โคตรหินหนัก5ตัน หล่นจากเขาช่องกระจก

เมื่อแจ้นไปดูก็พบก้อนหินขนาดใหญ่น้ำหนักกว่า 5 ตัน ได้หลุดออกจากกลุ่มหินที่เกาะตัวกันบนยอดเขาช่องกระจก ตั้งอยู่ริมอ่าวประจวบคีรีขันธ์ หน้าศาลากลางจังหวัด กลิ้งลงมายังด้านล่างข้ามถนนลาดยางสายรอบเขาช่องกระจก ไปอยู่ภายในบริเวณวัดธรรมมิการามวรวิหาร ก่อนแตกออกเป็น 6 ก้อนกระจายอยู่

นายประสงค์ พิทูรกิจจา ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบต่างๆ เร่งดำเนินการป้องกัน

แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเขาช่องกระจกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด ซึ่งเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับทรัพยากรธรณีจังหวัดและทรัพยากรจังหวัด ได้ขึ้นไปสำรวจบนยอดเขา บริเวณจุดที่หินก้อนดังกล่าวหลุดกลิ้งลงมา

ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหินก้อนทำให้ต้นไม้หักไปเป็นทางจนถึงด้านล่าง

เชื่อว่าหินก้อนดังกล่าวน่าจะเกิดจากการผุกร่อนจากน้ำฝนที่ตกลงมาและไอน้ำจากทะเลที่เกาะก่อตัวอยู่นานหลายพันปี ทำให้หินเกิดอาการสึกกร่อน ร่วงลงมาจากยอดเขา ล่าสุดได้ส่งช่างขึ้นไปสำรวจความเป็นไปได้ ในการนำตาข่ายเหล็กทำการล้อมก้อนหินบนยอดเขาบางจุดที่ดูล่อแหลม เพื่อป้องกันไม่ให้มีหินหลุดลงมาได้อีก เพราะเกรงว่าประชาชนที่เดินทางผ่านเส้นทางและนักท่องเที่ยวจะได้รับอันตราย

สำหรับเขาช่องกระจก เป็นภูเขาขนาดเล็ก

อยู่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนสำคัญอยู่ด้านทิศเหนือของภูเขา มีช่องโปร่ง ดูคล้ายกับกรอบของกระจก มีบันไดเดินขึ้นไปจนถึงยอดเขา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธบาทจำลอง จากยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองและอ่าวประจวบฯ ได้อย่างสวยงาม

ชาวบ้านทั่วไปที่ทราบข่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา

เช่น เกรงว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะเกิดความแตกแยก เนื่องจากช่องกระจก เป็นกระจกส่องหน้าของนางยมโดย ในตำนานนิทานพื้นบ้านเรื่อง "ตาม่องล่าย" ที่สุดท้ายนางยมโดยได้ขว้างกระจกมาติดอยู่ที่ภูเขาแห่งนี้ กระจกแตก และเกรงว่าบ้านเมืองจะแตกไปด้วย