ภาพจากแนวหน้าวันนี้ 4 ก.ค. 56 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พระครูอนุสรณ์ศาสนากิจ พระวังม่วงต่อ จ.แม่ฮ่องสอน จัดงานรื่นเริงภายในสำนักพุทธศาสนา โดยการนำวงดนตรีและสาวโคโยตี้ มาเต้นเพื่อฉลองสมณศักดิ์ สัญญาบัตรพัดยศ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์
ล่าสุดนายสุวิทย์ นนทวิศรุต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลจากเฟซบุ๊ค และข่าวทางสื่อออนไลน์ ของสำนักพิมพ์ที่มีการสำเสนอไป ซึ่งเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำผิดและขัดต่อคำสั่งของมหาเถรสมาคม ในส่วนของสำนักพุทธศาสนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้มีการดำเนินการตามวินัยของสงฆ์และให้มีการรายงานมายังสำนักงานพุทธศาสนาให้เร็วที่สุด เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของศาสนาพุทธอย่างรุนแรง รวมไปถึงเป็นส่งผลให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของเหล่าชาวพุทธทั่วไปทั้งประเทศ
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. ผอ.สำนักงานพุทธศาสนา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปพบกับพระครูอนุสิฐธรรมสาร รองเจ้าคณะจังหวัด และ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู เพื่อขอให้มีการดำเนินการในด้านกิจของสงฆ์ และเร่งให้เกิดความกระจ่างต่อเหตุการณ์ที่เกิดขิ้นโดยเร็ว
พระครูอนุสิฐธรรมสาร รองเจ้าคณะจังหวัดเปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก เพราะถือว่าขัดต่อคำสั่งของมหาเถรสมาคม ที่ได้มีการออกคำสั่งเวียนไปยังวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศในเรื่องการห้ามจัดการแสดงโคโยตี้ หรือการแสดงที่ลามกอนาจารในวัดทั่วประเทศอย่างเด็ดขาด โดยได้มีการบทลงโทษต่อพระที่ขัดคำสั่งคือ ว่ากล่าวตักเตือน พักตำแหน่งหน้าที่ และถ้ายังดื้อดึงก็จะมีคำสั่งให้ถอดยศสมณศักดิ์ออกจากตำแหน่งทันที
สำหรับเรื่องดังกล่าว ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นวัดใดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากมีวัดที่ชื่อซ้ำกัน 2 วัดคือ วัดม่วยต่อ อ.ขุนยวม และวัดม่วยต่อ ในอำเภอเมือง สำหรับวัดม่วยต่อในอำเภอเมือง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ตีนเขาวัดพระธาตุดอยกองมู และยังเป็นที่ตั้งของ สำนักงานพุทธศาสนาอีกด้วย และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นวัดชื่อวัดม่วยต่อ แต่อยู่ในพื้นที่ อ.ขุนยวม
ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. ได้มีนายจำลอง จิโนเป็ง อายุ 52 ปี เดินทางมาจากอำเภอขุนยวมและเข้าพบกับ นายสุวิทย์ นนทวิศรุต ผอ.สำนักพุทธศาสนา โดยระบุว่า ตนเองและคณะกรรมการวัดม่วยต่อ อ.ขุนยวม อีกรวม 5 คน ได้เป็นคนนำคณะดนตรีโคโยตี้จากจังหวัดลำพูนมาแสดงในงานฉลองพัดยศ ของพระครูอนุสรณ์ศาสนกิจ โดยคิดว่าจะนำมาเพื่อสร้างความแปลกใจ ให้กับพระครู ฯ ในงานฉลองพัดยศ เท่านั้น ซึ่งในตอนแรกก็ได้แจ้งให้กับคณะดนตรีที่ชื่อทานตะวัน แล้วว่าห้ามมีการเต้นโคโยตี้อย่างเด็ดขาด แต่ทางคณะดนตรีกลับฝ่าฝืนคำสั่ง และมีการแสดงเต้นโคโยตี้ไปได้ 2 เพลง ก็ได้มีชาวบ้านที่ทนเห็นการแสดงลามกอนาจารในวัดไม่ไหว ได้ไปแจ้งให้กับพระครู ฯ เจ้าของงาน จากนั้นท่านพระครู ฯ ก็ได้สั่งห้ามเต้นโคโยตี้อย่างเด็ดขาด แต่ก็ยังคงมีการแสดงดนตรีทั่วไปจนถึง เวลา 24.00 น.จึงเลิกแสดง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นตนก็นึกไม่ถึงว่าจะหนักหนารุนแรงขนาดนี้และกราบขอโทษ ผอ.สำนักพุทธศาสนาด้วย รวมถึงของรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว ส่วนพระครูหลังจากที่ได้มีข่าวก็เกิดอาการป่วยกำเริบ เนื่องจากเป็นโรคหัวใจอ่อน ๆ อยู่ด้วย
ในส่วนของชาวบ้านทั่วไป ที่ทราบข่าว และรวมไปถึงที่เข้าไปดูการแสดงลามกดังกล่าว ได้แบ่งออกเป็นสองพวก พวกหนึ่งก็แสดงความคิดเห็นว่าเรื่องการแสดงดังกล่าว ไม่น่าจะมีปัญหาและทำให้เสียหายแต่อย่างใด ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ ต่างพากันวิจารณ์อย่างเสีย ๆ หาย ๆ และไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
