แอร์เชียยืนยันปักหลักดอนเมืองยาว

แอร์เชียยืนยันปักหลักดอนเมืองยาว

ดอนเมือง 1 ต.ค. - นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า 

แอร์เอเชียมีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานดอนเมืองในทุกด้านโดยเครื่องบิน ทั้ง  22  ลำของแอร์เอเชียได้ทยอยบินมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลำสุดท้ายในเวลา  04.00  น.ของวันที่  1 ตุลาคม  ซึ่งครั้งนี้แอร์เอเชียได้ใช้งบประมาณทั้งในการขนย้าย  ก่อสร้าง และตกแต่งสำนักงาน เคาน์เตอร์เช็คอิน และทำระบบต่าง  ๆ  เพื่อรองรับการกลับมาใช้ท่าอากาศยานดอนเมือง รวมกว่า 70 ล้านบาท

นายทัศพล กล่าวว่า การตัดสินใจของทุกฝ่ายทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายบริหารของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.

ที่กลับมาใช้ท่าอากาศดอนเมืองอีกครั้งนั้น  ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว การใช้ทั้ง  2  สนามบินจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีการจราจรทางอากาศที่คับคั่ง และผู้โดยสารกำลังจะเต็มอัตราการรองรับของอาคารผู้โดยสาร ประกอบกับแอร์เอเชียมีแผนในการขยายฝูงบินโดยสิ้นปีนี้จะมีเครื่องบินเพิ่มเป็น 27 ลำ อีก 4 ปีข้างหน้าก็จะมีถึง 48 ลำ ส่วนผู้โดยสารจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 8 ล้านคนต่อปี ในปีหน้าก็จะเพิ่มเป็น 10 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 14-15 ล้านคน ในอีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อมีฝูงบินและผู้โดยสารจำนวนมาก คงปักหลักฐานการบินอย่างถาวร ไม่ย้ายฐานการบินไปไหนอีก

“จากที่ได้สำรวจดูความพร้อมของดอนเมืองพบว่ามีความพร้อมอย่างมากในทุกด้าน รวมทั้งมาตรการป้องกันน้ำท่วม แต่หากท่วมอีกครั้งก็ต้องทำใจ  อย่างไรก็ตาม แอร์เอเชียจะทำให้ที่นี่มีความน่าสนใจทัดเทียมกับท่าอากาศสุวรรณภูมิและพบว่าการตรวจรับจากผู้โดยสารโดยรวมยังดีมากจากยอดการจองตั๋วเข้ามาก็ยังไม่ได้ลด และมีแนวโน้มว่าผู้โดยสารจะมากขึ้นเพราะได้รับความสะดวกจากการเดินทางคาดว่าทั้งเส้นทางในและต่างประเทศยอดการจองตั๋วจะโตขึ้นร้อยละ 2-3 และในอนาคตจะโตมากขึ้น เพราะหลังจากเพิ่มฝูงบินแล้วก็จะมีการขยายเส้นทางบินไปต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะในเส้นทางจีน และอินเดีย ส่วนในประเทศก็จะเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางที่ได้รับความนิยมให้มากขึ้น อีกทั้งจากขนาดสนามบิน ลักษณะรันเวย์ที่ขึ้นลงได้สะดวกมากขึ้นก็ทำให้ต้นทุนด้านพลังงานลดลงซึ่งคาดว่าอาจทำให้ลดลงได้มากกว่าร้อยละ 2-3 จากเดิม” นายทัศพล กล่าว

นายทัศพล  กล่าวเพิ่มเติมว่า  หากแอร์เอเชียยังอยู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็จะทำให้เกิดปัญหาด้านการบริการ

อย่างไรก็ตาม  หากในอนาคต ทอท.จะอนุญาตให้สายการบินอื่น ๆ ย้ายกลับมาดอนเมือง แอร์เอเชีย ก็ไม่ได้มองว่าสายการบินอื่น  ๆ  จะกลายเป็นคู่แข่ง เพราะเชื่อว่าแต่ละสายการบินก็มีกลุ่มลูกค้าของตนเองอยู่แล้ว  จึงไม่มีความวิตกในเรื่องดังกล่าว แต่ ทอท.ควรเร่งพัฒนาอาคารผู้โดยสาร 2 เพื่อรองรับให้เร็วที่สุดเพื่อให้กระทบกับสายการบินอื่น  ๆ  ที่ให้บริการอยู่เดิม เพราะแอร์เอเชียไม่ต้องการย้ายกลับไปที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิอีกแล้วและต้องการปักหลักอยู่ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง  เพราะฝูงบินที่เพิ่มมากขึ้นเกิน 30 ลำ     ทำให้การย้ายแต่ละครั้งลำบากและใช้งบประมาณมากขึ้นตามไปด้วย

การบริหารจัดการการจราจรทางอากาศที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพราะได้มีการทดสอบระบบแล้ว ซึ่งเที่ยวบินที่ขึ้นลงที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะมี 350-370 เที่ยวต่อวัน ถือว่าไม่แออัด เมื่อเทียบกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่มีเที่ยวบินขึ้นลงถึง 840 เที่ยวต่อวัน.  -สำนักข่าวไทย

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์