โชว์ว่านรากราคะ มีพลังแรงทางเพศ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ส.ค. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเป็นองค์ประธานเปิดงาน โดยภายในงานมีการจัดแสดงพันธุ์ไม้โบราณที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เพื่อการอนุรักษ์ รวมทั้งการประกวดพันธุ์ไม้ 8 ประเภท ได้แก่ บอนไซ โกสน บอนสี อโกลนีมา ลีลาวดี โป๊ยเซียน กล้วยไม้ และชวนชม ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ และเงินรางวัลรวมกว่า 8 แสนบาท นอกจากนี้ในงานยังมีการแสดงว่านไทยโบราณ จัดแสดงในรูปแบบสวนว่านไทย อาทิ ว่านกระบี่ทอง ว่านทรหด ว่านทุ่งเศรษฐี ว่านนเรศวร ว่านกล่อมนางนอน ฯลฯ แต่สิ่งที่ถือเป็นไฮไลต์ของงาน คือว่าน “รากราคะ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ว่านดอกทอง” ซึ่งเป็นว่านโบราณที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์

นายณรงค์ ค้านอธรรม นักอนุรักษ์ว่านไทยโบราณ เจ้าของว่านรากราคะ เผยว่า

ว่านนี้อยู่ในวงศ์ซิงจิเบอร์เรซี เป็นพืชตระกูลเดียวกับขิง ลักษณะลำต้นใต้ดินเป็นเหง้ากลม แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว 5-10 นิ้ว เนื้อในหัวถ้าเป็นตัวผู้จะมีสีเหลือง ส่วนตัวเมียเนื้อสีขาว มีกลิ่นคาวจัดคล้ายกับอสุจิของคน พบมากทางภาคตะวันตกและภาคเหนือ แถบจังหวัดกาญจนบุรี ตาก ลำปาง ใบเป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็ก เส้นกลางใบสีแดง ทั้งต้นสูงประมาณ 1 ฟุต ออกดอกในหน้าฝน คล้ายดอกกระเจียว แต่ไม่มีก้านดอกจะอยู่ติดกับพื้นดิน มีสีขาวอมเหลือง โดยแทงดอกขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดินก่อนการงอกของใบว่านดังกล่าวนี้ ตามตำราโบราณระบุว่ามีอำนาจทางเพศรุนแรง โดยเฉพาะผู้หญิงเกิดรุนแรงมาก

ถ้าเอาหัว หรือใบ หรือต้นใส่โอ่งน้ำหรือบ่อน้ำ หากใครกินเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรงมาก

โดยเฉพาะดอกเพียงได้กลิ่นผู้คนที่ได้กลิ่นทั้งหญิงและชายจะพากันมัวเมาในโลกีย์รส ฉะนั้นจึงต้องเด็ดดอกออกเสีย นอกจากนี้ตามความเชื่อโบราณปลูกไว้ที่บ้าน ร้านค้า มีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม ทำให้มีลูกค้าอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งว่านดังกล่าวใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว จึงนำออกมาแสดงให้ประชาชนได้ชมก่อนที่จะสูญพันธุ์ไป

นอกจากนี้ในงานยังมีการโชว์ต้นอโกลนีมา

มีการตั้งชื่อภาษาไทยว่า “แก้วกาญจนา” สายพันธุ์ใหม่ต้นแรกและต้นเดียวของโลก ของนายชิษณุ สุเมธินันท์ สนนราคากว่า 1 ล้านบาท โดยงานนี้จะมีจนถึงวันที่ 2 ก.ย. รายได้ส่วนหนึ่งนำไปสบทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย