยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งแม่ ถ้าตนโกหกก็ให้ไปถามหลวงพ่อโส และน้องแอนที่ดูแลแม่ของตนที่วัด ตอนนี้ตนพยายามไปรับแม่กลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว แต่แม่ไม่ยอมมา และหลวงพ่อก็ไม่อยากให้ไปอยู่ที่อื่น หลวงพ่อดูแลดีมาก และเป็นคนดีมาก แม่ตนอยากได้โทรศัพท์กับทีวี หลวงพ่อก็ซื้อมาให้ ต้องบอกว่าแม่อยู่ที่วัดสบายมาก

 ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าอยากจะชี้แจงกับคนที่คิดในแง่ลบหรือไม่ โป๊งเหน่งกล่าวว่า คงไม่มีใครไม่หวังดีกับตน เพียงแต่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ขอบคุณและขอโทษที่ทุกคนเข้าใจผิด ตนสงสารภรรยามากที่ถูกกล่าวหาว่าไล่แม่ตนออกจากบ้าน ความจริงมันไม่ใช่ ตนไม่ได้ทิ้งแม่ 

 ต่อข้อถามภรรยาของตลกชื่อดังว่ามีปัญหากับแม่สามีจริงหรือไม่ นางสมญา กล่าวว่า ไม่มีเลย เรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดว่าตนถามว่าต้องการเงินเท่าไหร่นั้น เพราะมีพยาบาลโทร.มาถามตนว่า ตอนนี้ไม่มีใครดูแลแม่เลย ตนเลยถามกลับว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่เอาไปตีความว่า ตนเอาเงินฟาดหัว เขาบอกว่าจะเอาเดือนละ 15,000 บาท ตนเลยขอปรึกษาโป๊งเหน่งก่อน เพราะไม่ได้มีรายได้มากพอ และตนก็ไม่ได้เกลียดแม่สามีแน่นอน

 โป๊งเหน่ง แจงกรณีถูกกล่าวหาทอดทิ้งมารดา - ยันยังดูแลเสมอ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์